จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นนักการเมืองดัง ลวงเหยื่อ 22 ล้าน

10 ม.ค. 2568 – พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะการเร่งกวาดล้างขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพบว่าผู้เสียหายถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกแอบอ้างตัวเองเป็นนักการเมืองดัง ให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ แล้วชักชวนลงทุนเทรดเหรียญคริปโตในเว็บเทรดปลอมที่กลุ่มมิจฉาชีพทำขึ้นมา ทำให้ผู้เสียหายถูกหลอกให้โอนเงินเพื่อลงทุนในเว็บเทรดปลอม เสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 22 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ กก.2 บก.สอท.2 ได้ทำการสอบสวนจนสามารถออกหมายจับกลุ่มมิจฉาชีพที่ร่วมกันหลอกผู้เสียหายในคดีนี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 ได้สืบทราบว่าหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างนักการเมืองดังชวนเทรดเหรียญคริปโตดังกล่าว คือ นายปรัชญา ซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า หลบหนีมาทำงานในจังหวัดภูเก็ต

เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.5 นำโดย พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 พ.ต.ท.ประเสริฐ หวังบุญสร้าง รอง ผกก.1 บก.สอท.5, พ.ต.ท.ญาณศักดิ์ บุญสนอง สว.กก.1 บก.สอท.5, พร้อมชุดสืบสวน นำกำลังจับกุมนายปรัชญา ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 1026/2567 ลง 18 ธ.ค.68 และจากการตรวจสอบพบหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 หมาย เป็นหมายจับในคดีของ สน.แสมดำ และ สภ.เมืองปทุมธานี

จากการสอบถามเบื้องต้น นายปรัชญาให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่า เมื่อประมาณปี 2566 ได้ออกจากเรือนจำมาในคดีอื่น แล้วยังหางานทำไม่ได้ ต่อมามีคนรู้จักมาชักชวนให้ตนเปิดบัญชีธนาคารไปให้เพื่อใช้กับเว็บพนันออนไลน์ โดยได้รับค่าตอบแทนบัญชีละ 800 บาท จึงไปเปิดบัญชีให้ประมาณ 7 บัญชี หลังจากส่งมอบบัญชีไปให้กับเพื่อนแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้ทันกลเกมนักการเมือง แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ใครได้ใครเสีย?

ประชาธิปไตยจะไม่มีทางเบ่งบานได้เลย หากประชาชนยังไม่รู้เท่าทันกลเกมของนักการเมือง ที่มักแอบอ้างประชาชนในการกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน การเมืองไทยทุกวันนี้ยังคงเป็นพื้นที่ของคนรวยที่อยากมีอภิสิทธิ์เหนือคนทั่วไป หรืออยากได้อำนาจรัฐมา

'ครูหยุย' แนะรัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ เป็นของขวัญวันเด็ก แทนให้คำขวัญ

'ครูหยุย' แนะรัฐบาลเปลี่ยนจากให้คำขวัญวันเด็ก เป็นมอบของขวัญที่มีค่า ประกาศเจตนารมณ์ 'ไม่โกง-ซื่อสัตย์สุจริต-ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเด็ก'

'ผู้การติ๊บ' ลุยคุมเข้มสกัดภัยคุกคามทุกรูปแบบ รักษาอธิปไตยไทย

พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ หรือ “ผู้การติ๊บ” ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก (แม่สอด-ท่าสองยาง-พบพระ-อุ้มผาง-แม่ระมาด)

บี้รัฐบาล-ผบ.ตร. เร่งกวาดล้างแก๊งค้ามนุษย์ สแกนเข้มชายแดน ฟันทหารตำรวจนอกรีต

'ธนกร' ขอ 'รัฐบาล-ผบ.ตร.' เร่งกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงคนหางาน ฝากสแกนเข้มตะเข็บชายแดน หวั่นใช้ไทยเป็นฐานนายหน้าส่งต่อเหยื่อ แนะจัดการเด็ดขาดทหาร-ตร.นอกรีด

'ชวน' สะบัดมีดใส่ 'ทักษิณ' เล่นการเมืองไม่ได้หวังปกป้องธุรกิจหรือเอาประโยชน์ให้ครอบครัว

'ชวน' สวน 'ทักษิณ' สส.แก่สุดอยู่ในพรรคเพื่อไทย 2 คน กรีดเข้าการเมืองไม่ใช่ปกป้องธุรกิจครอบครัว ยันไม่เคยแค้น 'แม้ว' แต่ย้ำทำไม่ดีกับบ้านเมืองจะมีปัญหา

'ชาล็อต' ให้ข้อมูล กมธ.ตำรวจปมถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน

'ชาล็อต ออสติน' เข้าให้ข้อมูล กมธ.ตำรวจ ปมถูกหลอกสูญเงิน 4 ล้าน 'ชัยชนะ' ยันตำรวจให้ความสำคัญทุกคดี ไม่เกี่ยวเป็นคนดังหรือไม่