'ดีเอสไอ' ทลายโกดังร้างสมุทรสาคร ขุดบิตคอยน์เถื่อน ลักลอบทำ 3 ปี รัฐสูญ 500 ล้าน

"ดีเอสไอ" ลุย “รื้อเหมืองขุดบิตคอยน์ลับ” (Bitforge Operation) ร่วม กฟภ.บุกทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อน ซุกซ่อนใน 3 โรงงานพื้นที่สมุทรสาครทำรัฐสูญรายได้กว่า 500 ล้านบาท

31 ม.ค.2568 - พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ พร้อมด้วย ร.ต.อ. เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นายพีระพล ปูรณะโชติ รองผู้ว่าการภาคกลางและใต้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นายธนะ โชคพระสมบัติ ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) และ ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจค้นโกดัง จำนวน 3 แห่ง ต้องสงสัยว่าใช้เป็นสถานที่ ลักลอบใช้ไฟฟ้าเพื่อตั้งเหมืองขุดเงินดิจิทัลผิดกฎหมายในจังหวัดสมุทรสาคร ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “รื้อเหมืองขุดบิตคอยน์ลับ” (Bitforge Operation : เป็นแพลตฟอร์มขุดเหรียญคริปโตระบบออโตขุด USDC และ USDT)

ปฏิบัติการ “รื้อเหมืองขุดบิตคอยน์ลับ” ในครั้งนี้สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการร้องเรียนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) ว่าพบการใช้ไฟฟ้าผิดปกติในโกดังหลายแห่ง โดยตรวจสอบพบว่าเป็นเครือข่ายขุดบิตคอยน์เถื่อนที่ใช้ไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วประมาณ 3 ปี ทำให้รัฐเสียหายกว่า 500 ล้านบาท โดยขอให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มอบหมายให้กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศเป็นหน่วยงานรับผิดชอบทำการสืบสวน โดยพบว่ามีเครือข่ายผู้ลักลอบกระทำความผิด ใช้โกดังลักษณะทำเป็นโรงงาน จำนวน 3 แห่ง ซึ่งบางแห่งเป็นโกดังร้างไม่มีบุคคลอาศัยอยู่ กระจายตัวในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

เจ้าหน้าที่กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศจึงได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น ทั้ง 3 จุด พบเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัล จุดที่ 1 โกดังในพื้นที่ตำบลนาดี อำเภอเมือง จำนวน 396 เครื่อง จุดที่ 2 ในพื้นที่ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จำนวน 462 เครื่อง จุดที่ 3 ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จำนวน 930 เครื่อง รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,788 เครื่อง

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เราสามารถยึดเครื่องมืออุปกรณ์ในการขุดบิตคอยน์จำนวนมากที่สุดเท่าที่มีการจับกุมมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ แต่ยังกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและพลังงานของประเทศ ถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมจะขยายผลการสืบสวนเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต

"ขอความร่วมมือเจ้าของและผู้พักอาศัยในอาคารพาณิชย์ช่วยสังเกตพื้นที่โดยรอบ หากพบสิ่งผิดปกติหรือสถานที่ต้องสงสัย ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที ทั้งนี้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเกี่ยวข้อง จะมอบหมายให้ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเพื่อรักษาผลประโยชน์และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ"อธิบดีดีเอสไอ ระบุ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รมว.ยธ' โยนถาม DSI สอบปม MOU บ.สแกนม่านตา หลังอดีตปลัดดีอีให้การฝ่ายการเมืองสั่ง

รมว.ยุติธรรม โยนถาม ดีเอสไอ หลังเรียก สอบปม MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา หลังอดีตปลัดดีอีให้การ ฝ่ายการเมืองสั่ง ยํ้า เรื่องนี้น่าเป็นห่วง เพราะกระทบ ปชช.หลายคน

'ไชยชนก' แย้ม 'DSI' มีข้อมูลโยง 2 นักการเมือง ปม MOU บ.สแกนม่านตา

'ไชยชนก' ชี้หน้าที่ 'ดีเอสไอ' สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง 1-2 คน เอี่ยว MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา โยงฟอกเงินดิจิทัล

เชือดล็อตแรก 8 ราย 'อั้งยี่-ฟอกเงิน' คดีฮั้ว สว. ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว

"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก "8 ผู้ต้องหา" ประกอบด้วย 2 สว.ตัวจริง และ 6 เครือข่ายพรรคใหญ่ หลังสอบสวนนาน 9 เดือน เหตุคำชี้แจงแก้กล่าวหาไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานได้

ป.ป.ช. ขยายผล 'กลุ่มคนนอก' คดีคุกวีไอพีจีนเทา ยันไม่จบแค่ ผบ.เรือนจำ-เลขาฯ

ผู้ช่วยเลขา ป.ป.ช. ยืนยันพร้อมตรวจสอบ-ขยายผล "กลุ่มคนนอก" ในคดีคุกวีไอพีจีนเทา มีพฤติการณ์สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดหรือไม่ หลัง "ดีเอสไอ" สรุปสำนวนสืบสวนส่ง ป.ป.ช. เชือดก่อน 2 ราย อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - เลขา ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระบุ อำนาจของ ป.ป.ช.