24 ต.ค.2567 - พ.ต.ต.ยุทธยา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงกรณี บริษัท ดิไอคอน ว่า ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเฉพาะความผิดอาญาฐานฟอกเงินเท่านั้น ซึ่งเป็นการดำเนินคดีกับผู้ที่โอนหรือรับโอนทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยังคงสอบสวนความผิดอาญาฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดอื่น ขณะที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะรับดำเนินการเรื่องทรัพย์สิน
สำหรับที่ดีเอสไปตรวจยึดไว้จะแจ้งให้ ปปง.ดำเนินการ โดยทรัพย์ขณะนี้แบ่งเป็น กลุ่ม 1 ที่ดิน 3 แปลงที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี, กลุ่ม 2 ทรัพย์สินที่เป็นที่ตั้งของ บ.ดิไอคอน รวมทั้งอาคารสิ่งปลูกสร้างจำนวนหลายแปลง ส่วนกลุ่ม 3 เป็นทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้จากย่านรามอินทราคือ นาฬิกาและกระเป๋าแบรนด์เนมต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบหลังมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นของปลอม
พ.ต.ต.ยุทธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีนี้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพบว่ามีการทำความผิดมูลฐานที่ ตร.สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเข้าเงื่อนไขกรณีที่มีทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งการสืบสวนสอบสวนพบว่าการฉ้อโกงประชาชนจะมีการหลอกเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายและเชื่อว่ามีการนำทรัพย์สินเหล่านี้ไปซื้อทั้งอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ส่วนผู้ต้องหากลุ่มแรก 18 คนที่ ตร.ดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ ก็เชื่อว่าคนกลุ่มนี้มีพฤติการณ์ในการรับโอนและครอบครองทรัพย์สินที่ได้มาจากการทำความผิดอยู่ด้วย ซึ่งมีโอกาสถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน เพราะถือว่าเป็นความผิดต่างกรรม นอกจากนี้ยังมีบุคคลอื่นที่เป็นแถว 2-3 ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด
ขณะที่นายวิทยา นิติธรรม โฆษก ปปง. ชี้แจงข้อสังเกตที่มีการระบุว่า ตำรวจและดีเอสไอเข้าดำเนินการกับทรัพย์สินด้วยการตรวจยึดเป็นของกลางในเบื้องต้นจะทำให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินงานของ ปปง.หรือไม่นั้น ยืนยันว่าเป็นประโยชน์และถือเป็นการเติมเต็มข้อจำกัดของ ปปง. เพราะจะทำให้สามารถรวบรวมทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดให้กลับมาให้ได้มากและเร็วที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดี ผู้เสียหายคดีดิไอคอนกรุ๊ป 'ปปง.' เปิดให้ยื่นขอคุ้มครองสิทธิรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้นำส่งมอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี บริษัท
โฆษกดีเอสไอ โต้ทนายบอสพอล อุปสรรคคดีอยู่ที่ฝ่ายผู้ต้องหาเอง ไม่ใช่ DSI
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล ในและฐานะโฆษกดีเอสไอ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดี
ทนายบอสพอล กังวล 'ดีเอสไอ' ตัดพยาน 2,000 คนฝั่งดิไอคอน ยุติสอบปากคำ 3 ธ.ค.นี้
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอล ที่เรือนจำฯ ว่ายอมรับว่าหนักใจเนื่องจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ
'ดีเอสไอ' จ่อบุกเรือนจำสอบปากคำ 'เจ๊พัช' ปมคลิปเสียงจ่ายสินบนดีเอสไอ 10 ล้าน
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคลิปเสียงสาวอ้างจ่ายเงิน 10 ล้านบาทให้ ดีเอสไอ
ทนาย 'บอสพอล' แจ้งความเอาผิด 'เจ๊พัช กฤษอนงค์-ฟิล์ม รัฐภูมิ' กรรโชกทรัพย์
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เข้าแจ้งความเอาผิดน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ในกรณีที่ปรากฏคลิปเสียงที่มีการแอบอ้างชื่อนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย เพื่อเรียกรับเงิน 20 ล้านบา
'บิ๊กเต่า' เผยเรียก 'เอก สายไหมต้องรอด' สอบปากคำวันนี้ ปมปั้นพยานเท็จดิไอคอน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคลิปเสียงตบทรัพย์ผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน ว่า ได้รับการประสานมาจากนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล“ และ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า วันนี้จะไปพบ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ “บอสปัน”