ตร.บางเสาธง ทลายแก๊งลักรถ จยย. ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน พบประวัติก่อเหตุอื้อ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ บุกจับแก๊งลักรถจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน เผยเคยก่อเหตุมาอย่างโชกโชนทั้งใน สมุทรปราการ กรุงเทพฯ และภาค 2

24 ม.ค.2565-เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พร้อมกำลัง เข้าจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ได้ผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายปราโมทย์ หรือโมทย์ อุบลแย้ม อายุ 40 ปี นายสุรศักดิ์ หรือเจี๊ยบ เพ็ชรรัตน์ อายุ 41 ปี และนางสุคนธ์ หรืออ้อย กุดหินนอก อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นนายหน้าที่คอยติดต่อกับนายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านในการซื้อขายรถข้ามชาติ และตรวจยึดของกลางรถจักรยานยนต์ 1 คัน รถยนต์ 2 คัน อุปกรณ์เครื่องมือใช้ในการต่อสายตรงเพื่อติดเครื่องรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์  6 แผ่น สมุดบัญชีของธนาคารต่าง ๆ รวม 2 เล่ม ซึ่งเป็นสมุดบัญชีที่ระบุชื่อของชาวต่างชาติ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 164/51 ม.2 หมู่บ้านศรีเทพไทย ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2565 ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่ผู้เสียหายจอดไว้ในมุมอับหน้าหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง  จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกพฤติกรรมเอาไว้ได้พบว่าคนร้ายเป็นชาย 2 คน ได้ขับรถยนต์เก๋งมาจอดที่หน้าหอพัก สบโอกาสหนึ่งในคนร้ายได้ลงมาจากรถเข้าก่อเหตุ ใช้เวลาก่อเหตุไม่กี่นาที ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป

หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายถูกก่อเหตุทำนองเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางเสาธง จึงแกะรอยเส้นทางคนร้ายและรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุพบว่าเป็นแผ่นป่ายทะเบียนปลอม ฝ่ายสืบสวนจึงแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางจนกระทั่งพบว่ารถยนต์คันก่อเหตุหลบหนีเข้าเขตพื้นที่ของอำเภอบางประกง  จึงแกะรอยจนกระทั่งทราบว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยไปพักอยู่ บ้านเลขที่ 164/51 หมู่บ้านศรีเทพไทย ม.2 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงแบ่งกำลังเฝ้าสังเกตการณ์

กระทั่งพบรถที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ไม่ห่างจากบ้านหลังดังกล่าว และพบเห็นเสื้อผ้าชุดที่คนร้ายใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุแขวนอยู่ในบ้านพัก จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา  เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบกับนายปราโมทย์  นายสุรศักดิ์  และนางสุคนธ์ อยู่ภายในบ้านหลัง  พร้อมของกลางทั้งหมดอยู่ภายในบ้าน จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้ ก่อนคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 มาทำการสอบสวนที่ สภ.บางเสาธง

นายปราโมทย์ และนายสุรศักดิ์ ให้การยอมรับว่า ได้ร่วมกันวางแผนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ จริงโดยใช้รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า  โซลูน่า สีน้ำตาล และรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ทอง เป็นพาหนะในการก่อเหตุโดยทุกครั้งที่ก่อเหตุจะติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม โดยนายปราโมทย์ และนายสุรศักดิ์ จะสับเปลี่ยนกันลงมือหลังก่อเหตุก็จะนำรถจักรยานยนต์ที่ได้มาซุกซ่อนไว้ที่บริเวณที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นจะส่งรูปรถจักรยานยนต์ที่ลักมาให้กับนางสุคนธ์ หรือ เจ้อ้อย กุดหินนอก ดูผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ส่งต่อให้นายทุนชาวกัมพูชาเป็นคนตีราคา เมื่อซื้อขายกันเป็นที่เรียบร้อยนายปราโมทย์ และนางสุคนธ์ จะนัดหมายส่งมอบรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยวัดบางเกลือ ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หรือบริเวณอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ได้เงินครั้งละประมาณ 8,000 – 20,000 บาท โดยการจ่ายเป็นเงินสด หรือโอนเข้าบัญชี น.ส.กุ้ง (MRS.KOUNG PHETPOUANGPHANH) สัญชาติลาว ซึ่งก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในเขต จ.สมุทรปราการ เขตนครบาล และเขตภูธรภาค 2

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทําความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมียโทรหาผัวเก่าช่วยสะเดาะกุญแจ เจอผัวใหม่หึงหวงใช้มีดฟันกันเจ็บสาหัส

เมื่อเวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดมีผู้บาดเ

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่