'กบ ไมโคร' พบตำรวจ ปคบ. แจงปมเป็นผู้ร่วมขบวนการหรือผู้เสียหายคดี 'ดิไอคอนกรุ๊ป'

15 ต.ค.2567 - ที่ บก.ปคบ. นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร นักร้อง เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ ที่ตัวเองเคยเป็นแม่ข่าย และได้รับความเสียหายกว่า 2 ล้าน โดย กบ ไมโคร เปิดเผยว่าวันนี้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะมีประเด็นที่เป็นไวรัลอยู่ในกระแสอินเทอร์เน็ต ว่าตนเป็นผู้ร่วมขบวนการ หรือเป็นผู้เสียหายกันแน่

เมื่อถามว่าในวันที่มีการขึ้นเวที นายไกรภพ ระบุว่าคลิปที่หลุดออกมาตอนขึ้นเวทีตนเข้าร่วมประมาณถึง4-5 เดือน เป็นการขึ้นไปในหัวข้อ Rising Star วัน ยืนยันว่าไม่มีสคริปีมีกรอบเชียร์อัพ บอกให้คนอื่นรู้ว่าธุรกิจนี้เปลี่ยนชีวิตอย่างไร ส่วนสาเหตุที่ทำให้ร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ เพราะว่าเชื่อมั่น ในตัวเลขผลประกอบการของบริษัทที่มียอดขาย 4,000 กว่าล้านบาท ภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่ปี ซึ่งตนมาทำธุรกิจออนไลน์ ยืนยันว่าตอนนั้นที่ขึ้นเวทีไม่ได้รับค่าจ้างโดยในบริษัทเรียกสิ่งนี้ว่า “การแบ่งบัน” ส่วนกรณีที่มีภาพปรากฎว่าตนไปท่องเที่ยวทริปฝรั่งเศส นายไกรภพ ชี้แจงว่าเป็นทริปโปรโมชั่นสำหรับ 10 ดิวเลอร์ ซึ่งตนเอง เปิดไว้ 5 ดีลเลอร์ ภรรยา 2 ดีลเลอร์ และคนในบ้าน 3 ดีลเลอร์มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท

เมื่อถามว่าเปิด 10 ดิวเลอร์ได้กำไรบ้างหรือไม่นายไกรภพ ระบุว่า ช่วงแรกขายพอได้แต่ช่วงหลังนั้นขายไม่ได้ ขายได้เฉพาะกับคนที่รู้จัก สุดท้ายพอสินค้าใกล้หมดอายุก็เริ่มลดราคา จนถึงขั้นนำไปถวายพระหรือคนรู้จัก โดยยอมรับว่าตนเองเป็นแม่ทีม โดยอยู่ในบริษัทดังกล่าวประมาณหนึ่งปีนิดๆ ซึ่งตอนที่ตนทำธุรกิจไม่มีคำว่าแม่ทีมด้วยซ้ำรู้เพียงแค่ว่าเป็นธุรกิจแบบแฟรนไชส์ หลังมาร่วมธุรกิจนี้ก็ได้มีคนที่รักตนมาร่วมเปิดบิลทั้งหมด 8 ดีลเลอร์มีลักษณะการทำงาน “ไม่เถียง ไม่ถาม ทำตามอย่างเดียว” เมื่อมีดีลเลอร์สั่งคำสั่งออกมาเราก็ต้องทำตามที่เขาสั่ง

ส่วนสาเหตุที่ต้องออกจากธุรกิจนี้เป็น เพราะทั้ง 8 คนที่ตามมานั้นไม่สามารถขายของได้ทั้งที่ 8 คนพยายามทุกความสามารถ ในทุกช่องทางในการขายสินค้าแต่ก็ไม่สามารถที่จะขายได้จึงตัดสินใจที่จะออกจากธุรกิจนี้ช่วง กรกฎาคม-สิงหาคม 2566 และออกมาศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้อย่างจริงจัง จึงพบว่ามีความไม่ชอบมาพากล ย้ำหากรู้ว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หรือเครือข่ายก็บอกว่าไม่มีใครที่อยากจะทำธุรกิจแบบนี้

พร้อมยอมรับว่าบริษัทดิไอคอนมีปัญหามานานแล้วแต่ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูดเนื่องจาก คนที่พูดก็จะถูกฟ้องร้องกลับ เพราะตอนนี้มีคนที่ถูกฟ้องตอนนี้อยู่ในชั้นศาลจะมีความคืบหน้าในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ คนที่โดนฟ้องมีหลายคนก็รู้จักกันอยู่ และยังอยู่ในห้องผู้เสียหายด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่า เคยเจอบิ๊กบอสในบริษัทดิไอคอนหรือไม่ นายไกรภพ ระบุว่าบิ๊กบอสมีเพียงคนเดียวนั่นก็ คือบอสพอลแต่จะมีบอสรองลงมาอีก 10 คน และตนเพิ่งรู้ว่าเป็นธุรกิจแบบเครือข่าย เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นธุรกิจแบบออนไลน์เท่านั้นและในวันนี้ลูกทีมของตนจำนวน 8 คนได้มอบอำนาจให้ตนดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดิไอคอนและผู้บริหาร ซึ่งสำหรับผู้เสียหายจำนวนแปดคนก็ยังต้องการเงินคืนแต่ตนยืนยันว่าไม่ได้อยากได้เงินคืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กเต่า' ยันไม่มีตร.กองปราบรีดเงิน 9 ล้าน หลังสอบปากคำโค้ชแล็ป-บอสพอล

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ร่วมแถลงความคืบหน้าคดี ดิไอคอนกรุ๊ป โดยพล.ต.ต จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ถึงการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช เจ้าของเพจกฤ

'เพื่อไทย' ฟาดเดือด พปชร. ปูดชื่อย่อ 6 เทวดาดิไอคอน แค่ปัดความรับผิดชอบให้คนอื่น

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการแถลงข่าวของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพาดพิงถึงบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป

'กบ ไมโคร' เปิดใจผ่านโหนกระแส ปมดิไอคอน

กรณีมีคำสั่งจาก บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หนึ่งในผู้ต้องหาคดี ดิไอคอน สั่งตรงจากเรือนจำให้ทนายความจัดการเชือด 5 แม่ข่าย ที่ตีเนียนเป็นผู้เสียหาย ลั่นเราโดนคุณก็ต้องโดนด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ กบ ไมโคร ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจผ่านรายการโหนกระแส ชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

คกก.กลั่นกรองดีเอสไอ มีมติรับสำนวน 'ดิไอคอน' เป็นคดีพิเศษ หลักฐานชัดผิด 2 ข้อหา

ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. ร่วมกันให้สัมภาษณ์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ

คลัง ยกเครื่องกม.ฉ้อโกง อุดช่องโหว่ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เล็งเพิ่มโทษผู้กระทำผิด

‘จุลพันธ์’ เร่งยกเครื่องกฎหมายฉ้อโกง อุดช่องโหว่ธุรกิจแช่ลูกโซ่ ชงเอาผิดแม่ข่ายระดับกลาง-ล่าง เข็นเพิ่มโทษให้สะท้อนความเสียหาย พร้อมเปิดช่องคดีอายุความหยุดลงหากผู้ต้องหาหนีคดี ป้องคดีหมดอายุความ รับเล็งโยนยุติธรรมดูแลกฎหมายแทน ขีดเส้น 3 เดือนได้ข้อสรุป