หนุ่มเครียดบุกวัดขังพระเป็นตัวประกัน สุดทนสู้มา 7 ปี ทางเข้าสวนยางถูกปิดตายไม่คืบหน้า

สุดทนสู้มา 7 ปี! ชายวัย 54 ปีเครียดบุกวัดขังพระลูกวัดเป็นตัวประกัน ก่อนแจ้งสื่อทำข่าว เพื่อขอให้หน่วยงานเร่งแก้ปัญหาทางเข้าสวนยางพาราถูกปิดตาย หลังทำถนนใหม่ ร้องมา 7 ปีแล้ว ถึงขั้นเคยจับ ผอ.สตง.ตรังเป็นตัวประกันปีที่แล้ว คดีไม่คืบหน้าจึงเกิดความเครียดสะสม ลั่นจะทำรุนแรงขึ้นอีกหากทางเข้าบ้านและสวนยางยังถูกปิดตาย

18 เม.ย.2565 - ที่วัดห้วยสอ หมู่ที่ 2 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายสมนึก ธูปหอม นายอำเภอย่านตาขาว พร้อมด้วยนายทวีศักดิ์ หวังกา นายก อบต.โพรงจระเข้, ตำรวจ สภ.บ้านในควน ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ตรัง และผู้นำชุมชนรวมกว่า 10 คน กำลังช่วยกันเจรจากับนายแทนคุณ แผ่นปฐพี อายุ 54 ปีชาวบ้านหมู่ 4 ต.โพรงจระเข้ หลังเข้าไปก่อเหตุใช้กรรไกรขู่พระธนศร ฉนฺทปาโล หรือหลวงโต๊ด อายุ 32 ปีพระลูกวัดห้วยสอ ให้เข้าไปอยู่ในกุฏิห้ามออกมานอกกุฏิจนกว่าผู้ก่อเหตุจะอนุญาต ระหว่างที่ขังพระธนศรฯ อยู่ก็ได้มีการพูดคุยเรื่องที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 เข้ามาขอบริจาคที่ดินจากชาวบ้าน เพื่อขยายถนนเมื่อปี 2559 ระยะทางยาว 1,700 เมตร โดยใช้งบประมาณจำนวน 200,000 บาท แต่เมื่อสร้างถนนแล้วเสร็จ

ในปี 2561 ได้ถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ปิดทางเข้าออกสวนยางพาราของตนและชาวบ้าน อ้างว่ายังไม่อุทิศที่ดินให้ ทำให้ชาวบ้านต้องปล่อยบ้านทิ้งร้าง สร้างไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากถนนที่ทำใหม่ผ่านได้เฉพาะรถจักรยานยนต์ และต้องเสียเงินค่าผ่านทางครั้งละ 2,000 บาท โดยนายแทนคุณฯ ได้ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานเป็นเวลาเกือบ 7 ปีแล้ว แต่ปัญหาปิดทางเข้าออกก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงเกิดความเครียดถึงขั้นบุกไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรังและขู่บังคับ ผอ.สตง.ในห้องทำงานมาแล้วเมื่อปี 2564 แต่เรื่องก็ยังเงียบเหมือนเดิม

มาวันนี้ ผู้ก่อเหตุเกิดความเครียดหนัก เนื่องจากขาดรายได้จากการกรีดยางพารา จึงเข้ามาในวัด เพื่อขังพระธนศร ไว้เพื่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ใน จ.ตรังช่วยหาทางเข้าบ้านและสวนยางพาราให้ที โดยได้โทรศัพท์แจ้งผู้สื่อข่าวให้เข้ามาทำข่าวด้วย และหากเหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านไปแล้ว ยังไม่ได้รับการเหลียวแล ผู้ก่อเหตุก็ขู่ว่าจะก่อเหตุที่รุนแรงกว่านี้แน่ หากทางเข้าออกสวนยางพาราของตนและชาวบ้านยังถูกปิดตาย หลังรอมานานเกือบ 7 ปี มีแต่รับปาก แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ขณะที่พระธนศร ฉนฺทปาโล พระลูกวัดห้วยสอ กล่าวว่า ตอนแรกผู้ก่อเหตุบอกว่ามีธุระส่วนตัวจะคุยด้วย แต่พาเข้าห้องและปิดประตู แล้วบอกว่าต้องการทำถนนใหม่ โดยคุยกันนานเกือบ 2 ชั่วโมงและผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์บอกนายอำเภอ เลขาผู้ว่า และนักข่าว โดยมีกรรไกรมาด้วย 1 อัน ไม่ได้จี้อะไร ความรู้สึกตอนนั้นก็ไม่มีอะไร เขามาก็พูดดี ๆ ไม่ได้ขู่มากมายแค่บอกไม่ให้ไปไหน ให้อยู่แต่ในห้อง พอดีตนมีกิจนิมนต์ก็ต้องยกเลิกไป โดยปกติรู้จักกันดี เมื่อก่อนสนิทมาหากันบ่อย ครั้งนี้บอกมาธุระ ไม่มีอะไรมาก

ด้านนายแทนคุณ แผ่นปฐพี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า สวนของตนไม่มีทางเข้าออก ตนทำเพื่อชาวบ้านทุกคนเพราะไม่มีถนนใช้ เป็นแบบนี้มา 7 ปีแล้วก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 65 ตนไปหาผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าฯ บอกว่าเรื่องนี้ต้องมีคนผิดคนถูก แต่จนถึงวันนี้ยังหาคนผิดไม่ได้ทั้งที่ถนนทำงบไว้แล้ว แต่เขาจะมาบ่ายเบี่ยงเป็นเรื่องนี้ ตนเรียกร้องเรื่องนี้ ส่วนแรงจูงใจให้ก่อเหตุเพราะเมื่อวันที่ 26 เมษายนปีที่แล้วก็เคยก่อเหตุกับ ผอ.สตง.แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จึงมาก่อเหตุอีกครั้งและจะก่อเหตุไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีคำตอบในเร็ว ๆ นี้

แต่ในวันนี้ตนไม่ได้ทำอะไรพระ แค่อยากให้หน่วยงานรับรู้ และเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นกว่านี้ถ้ายังไม่ได้รับการแก้ไข ตนดูทีวีทุกคืนข่าวแบบนี้ถ้าเป็นจังหวัดอื่นได้รับการแก้ไขไปนานแล้ว ไปพบนายชวนหลีกภัยก็แล้ว มีรูปอยู่ด้วย หาผู้ว่าหาหมดแล้วแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เลยอยากให้สื่อช่วยตนด้วย เพราะเคยไปร้องเรียน นายชวน หลีกภัยแล้ว ประธานรัฐสภา แต่ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

ด้านนายสมนึก ธูปหอม นายอำเภอย่านตาขาว จ.ตรังกล่าวว่า เท่าที่พูดคุยกันทราบว่า ผู้ก่อเหตุเดือดร้อนเรื่องทางเข้าออก ซึ่งเจ้าของที่ไม่ยินยอมและเคยเจรจา เจ้าของที่ให้ผ่านเฉพาะรถเครื่องจึงไม่สะดวก ทางอำเภอจะเร่งรัดเพราะเคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้ว เรื่องนานมาแล้วตั้งแต่ปี 59 สรุปไปแล้วตอนนี้ก็มาร้องเรียนใหม่ กำลังหาเส้นทางใหม่ให้ เพราะที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ปฎิรูป ก็ให้ปฎิรูปที่ดินจังหวัดมาดูแลแล้ว ก็จะเร่งดำเนินสร้างเส้นทางให้ใหม่ด้วย

ขณะที่ นายทวีศักดิ์ หวังกา นายก อบต.โพรงจระเข้ ซึ่งเข้าไปเจรจา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้จะทำอะไรพระ เพียงอยากเรียกร้องให้ถนนหนทางในหมู่บ้าน ซึ่งมีเรื่องขัดผลประโยชน์ในกลุ่มอื่น ซึ่งก่อสร้างไปแล้ว 6-7 ปี แต่ไม่ได้ใช้งาน เพราะเจ้าของที่ดิน 1 เจ้า ไม่ได้อุทิศที่ดินให้ เมื่อถนนเสร็จก็ไม่มีทางเข้าออก ทำให้สวนยางของผู้ก่อเหตุและชาวบ้านอีกหลายคนซึ่งอยู่ด้านในก็ไม่มีเส้นทาง ส่วนของตนเองก็คิดว่าจะแก้ปัญหาโดยตัดถนนเส้นใหม่อีก 1 เส้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการขออุทิศที่ดินจากชาวบ้าน

เบื้องต้น ทางพระลูกพระไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการเพียงแค่ลงประทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆทั้งสิ้น.