'อัจฉริยะ' พอใจหลัง สคบ.เตรียมเพิกถอนใบอนุญาตขายตรง 'ดิไอคอนกรุ๊ป'

17 ต.ค.2567 - นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมาทวงคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง​ผู้บริโภค​ (สคบ.) เรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด และส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความที่ ปคบ.ตามมาตรา 19 หรือยัง หลังได้มายื่นเรื่องไว้เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา โดยมีนายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงาน สคบ. ชี้แจงว่า เราต้องดำเนินการเร่งด่วน เนื่องจากมีผู้เสียหายค่อนข้างมาก ทางเลขาธิการ สคบ. ได้ตั้งคณะทำงานมาดูแลประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อหาประเด็นในการเพิกถอน ซึ่งเมื่อวานนี้ ( 16 ต.ค.) ได้ประชุมครั้งแรก ก็มองว่าข้อมูลที่นายอัจฉริยะให้มา พอที่จะเห็นว่าบริษัทมีการขายสินค้าปลีกและส่งจริง แต่อีกส่วนหนึ่งที่ว่ามันเหมือนเป็นการระดมทุน คือมีการให้ดิลเลอร์ไปหาสมาชิกระดับเป็นระดับ 2 แสน 5 หมื่นด้วยกัน ถ้าขายแล้วไปหาสมาชิกระดับเดียวกันจะได้ตอบแทน 1 หมื่น ข้อมูลชุดนี้เราต้องตรวจสอบว่า คำนวณแล้วมา 4 เปอร์เซ็นต์ ในการจ่าย แต่ว่าใครเป็นคนจ่าย ไปถึงตัวบริษัทหรือไม่ ช่องทางการเงินจ่ายกันอย่างไร ตรงนี้เราจะต้องไปตรวจสอบ

อย่างไรก็ตามคณะทำงานชุดนั้น มี 2 แนวทาง คือใช้มาตรา 19 ตาม พ.ร.บ.ขายและตลาดขายตรง อีกส่วนจะหาเหตุตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ว่าบริษัทนี้ไปประกอบธุรกิจตลาดขายตรง และไปก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน โดยทั่วไปจำนวนมาก ถ้าปล่อยไว้ให้ดำเนินการต่อจะก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ รองเลขา สคบ. จะไปหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าช่องทางนี้สามารถดำเนินการได้หรือไม่ตามกฏหมาย ถ้าได้ก็จะใช้อำนาจทางปกครอง เพิกถอน ใบอนุญาตของบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ส่วนมาตรา 19 เราได้มีการสอบผู้เสียหาย 2 ปากในวันนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการสนับสนุนหลักฐานว่ามีการปันผลประโยชน์ ในลักษณะชักชวนให้ลงทุน ซึ่งต้องรอการพิจารณาของคณะทำงานอีก 1-2 วัน เราตั้งประเด็นเพิกถอนเป็นหลัก เพื่อให้ถูกกฎหมายในการออกคำสั่ง

“เราเข้าใจถึงปัญหาตรงนี้ เห็นแล้ว โดนจับไปแล้ว พวกบอสต่างๆ เราต้องรีบเร่งพิจารณาให้เรียบร้อยโดยเร็ว” นายจิติภัทร กล่าว

นายอัจฉริยะ ได้รับทราบแล้วกล่าวว่าจะให้เวลาทาง สคบ.อีก 2 วัน โดยภายในวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม สคบ.จะต้องมีคำตอบ ถ้ายืนยันว่ามีการยึดแน่ ก็จะรอถึงวันจันทร์ ถ้าเรายึดใบอนุญาตของดิ ไอคอน กรุ๊ป ถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะเมื่อเรายึดใบอนุญาต กิจการของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ปก็ถือว่าล่มสลาย ก็จบเลย เพราะประชาชนอีก 6 แสนรหัสก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ดี ทำให้บริษัทอื่นๆ ที่ทำธุรกิจเดียวกัน ก็ต้องถูกจับเช่นเดียวกัน เพราะเราเชื่อว่ายังมีอีกหลายบริษัท ที่ทำลักษณะเช่นนี้ เราเชื่อว่า สคบ.จะต้องรักษาความยุติธรรม รักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของข้าราชการที่ทำงานเพื่อประชาชน ตนยังให้โอกาส โดยในวันจันทร์จะมาทวงถามอีกครั้ง ถ้าไม่ได้ก็อย่าโกรธ ก็จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อข้าราชการที่ปฎิบัติหน้าที่ไม่ชอบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ฟิล์ม-เจ๊พัช' ระทึก! 'ผบ.ตร.' ชี้ผิดจริง หมดสิทธิ์ลอยกระทง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการออกหมายเรียก หรือหมายจับ ฟิล์ม-นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์

'อี้ แทนคุณ' แฉ 'ฟิล์ม' ไม่ได้ตบทรัพย์แค่ 20 แต่เป็น 60 ล้านบาท

'อี้ แทนคุณ' แฉอีก 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ไม่ได้ตบทรัพย์ แค่ 20 ล้าน แต่เป็น 60 ล้าน ลั่นไปถามฟิล์มเขาก็รู้ ผู้เสียหายอยู่ภาคใต้ เชื่อเป็นแนวร่วมให้เทวดาดิไอคอนตัวจริง แย้มเร็วๆ นี้ ได้เห็นแน่ ทนายคนดังอาจโดนด้วย

'ทนายบอสพอล' มั่นใจชี้แจงได้หมด อ้าง 'ดีเอสไอ' แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ ค่อนข้างหลวม

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอล ว่า หลวมดี เพราะหากดูจากพฤติการณ์ที่ดีเอสไอแจ้งมา

'บิ๊กเต่า' ยันไม่มีตร.กองปราบรีดเงิน 9 ล้าน หลังสอบปากคำโค้ชแล็ป-บอสพอล

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ร่วมแถลงความคืบหน้าคดี ดิไอคอนกรุ๊ป โดยพล.ต.ต จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ถึงการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช เจ้าของเพจกฤ

'ดิไอคอน-18 บอส' อ่วม! 'ดีเอสไอ' บุกคุกแจ้งเพิ่ม 3 ข้อหาหนัก

'ดีเอสไอ' บุกเรือนจำ แจ้งเพิ่ม 3 ข้อกล่าวหา 'ดิไอคอน-18 บอส' ความผิดตามกฎหมายขายตรง-แชร์ลูกโซ่ พร้อมเปิดโอกาสนำหลักฐานมาแจงความบริสุทธิ์ได้