14 ม.ค.2568- พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 , พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายชาคิต หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี ภูมิลำเนา ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.168/2568 ลงวันที่ 13 ม.ค. 68
ข้อหา “กระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” จับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้สืบสวนขยายคดีนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือเอ็ม กองเรือ อดีตนาวิกโยธิน ผู้ต้องหาสังหารนายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา พบผู้ร่วมขบวนการมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 23.45 น. ซึ่งจากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต บัวปลี หรือ ชำนาญ อายุ 47 ปี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนนำโดย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม นำชุดพนักงานสอบสวนขอหมายจับต่อศาลอาญาในทันที หลังหมายจับได้รับการอนุมัติพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้ส่งชุดสืบนครบาลออกติดตามตัวในทันที โดยสืบทราบว่า นายชาคิต ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาลเข้าจับกุมตัว นายชาคิต ได้ที่บริเวณหน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยขณะจับกุมชุดจับกุมพบรถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทาหมายเลขทะเบียน 3ขก 83XX กรุงเทพฯ จอดอยู่บริเวณหน้าที่กบดาล
ตรวจสอบแล้วพบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่จ่าเอ็มกำลังหลบหนีข้ามชายแดนด้วยช่องทางธรรมชาติ โดย นายชาคิต ก็ยอมรับว่าเป็นรถที่ใช้ขับพาจ่าเอ็มไปที่ชายแดนในวันเกิดเหตุจริงๆ และชายเสื้อเขียวในภาพจากกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริงๆ และจากการขยายผลพบข้อมูลในโทรศัพท์ของ นายชาคิต ว่ามีการติดต่อสื่อสารกับจ่าเอ็มตั้งแต่เวลา 13.54 น. ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ ชุดสืบนครบาลจึงทำการจับกุมตัวตามหมายจับ
ในชั้นจับกุม นายชาคิตฯ ให้การภาคเสธ โดยให้การว่า ตนเองรู้จักกับจ่าเอ็มมาได้ประมาณ 2 ปี ตั้งแต่สมัยที่จ่าเอ็มยังรับราชการอยู่ ตนเองทำอาชีพขับรถรับจ้าง โดยจะรับผู้โดยสารไปๆมาๆ ส่งระหว่างชายแดน เขาดิน , บ้านแหลม และ ผักกาด โดยคดีนี้ตนเองยอมรับว่าเป็นคนไปส่งจ่าเอ็มจริง และชายเสื้อเขียวที่เห็นในภาพกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริง ส่วนรถกระบะคันที่ขับไปส่งนั้น ตนได้ยืนมาจากพวกละแวกบ้าน ส่วนที่จ่าเอ็มไปก่อคดีมานั้นตนเองไม่ทราบ
หลังการจับกุมได้นำตัวนายชาคิตฯส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นำคณะพนักงานสอบสวนทำการขยายผลต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘จ่าเอ็ม’นอนคุก ล่าตัว‘มือชี้เป้า’ โยงคนจ้างวาน
ศาลอาญาอนุญาตฝากขัง "จ่าเอ็ม" เปิดพฤติการณ์ฆ่าโหด
เปิดพฤติการณ์ 'จ่าเอ็ม' ฆ่าโหด 'ลิมคินยา' นวดก่อนลงมือ
เปิดพฤติการณ์ฆ่าโหด ‘ลิมคินยา’ พบ ‘จ่าเอ็ม' นวดผ่อนคลายก่อนลงมือสังหาร เจ้าตัวสารภาพทุกข้อกล่าวหา ศาลอาญาออกหมายจับ ‘คิมรินพิช’ มือชี้เป้าถือพาสปอร์ตกัมพูชา
‘จ่าเอ็ม’เครียด อุบ‘ผู้มีบุญคุณ’ ตร.หิ้วฝากขัง!
ตำรวจเค้นสอบ “จ่าเอ็ม” ตลอดคืน ยังให้การไม่เป็นประโยชน์คดียิงอดีต
‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา
กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ
ตำรวจเผยต้องใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ นำตัว 'จ่าเอ็ม' กลับมาดำเนินคดีที่ไทย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือเอ็ม กองเรือ อดีตนาวิกโยธิน ผู้ต้องหาสังหารนายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา
จนมุมแล้ว! 'จ่าเอ็ม' มือปืนสังหารโหด อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา
ความคืบหน้ากรณีชายบุกยิงนายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิต บริเวณตรงข้ามวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ภายหลังตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญา