'ดีเอสไอ' รับสำนวน 'ดิไอคอน' นัดถกคดีพิเศษ พรุ่งนี้รู้ผลสรุป

"ดีเอสไอ" รับไม้ต่อ "ปคบ."สำนวนคดีดิไอคอน เอกสารสอบปากคำมากกว่า 81,000 แผ่น เตรียมนัดประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองทันทีพรุ่งนี้

28 ต.ค.2567 - ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้นำสำนวนคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จำนวน 30 ลัง เอกสารมากกว่า 81,000 แผ่น มาส่งมอบให้กับดีเอสไอเพื่อรับไม้ต่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ตามบัญชีความผิดแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยมี ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ รอง ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ รอให้การต้อนรับ และรับมอบเอกสารพฤติการณ์ทางคดีกับ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง

โดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นการส่งสำนวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.-27 ต.ค. เพื่อให้ดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เบื้องต้นมีจำนวนลังสำนวนคดีที่ส่งมอบมากกว่า 30 ลัง เอกสารมากกว่า 81,000 แผ่น ส่วนใหญ่คือเอกสารคำให้การของพยาน คำให้การของผู้เสียหาย คำให้การของผู้ต้องหา ส่วนเรื่องบัญชีทรัพย์สิน จะทยอยส่งมอบในภายหลัง

ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า เนื่องด้วยในตอนนี้ดีเอสไอยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ แต่เมื่อทางตำรวจมีการส่งมอบสำนวนมาให้ดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ อย่างไร ต้องขอรอดูข้อเท็จจริงทั้งหมด ทั้งเนื้อหาพฤติการณ์ทางคดี พยานหลักฐาน เพราะเดิมทีตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพ์ ไว้ก่อน ในวันนี้ที่จะต้องไปต่อ คือ การพิจารณาความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ โดยจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ 29 ต.ค. เวลา 09.00 น. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อหารือผลสรุปการรับเป็นคดีพิเศษ และวิธีการ ขั้นตอนต่าง ๆ ในการสอบสวน

ส่วนที่หลายคนมีความเป็นห่วงว่าในระหว่างที่ยังไม่รับเป็นคดีพิเศษนี้จะทำให้เกิดความเสียหายต่อพยานหลักฐานนั้น ร.ต.อ.วิษณุ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนคดีได้ต่อไป ทั้งในส่วนของการสืบสวนและการสอบสวน แต่เมื่อใดที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ดีเอสไอจะเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อไปแทน ไม่ว่าจะในมิติของการออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติม การออกหมายเรียกพยาน หรือการเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหารายใดในเรือนจำฯ โดยเฉพาะประเด็นผู้ต้องหาลอตที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเปรยกันว่าตำรวจจะดำเนินคดีนั้น ตนขอเรียนว่าหากกลุ่มลอตที่ 2 หมายถึงบรรดาแม่ทีม แม่ข่าย หากพยานหลักฐานถึงใคร หรือใครไปมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด หรือเป็นตัวการร่วม ดีเอสไอก็ต้องพิจารณาดำเนินคดี นอกจากนี้ หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว เราจะแจ้งช่องทางให้ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ในคดีรับทราบอีกครั้งว่าจะให้เข้าแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่/ท้องที่ หรือให้เข้ามาแจ้งความกับดีเอสไอโดยตรง ตรงนี้ขอไปวางกระบวนการก่อน

สำหรับทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหานั้น ร.ต.อ.วิษณุ ระบุว่า ยืนยันว่าดีเอสไอได้มีการพิสูจน์ทราบหาทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิดในคดี คู่ขนานกับตำรวจไปแล้ว และสามารถยึดทรัพย์สินได้บางส่วน ส่วนทรัพย์สินที่ตำรวจยึดได้ก่อนหน้านี้จะมาหารือกันอีกครั้งว่าจะนำเข้ามาให้ดีเอสไอดำเนินการ หรือนำส่งให้ ปปง. ดำเนินการ

ทั้งนี้ ร.ต.อ.วิษณุ ปิดท้ายว่า เพื่อให้คดีมีความรัดกุม รอบด้าน รอบคอบ เมื่อดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้วนั้น ตนจะได้ทำหนังสือประสานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้มีอัยการเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในคดีดังกล่าว เพราะคดีมีรายละเอียดข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณา ซึ่งหมายความว่าอาจมีบางพฤติการณ์ในคดีที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งจะต้องมีพนักงานอัยการมาร่วมพิจารณาด้วย พร้อมย้ำชัดว่า การรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ ไม่ถือเป็นการกดดันจากด้านต่าง ๆ และเชื่อว่าจะสามารถพิจารณาได้ทันก่อนกำหนดฝากขังทั้ง 4 ผัด หรือทันก่อนที่ผู้ต้องหาจะติดต่อขอประกันตัวในผัดต่อไป

ส่วนกรณีที่โค้ชแล็ป ซึ่งมีการจับตามองว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นถึงผู้ดูแลระบบหลังบ้านของ The iCon Group และในตอนนี้ยังมีการเปลี่ยนทนายความเป็นคนเดียวกับบอสพอล และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่นั้น ร.ต.อ.วิษณุ แจงว่า เรื่องนี้ไม่กังวลเพราะดีเอสไอมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจยึดได้จากพื้นที่เป้าหมายต่าง ๆ จากการตรวจค้นซึ่งจะสามารถใช้พิสูจน์การกระทำความผิดและพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 18 คนได้ จึงไม่กังวลหากจะเปลี่ยนทนายความหรือไม่ให้ความร่วมมือ และหากทนายความของบอสพอลจะนำรายชื่อและพฤติการณ์ของแม่ทีม 5 คน ซึ่งเป็นคนที่ออกรายการดังต่าง ๆ มาส่งหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษกับดีเอสไอ เรื่องนี้ดีเอสไอขอพิจารณาก่อนว่าหนังสือดังกล่าวมีการกล่าวโทษมาในรูปแบบใดบ้าง และต้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดจริงหรือไม่ นอกจากนี้ สำหรับคดีคลิปเสียงต่าง ๆ ของบรรดาเทวดา นักร้อง และทนาย ที่มีการสนทนากันนั้น คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะเป็นผู้พิจารณาดังเดิม

ส่วน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า เมื่อดีเอสไอรับหนังสือส่งมอบสำนวนคดีมาแล้ว ก็ต้องประชุมหารือว่าจะเข้าเกณฑ์การรับเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ด้วยช่องทางใด ระหว่างกรณีเข้าตามประกาศ กคพ. ตรงนี้อำนาจของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษสามารถดำเนินการกลั่นกรองได้ทันที แต่ถ้าหากพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่เข้าช่องทางดังกล่าว ก็จะมีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ บอร์ดดีเอสไอ แต่ยืนยันว่ากรอบการพิจารณาจะดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุด ทันครบกำหนดฝากขังผัดแรกของผู้ต้องหาแน่นอน เร็วที่สุดคือวันพรุ่งนี้ที่มีการประชุมก็จะทราบผลแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวดี ผู้เสียหายคดีดิไอคอนกรุ๊ป​ 'ปปง.' เปิดให้ยื่นขอคุ้มครองสิทธิรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ได้นำส่งมอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี บริษัท

โฆษกดีเอสไอ โต้ทนายบอสพอล อุปสรรคคดีอยู่ที่ฝ่ายผู้ต้องหาเอง ไม่ใช่ DSI

ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล ในและฐานะโฆษกดีเอสไอ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดี

ทนายบอสพอล กังวล 'ดีเอสไอ' ตัดพยาน 2,000 คนฝั่งดิไอคอน ยุติสอบปากคำ 3 ธ.ค.นี้

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอล ที่เรือนจำฯ ว่ายอมรับว่าหนักใจเนื่องจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ

'ดีเอสไอ' จ่อบุกเรือนจำสอบปากคำ 'เจ๊พัช' ปมคลิปเสียงจ่ายสินบนดีเอสไอ 10 ล้าน

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคลิปเสียงสาวอ้างจ่ายเงิน 10 ล้านบาทให้ ดีเอสไอ

ทนาย 'บอสพอล' แจ้งความเอาผิด 'เจ๊พัช กฤษอนงค์-ฟิล์ม รัฐภูมิ' กรรโชกทรัพย์

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เข้าแจ้งความเอาผิดน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ในกรณีที่ปรากฏคลิปเสียงที่มีการแอบอ้างชื่อนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย เพื่อเรียกรับเงิน 20 ล้านบา

'บิ๊กเต่า' เผยเรียก 'เอก สายไหมต้องรอด' สอบปากคำวันนี้ ปมปั้นพยานเท็จดิไอคอน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคลิปเสียงตบทรัพย์ผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน ว่า ได้รับการประสานมาจากนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล“ และ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า วันนี้จะไปพบ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ “บอสปัน”