1 ก.ค.2567 - ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.)พร้อมพนักงานสอบสวนคดีเรือน้ำมันเถื่อนประชุมคืบหน้าหลังพบเสี่ยโจ้โผล่ปอตเปต
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมเสร็จ ได้ข้อสรุปว่าจะมีการตั้งวินัยร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ในส่วนของการดำเนินการเรื่องมาตรา 157 มติที่ประชุมมีการแจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจะมาดำเนินคดีแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 นาย เป็นชั้นประทวนที่เฝ้าเรือ ส่วนสารวัตรที่มีส่วนเอี่ยวในก่อนหน้านี้ตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่ายังไม่เข้าข่าย เนื่องจากมีหน้าที่ในการสั่งเจ้าหน้าตำรวจทั้ง 2 นายในการเฝ้าเรือ
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายที่เข้าข่ายมาตรา 157 เพราะว่าบกพร่องในหน้าที่ ไม่เข้าเวรยาม หลังจากการดำเนินคดีแล้วทางเจ้าหน้าที่จะมีการไปฟ้องละเมิด ซึ่งในวันนี้เรามีการสรุปคือ ได้นำ โทรศัพท์ทั้งหมด 9 เครื่อง มาดูข้อมูลในโทรศัพท์ทั้งหมด เหลืออยู่ 1 เครื่องที่ไม่สามารถดูได้เนื่องจากว่าไฟล์มันใหญ่เกินไป โดยโทรศัพท์ทั้ง 9 เครื่องนี้มีของทางผู้กำกับและสารวัตร รวมไปถึงของเวรยามที่เฝ้าเรือทั้งก่อนเข้าเวรและหลังเข้าเวร หากสามารถดูไฟล์ในโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวได้แล้ว และพบความเชื่อมโยงในคดีก็จะมีการดำเนินคดีตามกฏหมาย มาตรา 157
เมื่อถามว่าการตรวจโทรศัพท์ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ตรวจเรื่องของหลักฐาน แต่เป็นตรวจเรื่องของการดูบัญชีเงินเข้าออกด้วยหรือไม่ โดยพล.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ทางตำรวจต้องตรวจสอบทุกมิติอยู่แล้ว ว่ามีความเกี่ยวข้องกับทางคดีอย่างไรบ้าง ซึ่งตอนนี้ทางเรากำลังตรวจว่าสิ่งที่เรือหายไปเกี่ยวโยงกับเรื่องของการมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดหรือไม่หรือมีความช่วยเหลืออย่างไรหรือไม่ เราต้องมองว่าในมาตรา 157 ต้องมีเจตนาพิเศษ ซึ่งการที่เราดำเนินการตามข้อมูลที่เรามีถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการในมาตรา 157 พร้อมกับวินัยร้ายแรงด้วย
เมื่อถามว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเห็นใจกับทางเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ตนมีความเห็นใจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดอายุยังน้อย แต่อย่างไรก็ตามเราถือกฎหมายเหมือนกันหากกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ในวันนี้ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปราม ว่าการรายงานการสืบสวนความเชื่อมโยงของคดีทั้งหมดมีอยู่ 2 ส่วน ในส่วนของการรายงานที่จะสอดคล้องในการจับกุมผู้ต้องหาคดีเรือน้ำมันเถื่อนว่ามีใครเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และสอดคล้องเกี่ยวกับคดีเรือน้ำมันเถื่อนหายหรือไม่ อีกทั้งรายงานการสืบสวนทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ส่งไปให้ทางอัยการ และ ปอศ. เพื่อที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับ และในส่วนของเรือหายทางกองปราบก็จะขออนุมัติออกหมายจับในอาทิตย์นี้เช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ต้องหาคดีน้ำมันเถื่อน และผู้ต้องหาเรือน้ำมันเถื่อนหายเป็นผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน แต่จะครบทั้งหมดหรือไม่ตนไม่รู้ เท่าที่รู้ประมาณ 4-5 คน พร้อมยืนยันว่าเสี่ยโจ้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการทั้งหมด
ส่วนประเด็นที่มีแชทหลุดของผู้กำกับ น. นั้น พล.ต.ต จรูญเกียรติ ระบุว่า ผู้กำกับน. ให้การว่าเป็นแชทของตนเอง แต่ในเรื่องของการรับผลประโยชน์ผู้กำกับน.ให้การปฏิเสธ และยืนยันว่ามีการพูดคุยกับกลุ่มผู้ต้องหาจริง ซึ่งทางเราได้มีการติดต่อไปที่หนุ่มเพชรบุรี แต่ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด อีกทั้งจะไปสอบปากคำที่เพชรบุรีเลย หากสอบแล้วมีการยืนยันว่าได้รับผลประโยชกันจริงทางผู้กำกับ น.ก็ไม่รอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กเต่า' เผยเรียก 'เอก สายไหมต้องรอด' สอบปากคำวันนี้ ปมปั้นพยานเท็จดิไอคอน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคลิปเสียงตบทรัพย์ผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน ว่า ได้รับการประสานมาจากนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล“ และ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า วันนี้จะไปพบ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ “บอสปัน”
'บิ๊กเต่า' ขอเวลา 10 วัน สรุปชัดเจนคดี 'ฟิล์ม-เจ๊พัช' นาย ส. ใช้บัญชีแม่โอนเงินกว่า 10 ล้าน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุม 6 เรื่อง ประกอบด้วยเรื่องของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ 4 เรื่อง มีในเรื่องของการเรียกรับ 300,000 กับ 450,000 บาท
'บิ๊กเต่า' เผยใกล้สรุปคดี 'เจ๊พัช' กรรโชกทรัพย์บอสพอลภายในสัปดาห์นี้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป. และ เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-
'บิ๊กเต่า' ชี้อีกไม่กี่วันรู้ใครเป็นโจร เตรียมเรียก 'กรรชัย' ให้ปากคำหลังแฉคลิปเสียงตบทรัพย์
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีคลิปเสียง นักร้องเรียน ก. กับ ศิลปินนักร้องชื่อดัง ฟิล์ม รัฐภูมิ ที่มีการพูดคุยกันในเชิงเรียกรับเงินจากผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน เพื่อพาออกรายการข่าวดัง ว่า
'บิ๊กเต่า' ยันไม่มีตร.กองปราบรีดเงิน 9 ล้าน หลังสอบปากคำโค้ชแล็ป-บอสพอล
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ร่วมแถลงความคืบหน้าคดี ดิไอคอนกรุ๊ป โดยพล.ต.ต จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ถึงการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช เจ้าของเพจกฤ
'บิ๊กเต่า' ยันสัปดาห์หน้าชัดเจน คดีคลิปเสียงเทวดาเรียกรับเงินดิไอคอน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคลิปเสียงบุคคลเรียกรับเงินจากดิไอคอนกรุ๊ปว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว