สคร.12 สงขลาเตือน 6 กลุ่มเสี่ยงระวังป่วยโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก ขอให้ดูแลสุขภาพของตนเองและหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดที่ร้อนจัด โดยควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ
20 เม.ย.2565 - นพ.เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้สภาพอากาศโดยทั่วไปมีอุณหภูมิสูงขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอาจเจ็บป่วยจากโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก (Heat stroke) ได้แก่ 1.ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น ผู้ที่ทำงานก่อสร้างหรือออกกำลังกาย 2.เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและผู้สูงอายุ 3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง 4.ผู้ที่มีภาวะอ้วน 5.ผู้ที่นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ และ 6.ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก โดยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม ซึ่งในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้รวดเร็ว และออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น มีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้
นพ.เฉลิมพลกล่าวอีกว่า ผู้ที่มีอาการฮีทสโตรกจะมีอาการตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่มีเหงื่อออก กระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยรีบนำผู้ป่วยเข้าในที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก ให้ดื่มน้ำเย็น ให้นอนราบและยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นสูง ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามหน้าผาก ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ร่วมกับใช้พัดลมเป่าช่วยระบายความร้อน เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด ถ้ามีอาการรุนแรง หมดสติ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที หรือโทรสายด่วน 1669
“สคร.12 สงขลา ขอแนะนำประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเอง ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ระบายความร้อนได้ดี ควรอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ลดหรือเลี่ยงทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงกลางแจ้งนานๆ สวมแว่นกันแดด กางร่ม สวมหมวกปีกกว้าง ควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อชดเชยการเสียน้ำในร่างกายจากเหงื่อออก หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และอย่าทิ้งเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดไว้กลางแจ้ง เนื่องจากอุณหภูมิภายในรถจะสูงกว่าภายนอก ส่วนผู้ที่ออกกำลังกาย ควรเลือกในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก และเป็นเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”นพ.เฉลิมพลกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรุงเทพฯ เมืองอยู่ยาก อนาคตวันอากาศร้อนพุ่ง 3 เท่า
2 เดือนมานี้คนไทยเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร้อนโหดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากฮีทสโตรกตามที่ปรากฎเป็นข่าว ซึ่งล่าสุดรายงานกระทรวงสาธารณสุขระบุ
อากาศร้อนดับสองรายซ้อน หนุ่มวัย 39 หมดลมหายใจต่อหน้าญาติ อีกรายชายอายุ 61 เสียชีวิตในบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายในสภาพอากาศร้อนจัดอุณหภูมิพุ่ง 43 องศา รายแรกนายพงษ์ศักดิ์ เงินมี อายุ 39 ปี หมดสติและหยุดหายใจหงายหลัง
อากาศร้อนจัด! หนุ่มเมืองคอนวัย 30 นอนเสียชีวิตในบ้าน คาดฮีทสโตรก
ร.ต.อ.อภินันท์ พลศรพ.ร้อยเวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไดรับแจ้งมีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุในบ้านหลังหนึ่ง หนึ่งบริเวณหลังตลาดสดคูขวาง ถนนปากนคร ต.ท่าวัง อ.เมือง เขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยพญ.ฤณฐารัตน์ วิจิตรพงศ์จินดา
กรมอุตุฯ เตือน 31 มี.ค.-6 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด ระวังโรคลมแดด ท้องร่วง
31 มี.ค.-6 เม.ย.67 จะเป็นช่วงที่มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่บริเวณประเทศไทยตอนบน เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุม