ศาลอาญาพิพากษาลงโทษ เพจ "ออยศรีและผองเผือก" จำคุก 8 เดือนปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี หมิ่นประมาททนายตั้มให้ชดใช้เงิน 100,000 บาท
28 พ.ย.2567 - ที่ห้องพิจารณาคดี 811 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ. 1574/2566 ที่ บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม โดยนายวีรวิทย์ วงศ์สวรรค์ ผู้รับมอบอำนาจ และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นโจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ฟ้อง น.ส.บุณยนุช แสงศรี, น.ส.ปุณณภา กีรติทิวากร และ น.ส.ปภาวรินทร์ พานิช ทั้ง 3 เป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก "ออยศรีและผองเผือก" ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
โดยวันนี้จำเลยทั้ง 3 มาศาล ขณะที่ตัวนายษิทธา เบี้ยบังเกิด โจทก์ ผู้ฟ้องคดีไม่ได้ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด
ศาลอ่านคำพิพากษาว่า คดีนี้มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้ง 3 กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าเพจ "ออยศรีและผองเผือก" จำเลยทั้ง 3 ได้ร่วมกันเปิดเพจขึ้นเมื่อปี 2561 โดยจำเลยทั้ง 3 ทำหน้าที่แอดมินเพจ จำเลยที่ 2 ทำหน้าที่ตอบโต้กับผู้ที่มาโพสต์วิจารณ์การเข้าไปใช้บริการปรึกษาคดีกับโจทก์ที่ 2 แล้วเกิดความไม่พอใจ โดยจำเลยที่ 2 ส่งข้อความดังกล่าวไปให้จำเลยที่ 1 รับทราบ ผ่านทางกลุ่มไลน์ 3 ศรี ซึ่งมีทั้งจำเลยทั้ง 3 อยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้ง 3 รับรู้การเคลื่อนไหวของเพจ "ออยศรีและผองเผือก"
รูปประโยคที่จำเลยทั้ง 3 โพสต์ข้อความนั้น เป็นการชี้นำแสดงถึงเจตนาที่ต้องการให้โจทก์ทั้งสองเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง การที่จำเลยมีข้อความหมิ่นประมาท เรื่องค่าใช้จ่ายและการปรึกษาคดีด้วยการจับเวลา แต่จำเลยไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า โจทก์มีการจับเวลาปรึกษาคดีจริง และไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ทนายความของโจทก์ไม่มีความสามารถ ตามที่จำเลยโพสต์ข้อความ การกระทำของจำเลยทั้ง 3 จึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 , 393 ประกอบมาตรา 83 เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 เป็นโทษบทหนักสุด ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 30,000 บาท คำเบิกความของจำเลยทั้ง 3 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก จำทั้ง 3 คนละ 8 เดือน ปรับ 20,000 บาท และเพื่อเปิดโอกาสให้จำเลยทั้ง 3 ได้กลับตัว และจำเลยทั้ง 3 ไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษกำหนด 2 ปี และให้จำเลยทั้ง 3 ลงคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน และลงคำพิพากษาย่อในเพจ "ออยศรีและผองเผือก" 7 วัน ให้ลบข้อความที่โพสต์หมิ่นประมาทโจทก์ทั้งสอง และให้ชดใช้เงินแก่โจทก์ทั้งสองจำนวน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 นับตั้งแต่วันฟ้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ฟิล์ม รัฐภูมิ' พกมั่นใจเต็มร้อย ควง 'ทนายประมาณ' รับข้อหากองปราบ
'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ควง 'ทนายประมาณ' โผล่กองปราบ รับทราบข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์-หมิ่น คลิปเสียงเรียกรับเงินบอสพอล 20 ล้าน
ตร.พร้อมสอบทุกมิติคดีพินัยกรรมเจ๊อ้อย เผยหาก 'ษิทรา' ไม่มีทนายสามารถซักค้านเองได้
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสว่าจะมีตัวแทนรับมอบอำนาจจาก น.ส.จตุ
ศาลให้ประกัน พี่เมียทนายตั้ม วงเงิน 1 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ
ภายหลังศาลรับฝากขังนางสาวปิณฑิรา หรือดาว การิวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างฝากขังศาลคำร้องพร้อมหลักทรัพย์
ละเอียดยิบ! เปิดพฤติการณ์ พี่เมีย 'ทนายตั้ม' สมคบฟอกเงิน โกงเจ๊อ้อย 39 ล้าน
ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมตัว นางสาวปิณฑิรา หรือดาวการวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ ในความผิดฐาน "ร่วมกันกันฟอกเงิน
คุมตัวพี่เมีย 'ทนายตั้ม' ฝากขังศาล ตร.ค้านประกัน เจ้าตัวไม่ยอมปริปาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน” ในคดีเงิน 39 ล้านบาทของ
ตำรวจกองปราบ รวบพี่เมีย 'ทนายตั้ม' ร่วมกันฟอกเงิน คดีโกงเจ๊อ้อย 39 ล้าน
พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของนายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน”