ดีอี รุกตัดต้นตอ “โจรออนไลน์” เผยสถิติเดือน ต.ค. ลุยปิดเพจ/URL ผิดกฎหมาย กว่า 13,000 รายการ
17 พ.ย. 2567 – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี ได้ดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URL ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ เพื่อเป็นการตัดหนึ่งในช่องทางการก่ออาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญของมิจฉาชีพ พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบ เฝ้าระวัง และบูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยออนไลน์
ทั้งนี้ จากสถิติการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URL ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ของกระทรวงดีอี ตั้งแต่วันที่ 1-30 ตุลาคม 2567 พบว่า มีการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URL ผิดกฎหมายทุกประเภทแล้ว จำนวน 13,220 รายการ เพิ่มขึ้น 1.36 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ ( 1 – 30 ตุลาคม 2566) ที่มีจำนวน 9,728 รายการ
สำหรับประเภทของ โซเชียลมีเดีย เพจ/URL ที่มีการปิดกั้นในระยะเวลา 1 เดือน ( 1 – 30 ตุลาคม 2567) มีดังนี้
พนันออนไลน์ จำนวน 2,974 รายการ เพิ่มขึ้น 1.33 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ (1 – 30 ต.ค.66) ที่มีจำนวน 2,236 รายการ
บิดเบือน/หลอกลวงออนไลน์ จำนวน 4,884 รายการ ลดลง 0.31 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ ( 1– 30 ต.ค.66) ที่มีจำนวน 7,070 รายการ
อื่นๆ จำนวน 5,362 รายการ เพิ่มขึ้น 12.71 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ (1 – 30 ต.ค.66) ที่มีจำนวน 422 รายการ
ขณะที่ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2567 กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URL ผิดกฎหมายทุกประเภทแล้ว จำนวน 150,425 รายการ เพิ่มขึ้น 8.51 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ (1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2566) ที่มีจำนวน 17,670 รายการ
“กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ/URL ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติตั้งแต่วันที่ 1-30 ตุลาคม 2567 มีการปิดกั้น URL ผิดกฎหมายรวมทุกประเภทไปแล้วกว่า 13,000 รายการ ซึ่งสถิติที่เพิ่มขึ้นในทุกเดือนนั้น เนื่องจากกระทรวงดีอีได้มีการปรับกระบวนการทำงานให้มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีการตรวจสอบ เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา พร้อมทั้งการบูรณาการข้อมูลร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลข่าวปลอม เว็บไซต์ผิดกฎหมายผ่านทางสายด่วน 1111” นายประเสริฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระทรวง ดีอี มีความห่วงใยประชาชน ขออย่าหลงเชื่อ ข่าวปลอม ข้อมูลบิดเบือน หรือกลโกงของมิจฉาชีพที่หลอกให้เข้าไปลงทุน หรือกดลิงก์แพลตฟอร์มต้องสงสัยภายในโซเชียลมีเดีย เพจ และ URL ผิดกฎหมาย เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ทำให้สูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสูญเสียทรัพย์สินได้ หรือหากมีการเชื่อ และแชร์ข้อมูลที่อยู่ใน URL ผิดกฎหมายต่อๆกัน อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ประเสริฐ' รับเพื่อไทยยังไม่มีผู้สมัครนายก อบจ.โคราช หลัง 'ยลดา' เมียกำนันป้อ ประกาศลงอิสระ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมาที่ลาออกไป
'แจกเงินหมื่น' เฟส 3 ไม่ใช้แอปเป๋าตัง กำลังจัดซื้อจัดจ้างพัฒนาระบบ คาดเสร็จ มี.ค.68
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำแอปพลิเคชันที่ใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เงิน 10,000 บาท เฟส 3 หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกมนตรี
'มาดามสะใภ้ใต้' ยังไม่ลงใต้ ส่ง 'รัฐมนตรีดีอี' ลุยน้ำท่วมซ่อมเสาโทรศัพท์ก่อน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ 6 ธ.ค.นี้
'ประเสริฐ' เผยสอบ 'เทวดา สคบ.' รับส่วยดิไอคอน ต้องใช้เวลานาน ใกล้เส้นตายยังไร้ข้อสรุป
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนัก
'ประเสริฐ' ฟุ้งปราบโจรออนไลน์ ศูนย์ AOC 1441 ระงับบัญชีต้องสงสัยแล้วกว่า 340,000 เคส
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการแถลงข่าวผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และภาพรวม
'ประเสริฐ' คุยแก้ปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา กว่า 1 ล้านคน จะทำสำเร็จในรัฐบาลนี้
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์