จัดทีมกู้ภัยเร่งค้นหาผู้สูญหาย เหตุเรือน้ำมันระเบิด พร้อมเยียวยาผลกระทบ 3 ชุมชน

9 มี.ค.2565 - จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันขนาด 2.8 ล้านลิตรที่บรรทุกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และน้ำมันดีเซล เกิดระเบิดขึ้นหลังจากที่โหลดน้ำมันทั้งหมดขึ้นถังเก็บหมดแล้วกำลังจะนำเรือออกจากท่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และสูญหาย 1 ราย เหตุเกิดที่ท่าเทียบเรือ บริษัท ไอ อาร์ พี ซี อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ เมื่อช่วงสายของวันนี้

ความคืบหน้าล่าสุดหลังเกิดเหตุ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบหาสาเหตุและไอระเหยของน้ำมันและก๊าซบนเรือที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงานมูลนิธิเร่งนำเรือตรวจการณ์ออกค้นหาร่างของลูกเรือที่ยังสูญหาย

นายอธิรัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการที่ประชุมกับส่วนราชการทุกภาคที่เกี่ยวข้อง สิ่งเร่งด่วนลำดับแรกคือการจัดทีมกู้ภัยเร่งติดตามผู้สูญหาย 1 รายที่ยังหาไม่พบ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วคาดว่าน่าจะปลอดภัยทั้งหมด โดยทีมแรกก็จะออกค้นหาผู้สูญหาย ส่วนทีมที่สองที่เตรียมไว้คือ ทีมที่จะขึ้นไปตรวจพิสูจน์บนเรือซึ่งก็จะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นตอนนี้ได้มีการจัดทีมเรียบร้อยแล้วเสร็จจากตรงนี้ก็จะส่งทีมขึ้นไปบนเรือที่เกิดเหตุเพื่อพิสูจน์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนเรือบ้าง

ส่วนทีมที่สามที่จะต้องมาดูแลเยียวยาผลกระทบทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นทางอำเภอร่วมกับท้องถิ่นที่จะสำรวจความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่พูดคุยกันก็คาดว่าน่าจะมีประชาชน 3 ชุมชน ประมาณ 200 ครัวเรือนที่จะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ซึ่งทางบริษัทก็พร้อมที่จะเยียวยาช่วยเหลือทุกประการ และตอนนี้เราได้ตรวจสอบไปทางเรือก่อนว่ายังเหลือไอระเหยจากแก๊สหรือน้ำมันอีกหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นก็ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยหมดแล้ว สามารถขึ้นไปตรวจสอบได้ ซึ่งตรงนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไม่กี่ท่านเท่านั้นที่ขึ้นไปตรวจสอบ และในจุดที่เกิดเหตุรวมทั้งท่าเรือแห่งนี้ก็ต้องอายัดไว้ตรวจสอบทั้งหมด

พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพ่วง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า เกี่ยวกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ทางสถานีตำรวจภูธรพระประแดง ก็ได้จัดพนักงานสอบสวนเพื่อรอรับการแจ้งความจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือว่าร่างกาย ถ้าใครได้รับความเสียหายก็ขอให้เก็บหลักฐานเช่นภาพถ่ายและการประเมินราคาความเสียหาย ซึ่งสามารถไปแจ้งความได้ที่ สภ.พระประแดง เพราะสถานที่เกิดเหตุนั้นอาจจะไม่ปลอดภัยหรือไม่เหมาะสม

ขณะที่นาย ธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอพระประแดง ในฐานะผู้อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินจากเหตุเรือบรรทุกน้ำมันเกิดการระเบิด ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งหน้าที่และสรุปสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายธรรมนูญเปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายลงไปในระดับหนึ่งแล้ว ส่วนที่ว่าปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นหรือไม่นั้น ต้องรอให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญลงไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุก่อนเพราะวันจะมีละอองอากาศของน้ำมันของก๊าซอะไรต่าง ๆ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาให้ระเหยหมดเสียก่อน ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์เรื่องนี้ก่อน

ส่วนในเรื่องผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางอำเภอได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการรับแจ้งเหตุอันได้รับผลกระทบจะการระเบิดของเรือในครั้งนี้ โดยแจ้งได้ที่ว่าการอำเภอพระประแดง โดยมีปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าในเขตเทศบาลก็จะให้เทศบาลเป็นคนรับผิดชอบและทางชุมชนเป็นผู้รับแจ้ง ถ้านอกเขตให้ไปแจ้งได้ที่ว่าการอำเภอพระประแดง ส่วนในเรื่องอื่นๆ ต้องให้พนักงานสอบสวนเป็นคนสอบเพิ่มเติม ในส่วนที่ขณะเกิดเหตุครั้งแรกนั้นทางท่าเรือไม่ยินยอมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดที่เกิดเหตุนั้น มันเกี่ยวกับระบบเรื่องความปลอดภัยเรื่องแก๊สเรื่องไอระเหย การที่เข้าไปแล้วบางครั้งเรามีโทรศัพท์มือถือหรือวัตถุที่ทำให้เกิดประกายไฟได้นั้นมันอาจจะเกิดอันตรายเพิ่มมากขึ้น เขาก็คงต้องกันบริเวณไว้ตามเทคนิคการดูแลในเรื่องความปลอดภัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปลาหมอคางดำ' บุกอ่าวไทย ผ่าท้องพบลูกกุ้ง สมุทรปราการระบาดขั้นวิกฤติ

ชาวประมงพื้นบ้านจับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล จับผ่าพบมีเคยอยู่ในท้องจำนวนมาก แจ้งนายกสมาคมประมง จ.สมุทรปราการ นำเรื่องเข้าที่ประชุมหารือแนวทางแก้ไขด่วน

'ปลาหมอคางดำ' บุกคลองด่านแล้ว สัตว์น้ำพื้นถิ่นหายเกลี้ยง

ปลาหมอคางดำ ถึงคลองด่านแล้ว เริ่มสร้างปัญหากัดกินทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนเครื่องจักรสังหารมีชีวิต ชาวบ้านหวั่น หากปล่อยไว้อาจทำลายระบบนิเวศ สัตว์น้ำพื้นถิ่นสูญพันธุ์ วอนหน่วยงานตื่นตัวเร่งแก้ไข

ฝนถล่มสมุทรปราการ น้ำท่วมถนนหลายเส้น รถติดตั้งแต่เช้ายันเย็น

มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ โดยเฉพาะถนนปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ของการขนส่ง เนื่องจากบริเวณนี้ เป็นที่ตั้งของแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม และท่าเทียบเรือจำนวนมาก เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงแล้ว ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักตามมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้จัดกำลังลงพื้นที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว