ทนายดิไอคอน ไม่แปลกใจ 'เอก สายไหมต้องรอด' โดนหมายจับ จ่อฟ้องหมิ่นอีกคดี

"ทนายบอสพอล" แจงปมคลิปเสียงยืนยันไม่ได้ข่มขู่ แค่ส่งสารไปถึงคนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายให้กลับใจ ส่วนเรื่อง"เอก สายไหม" ถูกจับกุมถือว่าเป็นไปตามคาด จ่อเตรียมดำเนินคดีหมิ่นประมาท และฟ้องเรียกค่าเสียหายร้อยล้านบาท

22 พ.ย.2567 - เวลา 16.00 น. ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร​ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เดินทางเข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพเพื่อเข้าเยี่ยมบอสพอล และพวก เพื่อมาพูดคุยแนวทางในการสู้คดีในอนาคต ว่าจะมีการปรับรูปแบบแนวทางยังไงกันบ้าง ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ได้คุยกันไม่นานมาก เนื่องจากว่ามีคนเข้าเยี่ยมหลายคน พูดคุยเพียงแค่ 3-4 ท่านเท่านั้น

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า แนวทางในตอนนี้ตั้งใจว่าจะพาพยานที่เคยแจ้งความกับบริษัทที่กองบังคับการตำรวจสอบส่วนกลาง ไปพบดีเอสไอในฐานะพยานเพื่อไปยื่นคำร้องในการให้การใหม่อีกครั้ง โดยตั้งใจจะเริ่มในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเท่าที่ตนเองคาดการณ์เอาไว้ก็คือจะพาไปวันละ 200 คน

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ได้มีการพาผู้เสียหายจำนวน 89 ราย ทำทีเป็นผู้เสียหายเพื่อไปขอเงินค่าเยียวยา ที่ทางบริษัทดิไอคอนเคยนำเงินจ่ายให้จำนวน 8.9 ล้านบาท ซึ่งคนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายในจำนวนนี้ ตามหลักฐานที่ได้มีการโอนเงินจ่ายตอนนี้จำนวนตัวเลขคือ 75 คน ในแต่ละคนได้มีการจ่ายเงินในเรทต่างๆตั้งแต่ 50,000 ถึง 150,000 บาท สำหรับ 75 คนในตอนนี้ ทางทีมทนายความได้มีการกันเอาไว้ 6 คน ซึ่งใน 6 คนนี้ จะกันเอาไว้เป็นพยานในฐานะที่เป็นบุคคล ได้มีการเบิกของออกไปจากบริษัทแต่ยังมีสินค้าบางอย่างที่หลงเหลืออยู่ แต่ในจำนวน 69 คนที่เหลือ ได้มีการเบิกสินค้าจากบริษัทไปหมดแล้ว อีกทั้งได้มีการนำสินค้าไปจำหน่าย รวมถึงบริโภคเอง แต่กลับมีการเข้ามามั่วนิ่มในลักษณะเข้ามาขอเงิน ทำตัวเป็นผู้เสียหาย ซึ่งคนกลุ่มนี้ทางทีมทนายความได้มีการเตรียมแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หรือร่วมกันฉ้อโกง พร้อมกับนางสาวกฤษอนงค์

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ซึ่งหากย้อนกลับไปได้ ตอนที่ถูกนางสาวกฤษอนงค์ พากลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายมาร้องเรียน ตนเองจะขอสู้ไม่ขอจ่ายเงินแบบนี้ แต่ที่ตอนนั้นต้องยอมจ่ายเงินเนื่องจากสมาชิกของบริษัทดิไอคอนมีหลาย 100,000 คน 100,000 คนกลัวว่าถ้าหากเป็นข่าวเสียๆหายๆไปแล้วบริษัทจะหมดความน่าเชื่อถือและจะได้รับผลกระทบในวงกว้าง อีกทั้งทางฝั่งที่มาร้องเรียนได้มีการอ้างถึงนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีน้ำ ว่าได้รับมอบหมายให้มาจัดการเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีการข่มขู่อีกด้วยว่าจะมีการพาผู้เสียหายไปร้องกับ สคบ. แล้วจะพานักข่าวเข้ามาทำข่าว และนางสาวกฤษอนงค์ ยังอ้างอีกว่าเคยนำเงินไปให้กับดีเอสไอจำนวน 10 ล้านบาท จึงทำให้บอสพอล หวาดกลัวจึงยอมจ่ายเพื่อให้จบกันไป

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นคลิปเสียงเป็นคคลิปที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี่ที่ได้พูดคุยกับผู้จำหน่ายสินค้าของดิไอคอน ที่อยู่ในกลุ่ม “ครอบครัวดิไอคอน” เป็นการพูดคุยบันทึกที่จะส่งให้กับดีเอสไอ โดยส่วนตัวทราบว่าในกลุ่มมีหนอนบ่อนไส้อยู่จึงได้มีการส่งสารไปหาโดยตรง จะได้รู้ว่าในกลุ่ม 10,000 คนมีผู้เสียหายจริงๆเท่าไหร่ หากพบว่าคนในกลุ่มที่ได้มีการเบิกสินค้าไปแล้วจำหน่ายสินค้าไปแล้ว แต่มาแจ้งความอ้างตัวเป็นผู้เสียหาย ก็จะมีการแจ้งความกลับในข้อหาแจ้งความเท็จ สำหรับในการพูดคุยที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่ามีลักษณะเป็นการพูดคุยกันในลักษณะข่มขู่ ประเด็นนี้ขอชี้แจงว่า ที่ในคลิปเสียงตนบอกว่าจะขู่ดำเนินคดี ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย ไม่มีความผิดทางกฎหมาย เพราะไม่ได้ขู่ที่จะทำร้ายใคร ส่วนจะอ้างว่าหวาดกลัวนั้นถ้าหากว่าไม่ผิดจริงจะกลัวเรื่องการดำเนินคดีทำไม ซึ่งยืนยันเป็นการใช้สิทธิ์ทางกฎหมาย

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ส่วนมีการยกตัวอย่างไปหาบุคคลที่สามที่ถูกดำเนินคดี และกำลังจะถูกดำเนินคดี แล้วทำให้เกิดความหวาดผวากับสมาชิกจนทำให้บางคนต้องกลับใจไปถอนแจ้งความ ถือว่าเป็นการวางแผนทีมทนายทนายในการต่อสู้คดีหรือไม่ ประเด็นนี้ขอชี้แจงว่าต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ไม่อยากให้เป็นการใส่ร้ายใคร เพราะการที่บอสของดิไอคอนถูกจับกุมก็ไม่ได้ถือว่ามีการกระทำความผิด หรือบริษัทมีการฉ้อโกง เนื่องจากศาลยังไม่ได้มีการตัดสิน ซึ่งคนกลุ่มนี้ตนเองไม่ได้ระบุเส้นตายว่าต้องออกมาวันไหน แต่ทางดีเอสไอได้มีการกำหนดเวลาจนถึงแค่วันที่ 3 ธ.ค.เท่านั้น

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนประเด็ก เอก สายไหม ที่ถูกออกหมายจับในวันนี้ ตนเองเพิ่งทราบเรื่องจากสื่อมวลชน ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจเพราะเป็นไปพยากรณ์เอาไว้ ที่พยากรณ์แม่นเพราะถือว่าเป็นไปตามประสบการณ์ เนื่องจากว่า เอก สายไหม มีพฤติกรรมทำให้คดีธรรมดาๆ เป็นคดีที่มีการโยงว่าจ่ายเงินให้หน่วยงานราชการ โยนไปถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จนตอนนั้นบริษัทดิไอคอนกลายเป็นองค์กรอาชญากรรมที่จ่ายเงินให้หน่วยงานต่างๆ อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงไปถึงจีนสีเทาด้วย ซึ่งหลังจากนี้ตนเองได้มีการปรึกษากับทางบอสไอคอนแล้วว่าหลังจากนี้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีฐานความผิดหมิ่นประมาทกับ เอก สายไหม รวมถึงจะเรียกร้องค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงินหลัก 100 ล้านบาท ส่วนหลังจากนี้ เอก สายไหม จะได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือไม่ ก็มองว่าเป็นสิทธิ์ทางกฎหมาย ตนเองก็ยินดีด้วย แต่ลูกความตนเองไม่เคยได้รับโอกาสนี้เลย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดีเอสไอ' ประชุมใหญ่ สรุปสำนวนดิไอคอน ก่อนส่งอัยการ 23 ธ.ค.นี้

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ

พยานฝั่งดิไอคอน ร้อง 'กมธ.ความมั่นคง' หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

ผู้เสียหายและพยานที่ได้รับความเดือดร้อน จากการอายัดทรัพย์โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความผิดที่ถูกกล่าวหา กรณี บริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป เข้ายื่นหนังสือถึง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ

ศาลรับฟ้อง 'บิ๊กป้อม' ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 'สิระ' เรียก 50 ล้าน

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร.ได้มอบอำนาจให้ตน ให้ทนายความ ฟ้อง

'แทนคุณ' ไม่สะท้าน 'ฟิล์ม' ขู่ฟ้อง โวข้อมูลเพียบหักล้างได้หมด พร้อมฟ้องกลับ

'อี้ แทนคุณ' ไม่สะท้าน 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' เตรียมฟ้อง ลั่นกุมความลับอีกหลายเรื่อง พร้อมฟ้องกลับ โวข้อมูลไหลมาเยอะมาก หักล้างได้หมด

'ฟิล์ม รัฐภูมิ' พกมั่นใจเต็มร้อย ควง 'ทนายประมาณ' รับข้อหากองปราบ

'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ควง 'ทนายประมาณ' โผล่กองปราบ รับทราบข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์-หมิ่น คลิปเสียงเรียกรับเงินบอสพอล 20 ล้าน

เปิดคำสั่ง ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกัน 'สามารถ' ชี้พฤติการณ์สมคบกันฟอกเงิน คดีฉ้อโกง

ศาลอาญาอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดีตสมาชิกและรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5(1),(3) มาตรา 9