“บิ๊กเต่า” เผยคดีรีสอร์ทหรูรุกที่ ส.ป.ก. เป็นอำนาจ ป.ป.ช. เชื่อมีผู้กระทำผิดหลายคน ยันหาก ป.ป.ช.มอบอำนาจให้ทำคดีพร้อมทำหน้าที่ตามกฎหมาย
2 ธ.ค.2567 - ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงกรณีการบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. ในพื้นที่จ.นครราชสีมา และ จ.สระบุรี ว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ลงตรวจสอบพื้นที่อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และพบว่าน่าจะมีการออกเอกสารสิทธิถือครองที่ดิน ส.ป.ก. โดยมิชอบ และเมื่อมีการตรวจสอบแล้ว ทางป.ป.ช. จึงเป็นผู้ถือสำนวนในการสืบสวนโดยร่วมกับกระทรวงเกษตร และได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยมี ป.ป.ช., ป.ป.ท, บก.ปปป. และ ปปง. ในการตรวจสอบโครงการดังกล่าว
จากข้อมูลของการตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวน 50-60 ไร่ และถูกบุกรุกในปี 58 มีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 4 คน โดยศาลสั่งจำคุก 1 คน และอีก 3 คนรอลงอาญา ต่อมาก็มีการออกเอกสารสิทธิคืนที่ดินส.ป.ก. ให้แก่จังหวัด จากนั้นก็มีบริษัทภูนับดาวมาทำการเช่าและทำเป็นที่ท่องเที่ยว เป็นสถานที่คล้ายรีสอร์ทที่เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวไว้นอนดูดาว โดยมีประธานบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นประธานกรรมการผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการพื้นที่ตรงนี้ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้มีไว้เพื่อการเกษตร การนำมาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจึงเป็นการทำผิดวัตถุประสงค์
เมื่อถามถึงเรื่องเส้นเงินจำนวน 10 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงไปถึงคนสนิทของบิ๊กนักการเมือง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ในการตั้งคณะทำงานคดีนี้ ทุกหน่วยงานต้องส่งข้อมูลไปที่ ป.ป.ช. โดย ป.ป.ช. จัดส่งเพียงหลักฐานบางอย่าง เพื่อให้แต่ละหน่วยงานสืบสวนต่อเท่านั้น ซึ่งในส่วนของ บก.ปปป. จะทำการสืบสวนเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเอกสารและพื้นที่ที่ได้มาโดยไม่ชอบ ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินจะเป็นการดำเนินการของ ปปง. ซึ่งในส่วนของเงิน 10 ล้านนี้ บก.ปปป. ได้เพียงข้อมูลมา แต่ในส่วนของรายละเอียดว่า เส้นทางการเงินมีที่มาอย่างไร เชื่อมโยงต่อไปที่ไหน บก.ปปป. ไม่ได้ทำการสืบสวน และตนก็ไม่มีอำนาจที่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ อำนาจทั้งหมดจะอยู่ที่ ป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจากข้อมูลพบผู้กระทำผิดประมาณกี่คน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ามีหลายคน ซึ่งก่อนหน้านี้บก.ปปป. เคยเข้าไปค้นที่ภูนับดาวมา และก็ขอรายละเอียดหลักฐานต่างๆที่เป็นเอกสารสิทธิตัวจริง แต่ทางบริษัทก็ยังไม่ยอมมอบให้ อย่างไรก็ตาม หากต่อไป ป.ป.ช. มีการมอบหมายให้ทำคดีนี้เอง ก็พร้อมทำหน้าที่ตามกฏหมาย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เชื่อมั่นในทีมงานของตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในเรื่องของความเป็นตำรวจมืออาชีพ ตำรวจไม่ได้มีหน้าที่ไปช่วยใครให้พ้นผิด แต่มีหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กเต่า' เผยเตรียมแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์เพิ่มอีกคดี 'สามารถ' บังคับขู่เข็ญบริษัทจ่ายเงินกว่า 5 แสน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ว่า ได้มีการตรวจสอบพบเส้นเงินประมาณ 4-5 แสนบาท ที่เข้าข่ายการกรรโชกทรัพย์ จึงได้เรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำ
ขีดเส้น 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพยายามกรรโชกทรัพย์ 6 ธ.ค.นี้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม” กรณีคลิปเสียง เรียกรับเงินจากบอสบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป 20 ล้านบาท ว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา
ฟัน ‘หวานใจบิ๊ก’! ‘เต่า’ จ่อออกหมายคดีรุกส.ป.ก.10ล้านพัน ‘สามารถ’
"นฤมล" ขึงขัง ใครทำผิดรุกที่ ส.ป.ก.ฟันไม่เลี้ยง แต่ยังไม่ได้รับรายงานปมหวานใจอดีตรองนายกฯ เอี่ยวรีสอร์ตรุกที่ "บิ๊กเต่า" จ่อออกหมายเรียก-หมายจับ "หวานใจ" อดีตรองนายกฯ หลังพบเส้นทาง
ไม่หวั่นเจอตอ! 'บิ๊กเต่า' ลั่นคิวต่อไป คดีรุกที่ดิน สปก. สาวคนสนิท บิ๊กเนมการเมือง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบ.ช.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าว “หวานใจอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีเส้นเงินเกี่ยวข้องกับรีสอร์ทรุกที่ดิน ส.ป.ก. ในส่วน
'บิ๊กเต่า' บอก 'สามารถ' ไม่ต้องอดข้าวประท้วง ขอให้สู้ในชั้นศาล หักล้างด้วยหลักฐาน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบ.ช.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ว่า
'บิ๊กเต่า' แจงเหตุออกหมายเรียก 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ไม่ได้ออกหมายจับ คดีพยายามฉ้อโกง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบ.ช.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวการออกหมายเรียกนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม ว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ไปขออนุมัติหมายจับจากศาล แ