22 ต.ค.2567 - พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เปิดเผยถึงการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีตากใบที่กำลังหมดอายุความวันที่ 25 ต.ค.นี้ว่า คดีตากใบเรื่องนี้เกิดมาตั้งแต่ปี 47 ต่อมาปี 50 ได้มีคำพิพากษาของศาลจังหวัดปัตตานี พิพากษาในเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย แต่หลังจากนั้นมีประชาชนฟ้องศาลเองเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาและอัยการได้ฟ้องเอง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา รวม 14คน ต่อมาไม่ว่าจะเป็นประชาชนฟ้องเองหรืออัยการฟ้องได้มีการออกหมายจับรวมแล้ว 14 ราย
"ผมได้เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมาและได้เร่งรัดให้สืบสวนจับกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับให้ได้ภายในอายุความและได้มีการออกวิทยุสั่งการกำชับทุกกองบัญชาการ ทุกภูธรจังหวัดที่ผู้ต้องหามีภูมิลำเนาและถิ่นที่อยู่"
พล.ต.อ.กิตติรัฐ เผยต่อว่า การปฏิบัติของตำรวจแยกเป็น 2 ส่วน 1. ด้านธุรการ เราได้มีการได้รับหมายจับมาเป็นระยะตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. วันที่ 30 ก.ย. วันที่ 1 ต.ค.และวันที่ 3 ต.ค. ทุกระยะเราได้มีการดำเนินการด้านธุรการเรื่องการลงข้อมูลหมายจับในระบบ Crimes ซึ่งเป็นระเบียบปฏิบัติของตำรวจมีการประกาศสืบจับ เวียนหนังสือในการสืบสวนติดตามและมีการประสานกับกองการต่างประเทศประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดงเป็นที่เรียบร้อย
2.เรื่องการปฏิบัติ ตนได้เดินทางไปที่ บช.ภ.9 มีการสั่งให้มีการสืบสวนจับกุม จนถึงวันนี้ได้มีการตรวจค้นแล้ว 29 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติให้มีสื่อมวลชนเข้าไปร่วมปฏิบัติการด้วยทุกครั้ง การปฏิบัติการต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เท่านั้นยังไม่พอตนยังได้มีการสั่งการเฝ้าจุดและติดตามอย่างต่อเนื่องและให้ระมัดระวังเรื่องการหลบหนีออกนอกประเทศ เราเฝ้าถึง 180 ครั้ง นั่นคือสิ่งที่เราทำตามหน้าที่ของตำรวจ
"เรียนตรงๆว่าเรื่องนี้ผมได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการอย่างเต็มที่และดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาให้ได้ตามกำหนดอายุความ ถ้าประชาชนมีเบาะแสให้แจ้งยังตำรวจพื้นที่นั้น เราพร้อมที่จะเข้าดำเนินการจับกุมทันที ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินการตามหน้าที่อย่างเข้มข้นจริงจังไม่ได้ปล่อยผ่าน ข้อมูลของผู้ต้องหาบางคนทราบว่าได้มีการหลบหนีออกนอกประเทศก่อนที่เราจะได้รับหมายจับ ส่วนที่เหลือยังไม่มีข้อมูลการหลบหนีออกนอกประเทศอยู่ระหว่างการเฝ้าสืบสวนติดตามอยู่อย่างทุกวิธีทาง"ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางฝ่ายการเมืองพยายามขยายอายุความคดีตากใบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีมาตรการอย่างไรในการดำเนินการกับผู้ต้องหา ผบ.ตร.ตอบว่า ตอนนี้ยังอยู่ในอายุความพุ่งเป้าไปที่การสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด เราเน้นไปในเรื่องการติดตามเอาตัวให้ได้ภายในอายุความ ส่วนในประเด็นอื่นก็ขอให้ว่ากันไป ในเรื่องของกฎหมายเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเมืองและเราไม่ได้ยุ่งการเมืองเราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เรามีอำนาจอย่างไรก็เดินหน้าไปตามนั้น ตนเองได้ย้ำทุกหน่วยอย่าได้หยุดติดตามจับกุมเรามุ่งเน้นความสำเร็จ เราไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการเล่นละคร
ถามว่ามั่นใจว่าจะสามารถจับผู้ต้องหาได้ก่อนคดีหมดอายุความหรือไม่เขาตอบว่ามีความตั้งใจที่จะเอาตัวให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ผบ.ตร.’ สั่งตำรวจเข้มงวดดูแลชีวิตและทรัพย์สินประชาชนช่วงปีใหม่
"ผบ.ตร."กำชับมาตรการเข้ม ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลคริสต์มาส -ปีใหม่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุฟัน 10 ข้อหาหลัก
'สันธนะ' หอบหลักฐานเด็ดให้ 'บิ๊กต่าย' มัดคนฆ่า สจ.โต้ง ไม่ใช่ 'โกทร'
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมทีมงาน ประสานเข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
'บิ๊กต่าย' ยันไม่ได้ลอยตัว ปม ป.ป.ช. รับไต่สวนจนท.รัฐ เอื้อทักษิณนอนชั้น 14 พร้อมทำตามกฎหมาย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติให้ตั้งองค์คณะไต่สวนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวม12 ราย
ผบ.ตร. เซ็นโอนคดี 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบแล้ว ผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาจิ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เซ็นโอนคดี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร อายุ 86 ปี นายก อบจ.ปราจีนบุรี
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท