16 ม.ค.2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ เป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำประมงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประชุมเร่งรัดคดี 5 เรือประมงปลอมแปลงสัญชาติผิดกฎ IUU พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ 9 และ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร และพนักงานสืบสวนสอบสวน ณ ห้องประชุม ภ.จว.สงขลา
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เรือที่อู่เรือศรีสงขลา หมู่ 2 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา หลังจากตรวจยึดไว้ 5 ลำ ที่มีพฤติการณ์การปลอมแปลงชื่อบริเวณหัวเรือ ปิดบังอำพรางชื่อและสัญชาติเรือ รายละเอียดในเอกสารไม่ตรงกับตัวเรือจริง ทั้งสัญชาติ ขนาดและเครื่องยนต์ และแจ้งการเข้าเทียบท่าช้ากว่ากำหนด โดยสามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดได้ 18 ราย ติดตามจับกุมได้ 16 ราย ในความผิดฐาน “ลักลอบนำเข้าเรือประมงเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร” ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ “ปลอมแปลงหรือปิดบังเครื่องหมายเรือประมงหรือทะเบียนเรือประมง” ซึ่งเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 ผู้ช่วย ผบ.ตร.สั่งการให้สืบสวนขยายผลดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจ
ความคืบหน้าล่าสุดหลังจากประชุมติดตามคดี ตำรวจสอบสวนพยานไปแล้วกว่า 18 ปาก ทั้งในส่วนของเจ้าพนักงานกรมเจ้าท่า เจ้าหน้าที่ศูนย์ปากคำด่านประมง เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสงขลา พนักงานของอู่เรือ มีการรวบรวมเอกสารที่พบว่าเรือทั้ง 5 ลำไม่ได้ขออนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรการของกรมการประมงแต่อย่างใด ตำรวจสามารถออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความได้เพิ่มอีก 4 ราย สามารถติดตามจับกุมได้อีก 3 ราย ทำให้คดีนี้มีผู้ต้องหา 22 ราย จับกุมได้แล้ว 19 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุมอีก 3 ราย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า “ตามนโยบาย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ ตนเป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำประมงไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้ได้เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี เรือประมง 5 ลำที่ปลอมแปลงสัญชาติ ที่ได้สั่งการให้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย
ขณะนี้มีการสอบสวนปากคำพยานผู้เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 18 ปาก สามารถออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความได้เพิ่มอีก 4 ราย ติดตามจับกุมได้อีก 3 ราย สรุปคดีนี้มีผู้ต้องหา 22 ราย จับกุมได้แล้ว 19 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุมอีก 3 ราย ซึ่งทุกรายทุกตัวละครที่เกี่ยวข้อง ตำรวจมีข้อมูลหมด และยังจะมีการขยายผลดำเนินการอีก หากพบว่าเกี่ยวข้องกับใครก็จะดำเนินคดีทันทียืนยันว่า ตนเข้ามาทำงานตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้ไทยปลอดการประมง IUU ทั้งระบบ ทุกคดีทุกหน้างานที่รับผิดชอบ ทำอย่างตรงไปตรงมา ทำตามพยานหลักฐาน ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร บางเรื่องอาจจะกระทบต่อบางบุคคลที่อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการประมงผิดกฎหมาย เลยอาจจะมองว่าเจ้าหน้าที่เข้มงวดเกินไป แต่ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ต่อส่วนรวม ฝากขอเตือนใครที่เคยทำเรื่องเหล่านี้ ขอให้หยุด กลับมาทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะไม่ยุ่งกับประมงที่ถูกกฎหมาย แต่จะจัดการกับส่วนที่ผิดกฎหมายซึ่งเชื่อว่าเป็นเพียงส่วนน้อย เป็นมาตรการแยกน้ำดีน้ำเสีย ขอให้เชื่อมั่นว่าพวกเราเข้ามาทำงาน ทำเพื่อผลประโยชน์ของส่วนร่วมตามนโยบายรัฐบาล”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลปกครองสูงสุด ออกแถลงการณ์ยกคำร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ปิดฉากคัมแบ็กตำรวจ
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ระหว่าง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ฟ้องคดี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ 1 คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ที่ 2
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ
ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย
ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม
อัยการคดีพิเศษ พิจารณายื่นศาล ขอริบทรัพย์ 'โจ๊ก' และพวก ตกเป็นของเเผ่นดิน
มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน ปปง.ได้ยื่นคำร้องขอให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นคำร้องต่อศาลขอยึดทรัพย์สิน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และพวกรวม 3