'บิ๊กต่าย' กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลทรัพย์สิน ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย

“บิ๊กต่าย” กำชับ ผบช.ทุกหน่วย เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ป้องกันเหตุอาชญากรรมซ้ำเติมประชาชน

15 กันยายน 2567 – พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ให้เพิ่มความถี่ในการออกตระเวนตรวจตราป้องกันปราบปราม เฝ้าระวังการก่อเหตุลักทรัพย์ซ้ำเติมพี่น้องประชาชน หากจับกุมได้ให้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินการไปยังผู้ร่วมขบวนการทุกราย ดำเนินการให้เด็ดขาดและถึงที่สุดทุกมิตินั้น

ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้มีวิทยุสั่งการด่วนที่สุดถึงผู้บัญชาการหน่วยงานต่างๆ กรณีกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ว่า ในช่วงวันที่ 13–17 กันยายน 2567 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสม ซี่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ประกอบกับอิทธิพลของพายุยางิ และมีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย บริเวณพื้นที่จังหวัดเชียงรายนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรม การโจรกรรมทรัพย์สินและประทุษร้ายต่อทรัพย์ อันเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้

  1. เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุอาชญากรรมในลักษณะเป็นการซ้ำเติมประชาชน เพิ่มกำลังสายตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ และชุดช่วยเหลือประชาชนออกปฏิบัติการในพื้นที่ประสบอุทกภัย
  2. ปรับแผนการตรวจ การจัดและควบคุมสายตรวจทุกประเภทให้เหมาะสมกับพื้นที่และห้วงเวลา โดยประสานความร่วมมือทั้งด้านข้อมูลและการปฏิบัติกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และอาสาสมัคร บูรณาการร่วมกันออกตรวจ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสในการลักทรัพย์สิน หรือประทุษร้ายต่อทรัพย์ในพื้นที่ชุมชนเมือง หรือพื้นที่ที่ไม่ได้ประสบปัญหาอุทกภัย ซึ่งอาจมีผู้คนอพยพเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก อันอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไปก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงและจุดล่อแหลม โดยการเพิ่มความเข้มและความถี่ ในการออกตรวจเป็นพิเศษ
  3. ตั้งจุดตรวจบุคคล ยานพาหนะในเส้นทางล่อแหลม หรือเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี โดยมุ่งเน้นการตรวจสอบอาวุธ วัตถุต้องสงสัย และยาเสพติด
  4. จัดทำแผนเผชิญเหตุคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ธนาคาร ร้านทอง ตู้บริการเงินสด (ATM) ตู้เติมเงิน ย่านธุรกิจการค้า โดยกำหนดจุดตรวจ/จุดสกัดเคลื่อนที่ จุดก้าวสกัดจับที่ชัดเจน มีการทบทวน และซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
  5. ให้หัวหน้าหน่วยกำกับดูแลการปฏิบัติด้วยตนเอง ทั้งด้านการช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว การดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุ และการปฏิบัติตามข้อสั่งการอย่างใกล้ชิด รวมถึงพิจารณาเปิดพื้นที่สถานีตำรวจ จุดตรวจ ตู้ยาม เป็นสถานที่พักพิงของผู้ประสบภัยชั่วคราว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ดูแลรักษาความปลอดภัย และเป็นการป้องกันภัยที่เกิดจากการก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ได้
  6. ให้หน่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสในการก่ออาชญากรรม เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการโจรกรรมทรัพย์สินและประทุษร้ายต่อทรัพย์ในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งแนะนำช่องทางการแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแสอาชญากรรมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ทางสายด่วน 191 หรือ 1599 หรือช่องทางการสื่่อสารกับสถานีตำรวจในพื้นที่โดยตรง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์ภัยพิบัติ ประกาศแจ้งเตือนของหน่วยราชการที่เกี่ยวกับอุทกภัยในพื้นที่
  7. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดอย่างใกล้ชิด โดยกำหนดผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน กรณีที่มีการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ หรือเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ให้ ศปก. ของหน่วย รายงานให้ ศปก.ตร. เพื่อรายงาน ผบ.ตร. , รอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบทราบ
    ทั้งนี้ วันนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ จะเดินทางลงพื้นที่ประสบอุทกภัยใน จ.เชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชน และกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรมซ้ำเติมพี่น้องประชาชน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พายุ 'ยางิ' สลายตัวแล้ว! เช็กอากาศ 10 วันล่วงหน้า

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 9 -18 ก.ย. 67

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับสุดท้าย 'พายุยางิ' อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ

ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “ยางิ” ฉบับที่ 22 โดยมีใจความว่า

อุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง 34 จังหวัด ทะเลคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคเหนือมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่

สมาคมประมงสงขลา เตือนเรือประมง ระมัดระวังคลื่นลมแรง

สมาคมประมงสงขลา เตือนเรือประมงจังหวัดสงขลาที่ออกไปทำการประมงในบริเวณอ่าวไทย ขอให้ทำการประมงอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนเรื่องคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทยตอนบน หากเป็นไปได้อยากให้อย่าออกไปไกลฝั่งมากนัก พยายามหาที่ทำการประมงที่สามารถเข้าใกล้ฝั่งหรือเข้าใกล้เกาะที่สามารถนำเรือหลบคลื่นลมได้ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วถ้ามีเหตุการณ์ฉุกเฉิน