29 ม.ค.2565 - เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจยะลา ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตรี อุทิศ อนันตนานนท์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่ติดตามเหตุก่อกวนในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา จำนวน 13 จุด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกระป๋องสเปรย์ ท่อเหล็ก และกล่องขนาดเล็ก น้ำหนักประมาณ 400 – 500 กรัม ภายในอัดด้วยดินดำ จุดชนวนด้วยระบบการตั้งเวลา ด้วย IC TIMER หวังป่วนพื้นที่ เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 28 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายมนูญ อู่นอก อายุ 60 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนขวาถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ได้เยี่ยมพบปะให้กำลังใจการปฏิบัติงานแก่ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ที่สำนักงานเหล่ากาชาด ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา กล่าวขอบคุณการปฏิบัติงานที่ผ่านมา และขอให้มีกำลังใจที่ดีในการช่วยดูแลพี่น้องประชาชนในชุมชนของตนเองต่อไป
ก่อนเดินทางยังตลาดพิมลชัย ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ค้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พลโทเกรียงไกร กล่าวว่า สำหรับเหตุก่อกวนในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลาเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ทั้งหมด 13 จุด จากการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวจากกล้องวงจรปิด พบผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุด้วยรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน รวม 4 คน เป็นเหตุการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ และส่วนที่เกี่ยวข้องมีความวิตกกังวลต่อการปฏิบัติงาน เพราะยังมีในส่วนของช่องว่างของการทำงานให้สามารถก่อเหตุได้ แม้จะมีการป้องกันบริเวณรอบนอก และในส่วนของพื้นที่เขตเมืองยะลาที่มีพี่น้องประชาชนที่คอยสอดส่องดูแลให้อยู่เช่นกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่ามีผลเชื่อมโยงมาจากเหตุปะทะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา และได้มีการแจ้งเตือนว่าอาจมีการหันเหความสนใจของผู้ก่อเหตุเพื่อให้ถอนตัวจากจุดปะทะ มีการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัดบริเวณรอบนอกเขตเมือง สิ่งที่ไม่คาดคิดในครั้งนี้คือคนร้ายมาในรูปแบบของรถส่งอาหาร และนำวางไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อก่อกวนสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์ที่ทำให้พี่น้องประชาชนหวั่นวิตก และเกิดภาพลักษณ์ของความรุนแรงขึ้นในพื้นที่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่รับผิดชอบขณะนี้ได้มีการสั่งการ กำชับ กำลังทุกภาคส่วน เพิ่มความเข้มงวด เพิ่มจุดสังเกตในการเข้ามาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ พยายามปิดช่องว่างในการก่อเหตุ และดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะวิเคราะห์พื้นที่ สร้างความเข้มแข็ง สร้างความอุ่นใจให้พี่น้องประชาชน แม้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเหล่านี้จะเข้ามาเพื่อก่อกวน และพยายามพลิกแพลงการก่อเหตุอยู่ตลอดเวลาจนทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องค้าขาย การใช้ชีวิตประจำวัน
เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆเหล่านี้ ฝากไปยังพี่น้องประชาชนได้ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-1732999 และเบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จนท. เร่งหาหลักฐาน ไล่กล้องวงจรปิด หาเบาะแสเหตุระเบิดแคมป์ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม
ความคืบหน้าคนร้ายระเบิดแคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม อ.เทพา จ.สงขลา คนงานบาดเจ็บ 3 ราย ทรัพย์สินเสียหาย และมีการวางระเบิดอีก 2 ลูกเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้นักเรียนที่กำลังเข้าค่ายกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี
ด้ามขวานป่วน! วางเพลิง-เผากล้องซีซีทีวี 'ยะลา-ปัตตานี'
คนร้ายพ้นสีสเปรย์สีแดง "PATANI MERDEKA" ป้ายโรงเรียนบ้านเตาปูน (ธนาคารกรุงเทพ 16) พร้อมเผากล้องวงจรปิดอีกหลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา
'ยะลา' คุมเข้ม 24 ชม. ระวังคาร์บอมบ์ หลังสายข่าวเตือนมีป่วนช่วง 15-30 พ.ย.
พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง ผกก.สภ.เบตงได้อำนวยการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ เพิ่มมาตรการเข้ม หลังมีการแจ้งเตือน ระหว่างวันที่ 15 – 30 พ.ย. 67 ให้เฝ้าระวั
เย้ยกฎหมาย! โพสต์ขาย 'น้ำท่อม' ฉลองวันลอยกระทง
ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก. สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.สุขุม เพาะไธสง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ สวป. สภ. พร้อมกำลังตำรวจ
'ทวี' สวมบท สส. รับ 'คดีตากใบ' ไม่เป็นธรรม ไร้เงาผู้ต้องหา
'ทวี' ชี้ 'ตากใบ-ไฟใต้' ทุกภาคส่วนต้องร่วมหาทางออก ย้ำสังคมขาดความยุติธรรมมีความแตกแยก ผู้มีอำนาจอาจอยู่ไม่ได้ เร่งเยียวยาจิตใจคนชายแดนใต้
ทั่วโลกจับตา! 'คดีตากใบ' สะท้อนไทยล้มเหลว ปล่อยละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำ
แอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย หวั่นคดีตากใบหมดอายุความ กลายเป็นใบเบิกทางละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ชี้ชัด ทั่วโลกจับตาดูอยู่ เชื่อจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนเวทีสาธารณะระหว่างประเทศต่อเนื่อง