“เอกนัฏ” เอาจริง!! สั่งปราบโรงงานผิดกฎหมายเถื่อน ย้ำเร่งบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม
3 พ.ย. 2567 – หลังจากเมื่อวานนี้ ( 2พ.ย.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) สั่งการให้ชุดปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าจับกุมนายจาง โก่วตุ้ง อายุ 46 ปี ชาวจีน ที่โรงงานรีไซเคิล อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตรวจยึดวัตถุอันตรายได้ประมาณ 41.5 ตัน ประกอบด้วยสารพลวง เบริลเลียม แคดเมียม ตะกั่ว ซีลิเนียม เทลลูเรียม รวมถึงของเสียที่มีสารปนเปื้อนสารหนู ปรอท และแทลเลียม โดยก่อนหน้านี้โรงงานดังกล่าวถูกสั่งระงับกิจการและยกเลิกใบอนุญาตแล้ว แต่ยังลักลอบดำเนินการต่อ
ผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่วิศวกรควบคุมและผู้ดูแลสถานที่ ถูกส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ ดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งยกเลิกใบอนุญาตและสั่งปิดโรงงาน
เจ้าหน้าที่เผยว่า สารอันตรายที่ยึดได้มีไว้เพื่อคัดแยกสารตะกั่ว ทองแดง และอลูมิเนียม เพื่อส่งกลับประเทศจีน หากสารเหล่านี้สัมผัสน้ำจะเกิดความร้อนและก่อตัวเป็นแอมโมเนีย ซึ่งการสูดดมในปริมาณมากจะทำให้วิงเวียนศีรษะและมีความเสี่ยงก่อมะเร็งในร่างกาย
ด้านนางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) ได้สั่งการให้ลงพื้นที่บริษัท ที แอนด์ ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายอำเภอศรีมหาโพธิ์ เข้าร่วมตรวจสอบ ซึ่งประชาชนในพื้นทีืได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรม โดยบริษัทประกอบกิจการทำเชื้อเพลิงทดแทน สกัดโลหะมีค่าจากน้ำยาชุปโลหะ อบกากตะกอนที่มีโลหะมีค่า บดย่อยชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นำกรดและด่างที่ใช้แล้วมาผ่านกรรมวิธีทางอุตสาหกรรมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ทำเชื้อเพลิงผสม ซ่อมและล้างบรรจุภัณฑ์ หลอมหล่อทองแดงจากกากตะกอนของเสียที่มีทองแดงเป็นส่วนประกอบ คัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย
กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้มีคำสั่งปิดโรงงานของบริษัทและเพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าวแล้ว ซึ่งทางโรงงานได้ฝ่าฝืนคำสั่งและยังคงประกอบกิจการอยู่ จึงได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดปราจีนบุรีเข้าตรวจสอบภายในโรงงาน ผลการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมวิศวกรชาวจีนผู้ดูแลโรงงานดำเนินคดี 1 ราย และคนงานต่างด้าว 4 ราย รวมทั้งพบความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1) ข้อหาตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 2) ข้อหาประกอบกิจโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 3) ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งปิดโรงงาน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสิ่งของที่ยึดและอายัดไว้ในทุกอาคาร พบว่ามีการสูญหายและมีการเคลื่อนย้ายสิ่งของออกไปนอกพื้นที่ จึงได้ดำเนินการเอาผิดเพิ่มเติม ดังนี้ 1) ความผิดข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานตามมาตรา 56 พรบ.โรงงาน พ.ศ.2535 2) ความผิดข้อหาทำลายหรือเคลื่อนย้ายของกลางที่ยึดอายัดตามมาตรา 141 และมาตรา 142 แห่งประมวลกฎหมายอาญา 3) เจ้าหน้าที่ดำเนินการนำตัวอย่างวัตถุดิบหรือสิ่งของต่าง ๆ ภายในอาคารมาทดสอบ พบเป็นวัตถุอันตรายและไม่มีใบอนุญาตครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และเป็นความผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจจับได้ทันทีเป็นเหตุให้จับวิศวกรชาวจีนดำเนินคดี และดำเนินคดีกับกรรมการบริษัทและผู้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดอย่างถึงที่สุด
“รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ“ ได้เน้นย้ำตามนโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรม” การจัดการกาก สารพิษ ที่ทำร้ายชีวิตประชาชน โดยปรับการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ เพื่อคืนน้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชน โดยการแก้ไขกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืน การเพิ่มโทษอาญา เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและชุมชนโดยรอบ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้อยู่ระหว่างดำเนินการร่าง พรบ.ว่าด้วยการจัดการกากอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ เพื่อยกระดับการจัดการกับผู้กระทำผิดต่อไป” หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีฯ ฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมโรงงานฯลั่นจัดการ ‘โรงงานเถื่อน’ สุดซอยไม่กลัวผู้มีอิทธิพล
อธิบดีกรมโรงงานฯ ย้ำ เดินตามนโยบายรัฐมนตรีเอกนัฏ ตรวจสุดซอย ไม่กลัวผู้มีอิทธิพล โรงงานหรือผู้เกี่ยวข้อง รู้เห็น ร่วมทำความผิด เจอคดีถึงที่สุดทันที
‘กรุณพล’ แจงยิบปมตร.ค้นบ้านผอ.พรรคประชาชน ปราจีนฯ พบอาวุธปืน-กระสุนอื้อ
สืบเนื่องจากกรณีตำรวจภูธรภาค 2 ชุดขยายผล กวาดล้างผู้มีอิทธิพลใน จ.ปราจีนบุรี บุกค้นจับกุมบ้านผู้ต้องสงสัยพบอาวุธปืนเถื่อน พร้อมเครื่องกระสุนเป็นจำนวนมา
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
'อนุทิน' ลั่นใครผิดว่าไปตามผิดปมเด็ดชีพ 'สจ.โต้ง'
มท.1 ยังไม่ทราบปม 'สจ.โต้ง' ถูกยิงดับคาบ้าน 'สุนทร วิลาวัลย์' ขอให้ ตร.สืบสวนก่อน ยันทุกอย่างเดินตามกฏหมาย ไม่มีช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นพวกใคร
โฆษกรัฐบาล เผยครึ่งปีแรก 67 จำนวนโรงงานเปิดใหม่ มีมากกว่าปิดกิจการ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันตัวเลขจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปี 2567 รวมทั้งสิ้น 7 เดือน ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 31 กรกฎาคม 2567 ทั้งจำนวนโรงงาน ตัวเลขเงินลงทุน และ ตัวเลขการจ้างงาน มีตัวเลขเป็นบวกทั้งสิ้น