พ่อค้ากุ้งมือยิง 2 ศพ สารภาพนับหนึ่งถึงพันก่อนลั่นไก

10 ม.ค. 2565 – ที่ สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 10.10 น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) , พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 , ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8, ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต , ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต แถลงข่าวคดียิงพ่อค้ากุ้งตลาดเกษตร และรับมอบช่อดอกไม้จากญาติผู้เสียชีวิตและญาติผู้บาดเจ็บที่มอบให้ในการจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว

พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า คดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ม.ค.65 เวลาประมาณ 10.00น. ที่แผงขายกุ้ง ตลาดสดสาธารณะ 2 (ตลาดเกษตร) ถนนอ๋องซิมผ่าย ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหา นายมณีนพ หมีทอง อายุ49 ปี พ่อค้าขายกุ้ง และกลุ่มผู้เสียชีวิต นายศรายุธ ถิ่นสถาน อายุ57 ปี นางต้อย ลิมปนานุรักษ์ อายุ 53ปี และผู้บาดเจ็บ 3 ราย นายเกรียงไก่ ลิมปนานุรักษ์ (บาดเจ็บสาหัส) นางอาพร ถิ่นสถาน (บาดเจ็บสาหัส) นายพรชัย ลิมปนานุรักษ์ (บาดเจ็บ)

ทั้งหมดนี้มีอาชีพค้าขายกุ้งสดมีแผงขายกุ้งอยู่ติดกันมาหลายปี มักมีปัญหากระทบกระทั่งกันเรื่องการตั้งราคาสินค้าตัดราคากัน การแย่งลูกค้าตัดหน้ากันเป็นประจำ ทำให้เกิดความบาดหมางโกรธเคืองกันบ่อยครั้ง ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกันระหว่างภรรยาผู้ต้องหากับกลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ผู้ต้องหาเกิดอารมณ์โกรธแค้น จึงออกจากตลาดเกษตรกลับไปที่บ้านพักเตรียมอาวุธปืนพกแบบลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก พร้อมขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน กอ 1631ภูเก็ต มายังที่เกิดเหตุ เดินลงจากรถเข้ามายังจุดเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทันที 5-6 นัด จากนั้นเดินกลับไปขึ้นรถยนต์ขับหลบหนีไป นำรถยนต์ไปจอดทิ้งไว้บริเวณบ้านแหลมหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ขึ้นเรือโดยสารไปยังแพขายอาหารบังหมุด และว่าจ้างเรือโดยสารเดินทางต่อไปที่ท่าเรือหาดคลองม่วง จังหวัดกระบี่ เดินทางไปขึ้นรถยนต์โดยสารที่ บขส.กระบี่ เดินทางรถยนต์ตู้ไปอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.65 ที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายและผู้บาดเจ็บจริง และโยนอาวุธปืนทิ้งในทะเลระหว่างหลบหนี ตัองขอบคุณตำรวจภาค 9 สืบสวนภาค 8 และตำรวจสืบสวนจังหวัดสงขลาเข้ามาช่วยติดตามจับกุม

โดยตั้งข้อหา ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนในที่สาธารณะ

“ในวันนี้ ได้สอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า เขาเจ็บใจอัดอั้นมานานและวันเกิดเหตุทนไม่ไหว เขานับหนึ่งถึงพัน ผมบอกให้นับหนึ่งถึงล้านด้วย ไม่ควรแก้ปัญหาแบบนี้ ก็ยอมรับสารภาพ ทุกอย่างว่า เกิดจากโมโห อาวุธปืนลูกโม่เอาไปทิ้งทะเล หลังจากที่ไปที่แพขายอาหารทิ้งระหว่างทางประมาณกิโลนึง เป็นอาวุธที่ไม่มีทะเบียน ได้มาจากลูกน้องที่เสียชีวิตแล้วเอามาฝากไว้ ขอฝากทางญาติไม่ต้องเป็นห่วง อยากกราบเรียนว่า เราเป็นตำรวจทำตามกฎหมาย หลักฐานทุกอย่าง พร้อมของกลางที่ยึดมาในคดีนี้ แม้แต่ปืนก็ให้ไปดำดูว่าจะได้หรือไม่ ไม่ต้องกลัว เราไม่เข้าข้าง” ผบช.ภ. 8 ระบุ

ส่วนข้อหาจะดูตามพฤติการณ์ทั้งหมด ปัญหาที่เขามีกันทางฝ่ายนี้อ้างว่า ขายแผงติดกันมีปัญหาทะเลาะกัน เรื่องราคา เป็นการให้ปากคำของผู้ต้องหา เราสอบตามพยานหลักฐาน ทางฝ่ายญาติของคนเสียชีวิตและพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งกล้องวงจรปิดเห็นชัดเจน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ต้องกราบแสดงความเสียใจกับทางญาติๆ ที่ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ เราทำหน้าที่ติดตามจับกุมมาดำเนินคดี และคัดค้านการประกันตัวเต็มที่

ทั้งนี้ ขอบคุณประชาชนที่ช่วยแจ้งเบาะแส คดีนี้เป็นที่สะเทือนขวัญ ที่ไม่น่าทำ ต่อให้ทะเลาะกันอย่างไร การใช้อาวุธไม่ใช่เป็นเครื่องตัดสินและไม่ได้ยุติแค่นี้ ต้องติดคุก ต้องฝากเตือนประชาชน อย่าใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา ให้ใจเย็นๆ กันไว้ คนไทยด้วยกันมีอะไรค่อยพูดค่อยจา ซึ่งในภาค 8 มีเหตุทะเลาะกันตัดสินโดยใช้อาวุธปืน อาวุธมีด ส่วนใหญ่ใช้อารมณ์และอาวุธตัดสิน อีกอย่างเมาสุราในกลุ่มเพื่อนฝูง พูดจาไม่ถูกกันเอาปืนมายิงแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด ตัดสินปัญหา อย่าทำเลย เพราะหนีกฎหมายไปไม่พ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ลงภูเก็ต ติดตามก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด และปัญหาดินสไลด์ จากเหตุการณ์น้ำท่วม

เรือประมงอับปาง! ห่างสะพานสารสิน 9 ไมล์ทะเล

นาวาเอกพิเชษฐ์ซองตัน โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต

นายกฯอารมณ์ดี บอกลงภูเก็ตพรุ่งนี้ ดูปัญหาน้ำท่วม ดินสไลด์ สนามบิน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา โดยนายกฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า วันที่ 5 ก.ค. จะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดภูเก็ต ไปตรวจดูเรื่องของดินสไลด์ ถนน และสนามบิน

ผู้เชี่ยวชาญ เตือนสถานการณ์เลวร้ายที่สุด อาจเกิดขึ้นเสมอจากสภาพอากาศรุนแรง

ารเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนมากขึ้น โดยที่องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีขีดจำกัดในการคาดการณ์