20 เมษายน 2565 - ที่บริเวณห้วยแม่งูด หมู่บ้านแม่งูด ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านทั้งหญิงชาย ผู้เฒ่าผู้แก่ เด็ก เยาวชน กว่า 80 คน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมแสดงความเคารพบูชาแม่น้ำ เพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล โดยเฉพาะลำห้วยแม่งูดเป็นสายน้ำที่สำคัญของชุมชน โดยชาวบ้านแม่งูดซึ่งเป็นชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโผล่ง (กะเหรี่ยงโปว์) มีความเชื่อว่า แม่น้ำคือแหล่งชีวิต ชุมชนต่างรักและหวงแหน ไม่อยากให้เกิดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ชาวบ้านจะร่วมกันรักษาไว้สืบต่อให้ลูกหลาน โดยทุกๆ เดือนเมษายนชาวบ้านจะร่วมกันจัดกิจกรรมนี้
ทั้งนี้ลำห้วยแม่งูด เป็นพื้นที่ซึ่งถูกกำหนดเป็นปากอุโมงค์ ในโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม หรือที่รู้จักกันว่าโครงการผันน้ำยวม ที่เสนอและผลักดันโดยกรมชลประทาน มูลค่าโครงการที่ระบุในการศึกษาวิเคาะห์โครงการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนกว่า 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ที่มีการว่าจ้างให้จัดทำโดยมหาวิทยาลัยนเรศวร(มน.) ระบุว่าจะมีที่ดินของชาวบ้านห้วยแม่งูดได้รับผลกระทบจากโครงการผันน้ำ
นายวันชัย ศรีนวน ผู้ใหญ่บ้านแม่งูด กล่าวว่าเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมาชาวบ้านได้รวมตัวกันไปยังลำห้วย เพื่อเตรียมสถานที่ ทำเรือไม้จำลอง นก หอย ปลา เต่า ทำซุ้มและสะตวง เพื่อถอนสิ่งที่ไม่ดีออกไป ชาวบ้านได้รวมกันขอขมาสิ่งต่างๆ ที่หากได้เคยล่วงเกินต่อแม่น้ำและธรรมชาติ โดยในช่วงเช้าชาวบ้านนิมนต์พระ 5 รูป สวดมนต์ และแสดงธรรมมัจฉาปลาช่อน ขอให้บ้านเราอยู่ดีมีสุข ให้สายน้ำและผืนดินหล่อเลี้ยงชุมชน วันนี้มีชาวบ้านมาร่วมทุกหลังคาเรือน แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดจึงขอให้มาร่วมแค่หลังคาเรือนละ 1 คน เพื่อไม่ให้แออัดและลดความเสี่ยงโควิด แต่ชาวบ้านอยากมาร่วมกันจำนวนมาก
“ตอนนี้ชาวบ้านต่างมีความตื่นตัวต่อโครงการผันน้ำยวมที่จะทำลายทรัพยากรของเรา เด็กและเยาวชนใน ต.นาคอเรือ กำลังวางแผนที่จะไปเรียนรู้ธรรมชาติในพื้นที่ ที่แม่น้ำเงา ยวม และสาละวิน ที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพราะรู้ว่าโครงการผันน้ำยวมจะส่งผลกระทบต่อประชาชนใน 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และตาก เป็นผืนป่าที่สมบูรณ์พวกเราชาวกะเหรี่ยงและชุมชนท้องถิ่นได้ร่วมรักษามาหลายชั่วอายุคน หากเราไม่ปกป้องก็คงไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานอีกแล้ว” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว
อนึ่งโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม ได้มีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากขาดการมีส่วนร่วมจากผู้ได้รับผลกระทบ และพบว่ารายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่จัดทำโดย มน. มีการใช้ข้อมูล รูปภาพ ผิดและไม่ตรงข้อเท็จจริงหลายจุด จนเป็นที่มาของแฮชแทก #อีไอเอร้านลาบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โฆษกศปช. เผยกรณี 'น้ำผุด' อ.เชียงดาว มอบหน่วยงานลงพื้นที่ศึกษาแนวทางใช้ประโยชน์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศปช. ได้เคยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ไปแล้วก่อนหน้านี้
สาวไทยแพ็คกระเป๋า แอ่วเหนือไปพร้อมกับเจ้าของรอยยิ้มพิฆาต 'คิม ซอน โฮ'
ทรูวิชั่นส์ นาว เอาใจสาวไทย ที่หลงรักในรอยยิ้มกระชากใจของเขยไทยอย่าง “คิม ซอน โฮ” ที่ครั้งนี้จะรับบทแขกรับเชิญพิเศษ พาสาว ๆ ไปออกเดท ท่องเที่ยวกันแบบชุ่มปอดที่ภาคเหนือของประเทศไทย ในรายการ “Brothers who eat and watch S2” (คู่หูตะลุยพาชิม ปี 2) ที่มีพิธีกรหลักดำเนินรายการอย่าง “คิมจุนฮยอน” และ “มุนเชยุน”
ทะเลหมอก! ยอดดอยอินทนนท์ หนาวสะท้าน อุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาฯ
จังหวัดเชียงใหม่อากาศหนาวเย็นต่อเนื่องโดยเฉพาะที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง เช้าวันนี้อุณหภูมิเป็นเลขตัวเดียว