รองอธ.อัยการ ‘วัชรินทร์’ อัยการร่วมสอบจับเรือค้าน้ำมันเถื่อน ชี้ประเด็นจุดจับกุม เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญคดี ต้นเดือนก.ค.นั่ง ฮ.ลุยพื้นที่จริง ยังไม่มีชื่อ ‘เสี่ยจ.’ในสำนวน
18 มิ.ย. 2567 - จากกรณีวานนี้ (18 มิ.ย.) มีการประชุมคดีการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนและเกิดเรือของกลางหาย เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งอัยการจะมีอำนาจทำหน้าที่แนะนำหรือออกสั่งการได้ โดยจะมีการกำหนดทิศทางการสอบสวนจะอยู่ที่พยานหลักฐานเป็นสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นจุดเกิดเหตุที่เป็นปัญหา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน อัยการร่วมสอบสวนในคดีนี้ซึ่งเป็นคดีนอกราชอาณาจักรที่ อสส.เเต่งตั้ง เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนที่ นายอำนาจ เจตเจริญรักษ์ อัยการสูงสุด แต่งตั้ง โดยมีตนและก็อัยการอีกคนนึง เข้าร่วมสอบสวนด้วย และได้ข้อสรุปว่า จุดของการจับกุมเป็นจุดสําคัญ เพื่อต้องทําข้อเท็จจริงให้ปรากฏชัด คือ มีการกระทําความผิดหรือไม่ และสองใครเป็นผู้กระทําความผิด ในประเด็นที่สองตนไม่กังวล เพราะมีคนที่อยู่ในเรือ 28 คน เราได้จัดทําการสืบสวนขยายผลว่าใครสั่งการ ใครเป็นเจ้าของเรือ เรื่องนี้ไม่ยาก
"แต่ประเด็นที่หนึ่ง ตำแหน่งที่ถูกจับกุม เราไม่แน่ชัดว่าจุดที่จับเป็นบริเวณใด เพราะในสํานวนการสอบสวนระบุว่า แถวปิโตรเลียมจัสมิน ตรงนี้คาบเกี่ยวระหว่างทะเลไทยกับน่านน้ำสากล เรามีอํานาจในการดําเนินการในทะเลอาณาเขตอยู่ในระยะ 12 ไมล์ทะเล ดังนั้นต้องหาความชัดเจนตรงนี้ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวเป็นข้อต่อสู้ว่า เขาไม่ได้เข้ามาในเขตน่านน้ำไทย เพราะข้อหาที่ฝ่ายจับกุมตั้งมา เป็นข้อหา พยายามทําผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรในการนําน้ำมันเข้าโดยไม่ผ่านศุลกากร หรือตามพ.ร.บ.สรรพสามิต การตั้งข้อหาพยายามกระทําความผิด หมายความว่าต้องมีการลงมือแล้วและทําไม่สําเร็จ เพราะฉะนั้นหลักฐานข้อเท็จจริงต้องปรากฏว่าผู้กระทำผิดกําลังจะเอาน้ำมันเข้ามาขายในไทยแล้วก็โดนจับได้ก่อน"
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะสอบสวนกรมสนธิสัญญาและกฎหมายของกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นผู้ชี้ให้รู้ว่าจุดดังกล่าว อยู่ในเขตไหน อย่างไร รวมถึงไปสอบสวนกับกรมศุลกากรในฝ่ายกฎหมายอย่างละเอียดและพยานแวดล้อมต่างๆ จากนั้นในต้นเดือนหน้า หลังจากที่ตนได้ข้อมูลเรื่องเขตน่านน้ำไทยจากกระทรวงต่างประเทศแล้ว ตนจะประสานกับทางตำรวจหรือกองทัพเรือนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปดูทะเลจุดจับกุมด้วยตนเอง เพื่อพิสูจน์การทำผิดของผู้ต้องหา
“แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าคนจับกุมกับคนสอบสวนอยู่คนละชุดกัน ฝ่ายจับอาจจะรู้ข้อมูลชัดเจน แต่คนสอบสวนเราไม่ได้ไปจับเราด้วย ไม่รู้เลยว่าจุดที่จับอยู่ตรงไหนแน่ เรากลัวเป็นข้อต่อสู้ในภายหลัง ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ถือว่าเป็นจุดตายของคดีเลย แล้วสํานวนนี้ต้องนําเสนอท่านอัยการสูงสุด เป็นคนสั่งคดีเนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เพราะฉะนั้นเราต้องสอบและทำสำนวนโดยละเอียด ถ้าเกิดเสนอสํานวนขึ้นไป ทางท่านอัยการสูงสุดต้องตั้งคำถาม เรื่องจุดจับกุม หรืออำนาจจับกุม อย่างอาจจะอยู่นอกน่านน้ำไทยก็จริง แต่เป็นเขตที่สามารถจับกุมได้โดยศุลกากร ประเด็นจุดจับกุมจึงสำคัญมาก หากนอกเขตที่เรามีอํานาจจับกุม จะกลายเป็นว่าไม่มีความผิด” นายวัชรินทร์ กล่าว
นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า ระหว่างนี้ทางทีมสอบสวนก็ไม่ได้ทิ้งประเด็นที่สอง เรื่องที่ว่าใครเป็นผู้ร่วมกระทําผิด กับผู้ต้องหาทั้ง 28 คนนี้ เรามีอีกชุดสอบสวนที่จะต้องไปหา ผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างเจ้าของเรือ คนสั่งการ เพราะข่าวลือว่าอักษรย่อ จ.คนนั้น คนนี้ มีแต่นอกสำนวนทั้งหมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออกหมายจับ 'เสี่ยโจ้' พร้อมพวกบงการขโมยเรือน้ำมันเถื่อน 3 แสนลิตร
ที่กองบัญชาการตำรวจ สอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการป
รองอธิบดีอัยการฯ-ตำรวจ บินสำรวจจุดจับเรือน้ำมันเถื่อน 5 ลำ พิสูจน์ลอบนำเข้าไทย
นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผกก.2 บก.ปอศ.)
'พล.ต.อ.ไกรบุญ' ลั่นไม่กลัวเจอตอ ใครเอี่ยวน้ำมันเถื่อน ลากออกมาทั้งหมด
พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลัง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)
เด้งเข้ากรุ 'ผู้การตำรวจน้ำ' เซ่นเรือน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นการชั่วคราว โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบช.ก. มอบหมาย
'บิ๊กเต่า' ชี้คดีเรือน้ำมันเถื่อน เหมือนกรณีกำนันนก จนท.ละเว้นหน้าที่ทำให้เสียหาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. และ คณะเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีเรือน้ำมันเถื่อน ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดี โดยใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
'ไกรบุญ' สั่งปลด 'ตร.ชุดน้ำมันเถื่อน' เซ่นแซตฉาว ขอเชื่อมือ 'บิ๊กเต่า'
'พล.ต.อ.ไกรบุญ' การันตีไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์น้ำมันเถื่อน ยอมรับสั่งปลดตำรวจเซ่นแชตฉาวจริง เชื่อมือ 'บิ๊กเต่า' สอบสวนสุจริตเป็นธรรม