ผู้ประกอบการสถานบันเทิงที่บุรีรัมย์เร่งปรับปรุงทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เช็กระบบไฟ เครื่องเสียง เตรียมพร้อมเปิดให้บริการ ยันพร้อมปฏิบัติตามประกาศ ศบค.แต่ยังกังวลถูกปิดอีก
01 มิ.ย.2565 - ผู้ประกอบการสถานบันเทิงหลายแห่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ต่างให้พนักงานเร่งปรับปรุง ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ จัดโต๊ะเก้าอี้ เช็กระบบไฟ และเครื่องเสียงภายในร้าน เพื่อเตรียมเปิดให้บริการ หลังจากคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 (ศบค.) ได้เห็นชอบปลดล็อกหรือผ่อนคลายให้ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานบริการที่มีลักษณะคล้ายกันในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 17 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) อีก 14 จังหวัด สามารถเปิดให้บริการได้ตามเวลาที่กำหนด คือ ไม่เกิน 24.00 น. หรือเที่ยงคืนภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อของกระทรวงสาธารณสุข อาทิ พนักงาน นักร้อง นักดนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์, ต้องมีการตรวจคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกคนด้วย (TST), ตรวจพนักงานทุกคนด้วย ATK ทุก 7 วัน และเมื่อมีอาการหรือความเสี่ยง ส่วนผู้รับบริการต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น จัดระยะห่างโต๊ะอย่างน้อย 1 เมตร เป็นต้น
โดยผู้ประกอบการต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่ได้เปิดให้บริการ หลังจากที่ปิดมานานร่วมปี ทำให้ทั้งผู้ประกอบการ พนักงานต่างได้รับผลกระทบขาดรายได้ไปตามๆกัน แต่พอภาครัฐผ่อนปรนให้เปิดบริการได้ แม้จะถึงเที่ยงคืนแต่ก็เป็นแนวโน้มที่ดีที่จะได้ทำมาหากิน ซึ่งผู้ประกอบการก็พร้อมให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการตามที่ภาครัฐกำหนด
ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่ามีผู้ประกอบการสถานบันเทิงบางราย ที่ยังไม่มีการทำความสะอาดเตรียมเปิดให้บริการ อาจจะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์กลัวจะถูกปิดอีก อาจจะรอดูท่าทีหรือสถานการณ์อีกสักระยะก่อน
ผู้ดูแลร้านสถานบันเทิง แห่งหนึ่ง บอกว่า รู้สึกดีใจที่ภาครัฐอนุญาตให้เปิดบริการในวันนี้หลังจากที่ปิดไปนานร่วมปี ทำให้ทั้งผู้ประกอบการและพนักงานได้รับผลกระทบไปตามๆ กันเพราะขาดรายได้ พนักงานแต่ละคนจึงต้องดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการไปหาอื่นงานทำเลี้ยงชีพช่วงที่รัฐให้ปิดบริการ ส่วนที่รัฐอนุญาตให้เปิดบริการได้ก็พร้อมปฏิบัติมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนพนักงานเดิมที่ก็มีหลายคนที่ไม่กลับมาทำงานอีก แต่คงจะยังไม่รับสมัครเพิ่ม ต้องรอดูอีกทีว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือไม่
“ยอมรับว่ายังแอบกังวลอยู่บ้างกลัวว่าอาจจะมีสถานการณ์อะไรที่ทำให้ต้องถูกประกาศปิดบริการอีก จึงอยากจะฝากถึงทางภาครัฐว่า หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากจะให้ประกาศปิดอีก ควรจะใช้มาตรการอื่นแทนที่ยังพอให้สามารถยังทำมาหากินได้ จะได้ไม่เดือดร้อนหรือกระทบมากนัก เพราะทุกคนต้องทำมาหากินที่ผ่านมาก็กระทบหนักแล้ว”