'ดำรงศักดิ์' เปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งคนไทยข้ามแดน เหยื่อเผยถูกบังคับให้หลอกคนไทยด้วยกันไปเป็นทาส
03 ก.พ.2565 - พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม./หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 1 พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ บก.ภ.จว.สระแก้ว, พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี รองเสธ กองกำลังบูรพา นำกำลังตำรวจ PCT ตำรวจภูธรภาค 2 และเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพาปูพรมตะเข็บชายแดนสระแก้ว บุกจับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ พร้อมออกหมายยกแก๊งอีก 17 ราย และเตรียมขยายผลออกหมายจับเจ้าของบัญชีม้าอีกกว่า 10 ราย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งรัดปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังระบาดหนัก ซึ่งจากสืบสวนทราบว่าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้มีสองสามีภรรยาอยู่ฝั่งประเทศไทย ทำหน้าที่ประสานงานกับชาวจีนหัวหน้าเครือข่ายและเป็นธุระจัดหาคนไทยไปทำงานในประเทศกัมพูชา ผ่านเว็บไซต์จัดหางานประเทศเพื่อนบ้าน โดยหลอกว่ามีรายได้ดี งานสบาย เมื่อมีคนหลงเชื่อจะขับรถไปรับถึงบ้านและนำพาข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับสองสามีภรรยารายนี้
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวต่อว่า ปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตัดวงจรส่งคนไทยข้ามแดนไปกัมพูชาในครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายณฐกร อายุ 28 ปี และ น.ส.อ้อยใจ อายุ 34 ปี ภรรยาของนายณฐกร และแจ้ง 5 ข้อหาหนักประกอบด้วยร่วมกันเป็นอั้งยี่ ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นฯ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น เพื่อจะเอาคนลงเป็นทาส หรือให้มีฐานะคล้ายทาส หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือหน่วงเหนี่ยวซึ่งบุคคลหนึ่งบุคคลใด เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่ามีนายปอ หนวดงาม คนไทยเป็นขาใหญ่ควบคุมคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยอยู่ฝั่งเขมร
จากนั้นได้เข้าตรวจค้นเซฟเฮ้าส์ลับที่ใช้พักคนไทยก่อนข้ามชายแดน 2 จุด ใน ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบพยานหลักฐาน เช่น สมุดบัญชีธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชี น.ส.ชุติมา ประนาประโคน กับนายธนากร จันทรภิรมย์ หนังสือผ่านแดน (Border Pass) ของผู้ต้องหา สมุดจดบันทึกรายการเข้าออกและค่าใช้จ่าย จำนวน 1 เล่ม หลังการตรวจค้นเซฟเฮ้าส์ได้นำผู้ต้องหาไปชี้จุดที่นำพาคนไทยข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา บริเวณทุ่งนาด้านหลังปราสาทสด๊กก๊อกธม ซึ่ง รอง ผบ.ตร. พร้อมชุดปฏิบัติการ ต้องใช้การเดินเท้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จึงจะถึงแนวชายแดน โดยผู้ต้องหาให้การว่าเมื่อข้ามไปถึงประเทศกัมพูชาแล้ว จะมีคนฝั่งกัมพูชานำทางต่อ เพราะว่าบริเวณแนวชายแดนมีกับระเบิดของทหารกัมพูชาอยู่ หากไม่ชำนาญเส้นทางจะทำให้ถูกกับระเบิดได้
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า ขณะนำชี้ที่เกิดเหตุมีผู้เสียหายรายหนึ่ง อ้างว่าเคยเป็นเหยื่อในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลบหนีกลับมาประเทศไทยได้ เข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากส่งคนไทยข้ามแดนแล้วก็จะมีคนมารับต่อ เมื่อไปถึงฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากนั้นจะถูกจับเป็นทาส ให้ทำงานหลอกคนไทยให้โอนเงินให้ โดยบังคับให้ทำงานวันละ 15 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ถูกกักขัง หากขัดขืนไม่ทำงานก็จะถูกทารุณต่างๆนาๆ ทั้งกักขังและทำร้ายร่างกาย ในบางรายถูกขายต่อให้กับแก๊งอื่นๆ สภาพเหมือนตกนรก แต่บางรายก็เต็มใจในการหลอกคนไทยเพราะจะได้เงินส่วนแบ่งดี แต่ผู้เสียหายรับไม่ได้ที่จะหลอกคนไทยด้วยกันจนมีผู้ถูกหลอกบางคนโทรกลับมาขอเงินคืน และถึงกับจะฆ่าตัวตาย
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 สำหรับคดีนี้ ได้พยานหลักฐานมาพอสมควรแล้วออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมรวม 19 คน โดยเฉพาะ นายปอ หนวดงาม ตัวการใหญ่คนไทยที่ควบคุมคนไทยหลอกคนชาติเดียวกันเอง โดยจะเร่งประสานความร่วมมือกับประเทศกัมพูชา เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนักและมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ เช่น หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกให้หลงรักและชวนลงทุน หลอกให้กู้เงินออนไลน์ และมีการพัฒนาไปถึงการ หลอกให้โอนเงินเข้าเว็บเทรดเหรียญคริปโทเคอเรนซี่ ซึ่งเป็นเว็บเทรดผี โดยโอนเงินเข้าไปในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัล( Usdt ) แล้วไม่สามารถถอนเหรียญได้ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชน อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อง่ายๆ หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ PCT 081-8663000 เวลาราชการ หรือ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ www.pct.police.go.th ตลอด 24 ชม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สืบนครบาลรวบ 'สมโคลท์ พันกระบอก' ขายปืนเถื่อนออนไลน์ ตกใจฉี่ราด
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีนโยบายปราบปรามอาวุธปืน โดยเฉพาะทางโลกออนไลน์เพื่อป้องกันเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ ชุดลาดตระเวนออนไลน์
ผวาหายนะ! บี้ '2พ่อลูกชินวัตร' ทบทวนพฤติกรรม บ้านเมืองไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทักษิณ คุณเป็นใคร? หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร
สส.ปชน. ถามมาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้องใจ 'ทักษิณ' บอกจะช่วยจัดการ
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาวาระกระทู้ถามทั่วไป ของนายธีรัจชัย พันธุมาศ สส. กทม. พรรคประชาชน
'กัณวีร์' ฝากการบ้าน 'ทักษิณ' ช่วยเหยื่อค้ามนุษย์ 361 ชีวิตก่อนปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์รูปพร้อมเนื้อหา
ผอ.ศูนย์ปราบอาชญากรรมไซเบอร์ ยินดี 'ทักษิณ' จะช่วยจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยภายหลังหารือกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ฝากคนสะกิดพ่อนายกฯ พูดกร่างเป็นนักเลงโตระวังเจอขาประจำ
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ