15 มี.ค.2565 - จากกรณีนายพัดยศ ชนภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 แผนกช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เสียชีวิตจากการรับน้องใหม่จากกลุ่มรุ่นพี่
ล่าสุดวันนี้ นายเอกชัย ชนภักดี อายุ 55 ปี และนางนิตยา ชนภักดี อายุ 42 ปี พ่อและแม่ของน้องเปรม พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เดินทางไปติดต่อขอรับศพของน้องเปรมที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยครอบครัวเตรียมนำศพของน้องเปรมส่งไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ
นายเอกชัย ชนภักดี พ่อของน้องเปรม เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวคุณพ่อ และคุณแม่ก็ได้เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อมาดูศพของลูกชาย ซึ่งหลังจากเดินทางมาถึงคุณพ่อ และคุณแม่ก็ได้พบกับกลุ่มรุ่นพี่ที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายของน้องเปรมแล้ว มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน โดยรุ่นพี่ทุกคนยอมรับผิด และได้มากราบเท้าพ่อ โดยยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากการกระทำรับน้องที่รุนแรงเกินเกว่าเหตุ ซึ่งตนก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนกลุ่มรุ่นพี่ไป ทั้งนี้เหตุการณ์รับน้องรุนแรงเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตนก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับใครอีก ตนเคยดูข่าว และเคยเสียใจกับเหตุการณ์แบบนี้ พอมาเจอกับตัวเองก็รู้สึกปวดใจ เพราะพ่อแม่ทุกคนก็ตั้งความหวังไว้กับลูก ซึ่งตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยเมื่อตนทราบข่าวน้องเปรมเสียชีวิตตนรู้สึกเสียใจเหมือนจะเป็นลม ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกชาย พ่อแม่ส่งให้ลูกไปเรียน ตั้งความหวังไว้กับลูก แต่ก็ต้องมามีจุดจบแบบนี้ ซึ่งขณะนี้ตนก็ยังทำใจไม่ได้
นางนิตยา ชนภักดี อายุ 42 ปี แม่ของน้องเปรม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อนของน้องเปรมเล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุมีทั้งกลุ่มรุ่นพี่ และกลุ่มของรุ่นน้องไปด้วยกันหลายคน ซึ่งพวกเพื่อนของน้องเปรมก็ยอมรับว่า รุ่นน้องทุกคนถูกต่อยที่บริเวณหน้าอก แต่ตนก็ไม่รู้ว่าถูกต่อยมากน้อยแค่ไหน น้องเปรมถึงได้ล้มฟุบไป ตนทราบแต่เพียงว่ามีการต่อยหน้าอกของน้อง ทั้งนี้ตนมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงเกินไป เพราะหากไม่ทำรุนแรงน้องเปรมก็คงไม่เสียชีวิต เพราะน้องเปรมเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง หากไม่ถูกกระทำรุนแรงหือโดนต่อยเพียงครั้งเดียว น้องเปรมก็ไม่น่าถึงกับเสียชีวิต ซึ่งคุณแม่มองว่าน้องน่าจะถูกกระทำรุนแรงหลายครั้ง เพราะหากโดนกระทำรุนแรงน้องเปรมก็คงไม่ตาย ทั้งนี้ตนอยากฝากบอกพวกรุ่นพี่ทั้งหลายว่า อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก อยากให้กรณีของน้องเปรมเป็นกรณีสุดท้าย และไม่เกิดเรื่องแบบนี้กับรุ่นน้องขึ้นอีก
ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ซึ่งได้เดินทางมาช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อขอรับศพให้กับครอบครัวของน้องเปรม เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องทางมหาวิทยาลัยก็ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ และให้ความช่วยเหลือครอบครัวของน้องเปรมทันที โดยทางมหาวิทยาลัยกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด และยืนยันว่าจะลงโทษกับนักศึกษารุ่นพี่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน โดยจะมีบทลงโทษตามระดับความผิดของแต่ละคน ตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออก และโทษสูงสุดคือไล่ออก โดยจะพิจารณาสอบสวน และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ทราบเรื่อง และทางมหาวิทยาลัยก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมกลุ่มรุ่นพี่ถึงจัดกิจกรรมรับน้องในช่วงนี้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปลายภาคเรียน อีกทั้งทางมหาวิทยาลัยมีนโยบายในการห้ามจัดกิจกรรมรับน้องทั้งในสถานที่ และนอกสถานที่อย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว
รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของน้องเปรม ที่ต้องสูญเสียบุตรผู้เป็นที่รัก และอนาคตของชาติ อันเป็นผลจากการกระทำของกลุ่มนักศึกษาที่กระทำลงไปโดยขัดกับประกาศและกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิดเพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวผู้กระทำผิด เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินคดีถึงที่สุด
เบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดขึ้นในช่วงปิดภาคการศึกษา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 23.00 น. โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นนักศึกษา ระดับ ปวส. ชั้นปีที่ 1 และ ปวส.ปีที่ 2 เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 60 คน สถานที่เกิดเหตุอยู่ภายนอกมหาวิทยาลัย ห่างจากมหาวิทยาลัยประมาณ 10 กิโลเมตร โดยมีกลุ่มรุ่นพี่ผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมนี้ จำนวน 6 ราย โดยทางมหาวิทยาลัยได้อำนวยความสะดวก และให้ความดูแลช่วยเหลือผู้ปกครองของน้องเปรมอย่างใกล้ชิด และดีที่สุด
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยขอประณามการกระทำของนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบมหาวิทยาลัย และขอให้นักศึกษาทุกคนพึงสังวรณ์ถึงผลอันร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นกับการกระทำที่ละเมิดกฎระเบียบ และขอย้ำไม่ให้กระทำกิจกรรมที่ละเมิดฝ่าฝืนกฎระเบียบในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด และขอให้ทราบว่ามหาวิทยาลัยพร้อมจะดำเนินการทางวินัยขั้นสูงสุดกับนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผกก.สภ.มะเริง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมรับน้อง ซึ่งเป็นกลุ่มรุ่นพี่มาสอบปากคำทั้งหมด 7 ปาก เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดได้ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุได้มีการจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่จริง โดยไม่เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งกลุ่มรุ่นพี่ทุกคนก็มีความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยอมรับผิด โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายกับกลุ่มรุ่นพี่ทั้ง 7 คนแล้ว หากการสอบสวนพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
ส่วนศพของน้องเปรมนั้น ทางพ่อ และแม่ได้ส่งศพน้องไปตรวจพิสูจน์ศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากน้องที่เสียชีวิตติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การดำเนินการผ่าพิสูจน์ศพจึงต้องผ่าในห้องความดันลบ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อกระจาย ขณะที่การเจรจาพูดคุยหาทางเยียวยาให้กับครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้นัดหมายทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต ทางกลุ่มรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรม และทางมหาวิทยาลัยมาพูดคุยเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สลด! นักเรียนหญิง ม.3 พลัดตกอาคารชั้น 7 เสียชีวิตแล้ว
เกิดเหตุเด็กนักเรียนหญิงของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลัดตกลงมาจากอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติ
โคราชจัดยิ่งใหญ่ เทศกาลเที่ยวพิมาย ปี 2567 เช็กกิจกรรมไฮไลท์ในงานถึง 10 พ.ย.
ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลเที่ยวพิมาย ประจำปี 2567
ไอเดียเจ๋ง! แต่งผีชวนคนบริจาคเลือดฉลองฮาโลวีน
นางสาวศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนางสาวปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าฯ ร่วมจัดกิจกรรมแต่งผีชวนคนมาให้เลือด เนื่องในวันฮาโลวีน
ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอ! บุกตรวจอู่รถถอดถังแก๊ส บริษัทรถบัสมรณะ เป็นอู่เถื่อนไร้ใบอนุญาต
ความคืบหน้าการตรวจสอบอยู่ที่รถบัส 5 คัน ที่เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจยึดตรวจสอบพบความผิดปกติคือจำนวนถังก๊าซ CNG ของรถทั้ง 5 คันที่แจ้งจดทะเบียนไว้กับสำนักงานขนส่งนั้นไม่ตรงกับข้อมูลที่จดทะเบียนเอาไว้ บางคันแจ้งเอาไว้ 2 ถัง
ยึดรถบัส 5 คัน โผล่โคราช แอบถอดถังแก๊ส บางคันแจ้งติดตั้งแค่ 2 ถัง แต่พบมากถึง 11
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ พบความผิดปกติคือจำนวนถังก๊าซ CNG ของรถทั้ง 5 คันที่แจ้งจดทะเบียนไว้กับสำนักงานขนส่งนั้นไม่ตรงกับข้อมูลที่จดทะเบียนเอาไว้
หัวหมอ! 'เจ้าของรถบัสมรณะ' โยกรถ 5 คันไปไว้ที่อู่โคราช คาดถอดเปลี่ยนแปลงสภาพ
ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 2 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการประสานงานจากกรมการขนส่งทางบก ให้ติดตามรถบัสนำเที่ยวของชินบุตรทัวร์ ที่มีบริษัท