14 ม.ค.2568 - ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายนาคร ศิลาชัย หรือ เปิ้ล นาคร นักแสดง พร้อมนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้าพบพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หลังครอบครัวคนใกล้ชิดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงิน 6 ล้านบาท
เปิ้ล นาคร เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นกับลุงอายุ 71 ปี และ ป้า อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่ของน้องชายคนสนิทของตัวเอง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค.68 ที่ผ่านมา มีสายโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของคุณลุง และทำการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแจ้งว่ามีชื่อคุณลุงเกี่ยวพันกับคดีฟอกเงิน และทำการขอตรวจสอบบัญชี ซึ่งระหว่างการพูดคุยโทรศัพท์สายดังกล่าวก็มีคุณป้าเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย จากนั้นทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็สั่งให้คุณลุงและคุณป้า ขังตัวเองอยู่คนละห้อง โดยมีการข่มขู่ว่าห้ามบอกใคร และมีตำรวจหญิงมาร่วมสอบหนึ่งคนโดยเป็นการสอบแยกกัน ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันจนถึงสองทุ่ม จากนั้นได้มีการสั่งให้ทั้งคุณลุงและคุณป้า ทำการโอนเงินทุกบัญชีไปให้มิจฉาชีพตรวจสอบทั้งหมดรวมกัน 10 ครั้ง (ลุง 10 บัญชี, ป้า 1 บัญชี ) เป็นจำนวนเงินกว่า 6,000,000 บาท และอ้างว่าหากตรวจสอบเสร็จจะโอนเงินคืน จนกระทั่งพบว่าทั้งคุณลุงและคุณป้าเหลือเงินติดบัญชีสุดท้ายเพียง 300,000 บาท คุณป้าจึงเกิดความสงสัยว่าถูกหลอก จึงมีการพูดคุยกับตัวคุณลุง และตัดสินใจวางสาย ก่อนที่จะไปปรึกษากับลูกชายและเข้าแจ้งความกับตำรวจสน.ราษฎร์บูรณะ รวมถึงแจ้งความออนไลน์ที่ 1441
ทางคุณลุงและคุณป้าทั้งสองคน ที่ผ่านมามีการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อตัวเองถูกหลอกลวงก็ยังหลงกล เนื่องจากระหว่างที่มีการพูดคุย รู้สึกเสมือนตัวเองถูกสะกดจิต ทำให้คล้อยตามคำพูด เนื่องจากเกิดความกลัวว่าตัวเองมีส่วนไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม จึงตัดสินใจทำตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แนะนำ จึงมองว่าทุกคนทุกอาชีพสามารถตกเป็นเหยื่อได้
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายมีการแจ้งความกับสน.ราษฎร์บูรณะ และทางสน.ราษฎร์บูรณะ ได้ประสานมายังที่ศูนย์ 1441 ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจไซเบอร์จะต้องมีการประสานกับต้นทางเพื่อหาแนวทาง และหากพบว่าคดีมีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ก็จะโอนคดีมายังตำรวจไซเบอร์เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้เบื้องต้นพบมีแผนประทุษกรรมเดียวกันกับที่หลอกน.ส.ชาล็อต ออสติน แต่จะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ครูหยุย' แนะรัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ เป็นของขวัญวันเด็ก แทนให้คำขวัญ
'ครูหยุย' แนะรัฐบาลเปลี่ยนจากให้คำขวัญวันเด็ก เป็นมอบของขวัญที่มีค่า ประกาศเจตนารมณ์ 'ไม่โกง-ซื่อสัตย์สุจริต-ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเด็ก'
จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นนักการเมืองดัง ลวงเหยื่อ 22 ล้าน
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์
'ผู้การติ๊บ' ลุยคุมเข้มสกัดภัยคุกคามทุกรูปแบบ รักษาอธิปไตยไทย
พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ หรือ “ผู้การติ๊บ” ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก (แม่สอด-ท่าสองยาง-พบพระ-อุ้มผาง-แม่ระมาด)
'ชาล็อต' ให้ข้อมูล กมธ.ตำรวจปมถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน
'ชาล็อต ออสติน' เข้าให้ข้อมูล กมธ.ตำรวจ ปมถูกหลอกสูญเงิน 4 ล้าน 'ชัยชนะ' ยันตำรวจให้ความสำคัญทุกคดี ไม่เกี่ยวเป็นคนดังหรือไม่
'อัจฉริยะ' ยื่นหลักฐานชี้เป้า 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' หลังคนไทยตกตึก 18 ชั้นที่ปอยเปต
นายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร