
ทัพเรือภาคที่ 3 ให้การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮีนจาที่ถูกปล่อยทิ้งบนเกาะลอ-กลอย จ.สตูล
5 มิ.ย.2565-พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีตรวจพบชาวโรฮีนจาหลบหนีเข้ามาพักบริเวณเกาะลอ-กลอย อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูลว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.เวลาประมาณ 10.00 น. แหล่งข่าวทางทะเลแจ้งพบกลุ่มคนอยู่บนเกาะลอ-กลอย (หรือเกาะดง) คาดว่าเป็นกลุ่มคนหลบหนีเข้าเมือง ในการนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 (ศปก.ทรภ.3) จึงได้สั่งการให้ หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศฝั่งที่ 491 (นป.สอ.รฝ.491) เข้าดำเนินการตรวจสอบร่วมกับ เจ้าหนาที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา เบื้องต้นตรวจพบว่าเป็นชาวโรฮีนจา จำนวน 59 คนแบ่งเป็นชาย 31คน หญิง 23คน เด็กชาย 3คน เด็กหญิง 2คน โดยทั้งหมดได้โดยสารมากับเรือประมงขนาดใหญ่ออกเดินทางจากประเทศบังกลาเทศ โดยมีจุดหมายที่ ประเทศมาเลเซีย แต่เมื่อเดินทางมากัปตันเรือได้นำกลุ่มคนเหล่านี้มาปล่อยไว้บนเกาะดังกล่าว พร้อมทั้งบอกว่าเกาะนี้คือพื้นที่ประเทศมาเลเซีย
หลังจากนั้นก็ออกเรือไป
ศปก.ทรภ.3 จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอาหารและน้ำดื่มให้กับชาวโรฮีนจาบนเกาะลอ-กลอย พร้อมจัดเรือ ต.996 ลำเลียงชาวโรฮีนจา จากเกาะลอ-กลอย ไปยัง นป.สอ.รฝ.452 เพื่อส่งให้ กอ.รมน.จังหวัดสตูลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมาย ล่าสุด เรือ ต.996 ได้ลำเลียงชาวโรฮีนจา จำนวน 59 คนส่งตัวให้ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอำเภอละงู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้น กอ.รมน.จังหวัดสตูล นำตัวไปควบคุมที่กองร้อย ตชด. 436 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ต่อไป
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย กองทัพเรือ (ศอ.ยฐ.ทร.) และ ศูนย์ปฏิบัติการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดียทัพเรือภาคที่ 3 (ศปก.ยฐ.ทรภ.3) ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการจัดกำลังลาดตระเวนทางทะเลและทางอากาศ การเฝ้าตรวจพื้นที่ตามเกาะต่างๆ และการจัดเรือรับสถานการณ์เฝ้าระวังในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนทางทะเลไทย – มาเลเซีย โดยเฉพาะบริเวณหมู่เกาะอาดัง – ราวี ที่เป็นจุดเสี่ยง และคาดว่าเรือของกลุ่มผู้หลบหนีฯ จะเดินทางผ่านไปยังประเทศเป้าหมาย รวมทั้ง ประสาน ศรชล.ภาค 3 เพื่อแจ้งให้กลุ่มเรือประมงในพื้นที่ ได้ช่วยในการเฝ้าระวัง
“กองทัพเรือยังคงยึดถือการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายตามแนวทางการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล (Standard Operating Procedure – SOP) ที่ สมช. กำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมตามความเหมาะสมในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แต่ละอย่าง! ฉก.นย.ตราด เข้าควบคุมพื้นที่บ่อนกาสิโนเขมร พบสิงโต–หมีถูกขังในกรง
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ภายหลังที่ทหารนาวิกโยธินจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและต
รองโฆษกทร. แจงนำ 'ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก' เข้าพื้นที่บ้านทมอดา ยันอยู่เขตแดนไทย
รองโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีปรากฏภาพยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก ของ ทร. ในพื้นที่บ้านทมอดา
ประณาม 'กัมพูชา' ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโจ่งแจ้ง
ทร.ประณามกัมพูชา ฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าสู่ทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างโจ่งแจ้ง
ทำสำเร็จ! ทหารนาวิกโยธิน ยึดคืนพื้นที่บ้านท่าเส้น-กาสิโนทมอดา จ.ตราด ฝ่ายไทยปลอดภัยไม่สูญเสีย
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้ดำเนินการเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณ บ้านท่าเส้น ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด รวมถึงพื้นที่อาคาร
ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ
โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ
'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'
'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย

