คนอีสานตอนบนเฉียดแสน ปักธงงดเหล้าเข้าพรรษา พบมหาสารคาม แสดงเจตนารมณ์งดเหล้า 3 เดือนมากที่สุด ขณะที สสส.มั่นใจประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้มากกว่า 105 ล้านบาท พร้อมประกาศชูธง ชงเชียร์ งดเหล้าครบพรรษา ทุกจังหวัด
26 มิ.ย.2565-ที่โรงแรมเฮือนต้นนุ่น ถ.อดุลยาราม เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายนิรุจน์ อุทธา ผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมด้วย นายชัยณรงค์ คำแด ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดเผยตัวเลขประชาชนในเขตจังหวัดภาคอีสานตอนบน ทั้ง 11 จังหวัดในการประกาศเจตนารมณ์งดเหล้าเข้าพรรษา ประจำปี 2565 รวมทั้งการมอบป้ายรณรงค์งดเหล้าและธงสัญลักษณ์โครงการฯ โดยในปีนี้พบว่าประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ร่วมลงชื่อและเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวตลอดทั้ง 3 เดือนรวมกว่า 70,200 คน
นายนิรุจน์ กล่าวว่า การประชุมเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนทั้ง 11 จังหวัดวันนี้นอกจากจะเป็นการร่วมประกาศเจตนารมณ์และเปิดแคมเปญคิกออฟ ชูธง ชง เชียร์ งดเหล้าเข้าพรรษา 2565 ซุปเปอร์ แม่พ่อ พอแล้ว เหล้าเบียร์ แล้วยังคงมีการเปิดเผยตัวเลขประชาชนชนที่ร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการงดเหล้าเข้าพรรษา ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่จะถึงนี้เป็นเวลา 3 เดือน โดยพบว่ามีปีนี้ คนอีสานตอนบนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 70,200 คน มากที่สุดคือ จ.มหาสารคาม 17,500 คน รองลงมาคือ จ.เลย 14,500 คน,ร้อยเอ็ด 10,000 คน ขณะที่จังหวัดต่างๆประกอบด้วย อุดรธานี 1,500 คน,หนองบัวลำภู 6,000 คน,หนองคาย 3,500 คน,ขอนแก่น 5,000 คน,สกลนคร 6,000 คน,บึงกาฬ 4,000 คน,นครพนม 1,200 คนและ จังหวัดที่มีผู้ร่วมกิจกรรมน้อยที่สุดคือ จ.กาฬสินธุ์ 1,000 คน
“เทศกาลงดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า ภาคอีสานตอนบน 11 จังหวัด ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแสในเรื่องของการงดเหล้าเข้าพรรษา ด้วยการประสานความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัด,สาธารณสุขจังหวัด,นายอำเภอ และภาคีเครือ จนเกิดปรากฏการณ์งดเหล้าเข้าพรรษาในระดับพื้นที่ที่ภาคอีสานตอนบนรวม 70,200 คน ซึ่งหากคิดเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนคนละ 500 บาทต่อเดือนหากงดครบ 3 เดือน จะลดค่าใช้จ่ายค่าเหล้าเบียร์ได้ถึงประมาณ 105.30 ล้านบาท ดังนั้นในปีนี้คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายจึงกำหนดแนวทางการรณรงค์งดเหล้าด้วยการยกย่องให้กำลังใจ พ่อ-แม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณ คุณป้า คุณน้า และคุณอา ให้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของลูกหลาน เพื่อเชิดชูให้บุคคลเหล่านี้มีกำลังใจ และเป็นการสร้างแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนในภาพรวมอีกด้วย”
นายนิรุจน์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา คือการสร้างกระแส ในภาพรกว้างเพื่อให้เกิดการรับรู้ เชิญชวนให้คนดื่มให้ลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยใช้โอกาสวันสำคัญช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ระยะเวลา – เดือน และการรณรงค์เชิงคุณภาพ ด้วยการใช้กระบวนการชวน ช่วย เชียร์ เชิดชู ให้กับผู้ที่สมัครงดเหล้าเข้าพรรษา ให้สามารถตั้งใจงดเหล้าเข้าพรรษาได้จนครบพรรษาและขยายไปสู่การงดเหล้าตลอดชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งขณะนี้ในหลายจังหวัดที่มีผลการดำเนินงานที่เข้มแข็ง ได้มีการประกาศให้เป็นชุมชนคนสู้เหล้า ที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและเป็นต้นแบบระดับประเทศอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชวนนักดื่ม “ตรวจตับ-เลิกจับขวด” ฟื้นฟูสุขภาพคืนความสุขครอบครัว
"งดเหล้าเข้าพรรษา" ในระยะเวลา 3 เดือน ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลสำคัญ ที่มุ่งเน้นให้ชาวพุทธงดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการรักษาประเพณีและศีลธรรมเท่านั้น
“สุรศักดิ์” รมช.ศธ. เดินหน้าขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ชูโมเดล “ศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย จ.อยุธยา” ของสสส.
วันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ภายในงานเวทีสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนั
สสส.สานพลังภาคี ขจัดความเหลื่อล้ำกิจกรรมทางกาย ดึงคนไทยสู่เวอร์ชั่นใหม่
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
สสส.-สคล. ผนึกภาครัฐ เอกชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนไม่เกิน 15 ปี ชิงถ้วยกรมสมเด็จพระเทพฯ
สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ
"สิทธิในอาหารเพื่อชีวิตที่ดี" ความตระหนักรู้เสริมสุขภาวะ
เด็กทั่วโลกเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านอาหาร เพราะการบริโภคไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาวะอ้วนผอม ชาวโลกเผชิญความอดอยากเกือบ 300 ล้านคน
สสส.ชวนคนรักสุขภาพ ร่วม'เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง' กระตุ้น'นักวิ่งหน้าใหม่'ลงสนาม8ธ.ค.นี้
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต