'ตร.ไซเบอร์' รวบหัวโจกแก๊งหลอกขาย 'ควายงาม' ซื้อยาบ้าแจกบัญชีม้าเสพให้อยู่ในการควบคุม

7 มิ.ย.2567- พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมนายวัลลภ หรือ นัด อายุ 32 ปี ,นายวทัญญู อายุ 34 ปี ชาวอุดรธานี เป็นผู้เปิดหมายเลขโทรศัพท์ให้นายนัดใช้ในการกระทำผิด (ซิมผี), น.ส.รุ่งฟ้า อายุ 31 ปี ชาวอุดรธานี

ในการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นเกษตรกรถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ โดยคนร้ายได้เปิดเพจปลอมใช้บัญชีชื่อ “เทพ’ ควายงาม ควายยักษ์” แล้วแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มซื้อขายควาย จากนั้นได้ติดต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเพื่อทำการหลอกลวง เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายกรณีดังกล่าวจากหลายท้องที่ และเข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว 17 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 แสนบาท

สำหรับวิธีที่คนร้ายใช้คือ คนร้ายแฝงตัวอยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กเพื่อสังเกตพฤติกรรมการซื้อขายควายงาม พร้อมทั้งแสดงตนเป็นผู้เชี่ยวชาญว่ามีความรู้เกี่ยวกับตลาดควาย หากมีผู้โพสต์สนใจซื้อควายงาม คนร้ายจะติดต่อหาผู้ขายเพื่อขอข้อมูล แล้วดาวน์โหลดภาพถ่ายหรือวิดีโอจากผู้ที่เสนอขายควายตัวจริง จากนั้นนำข้อมูลที่ได้ไปติดต่อกับเหยื่อที่ได้โพสต์แสดงความต้องการซื้อควายงาม โดยเสนอขายควายที่มี่ลักษณะตรงกับความสนใจของเหยื่อในราคาถูกกว่าที่มีการโพสต์ในกลุ่ม หากเหยื่อสนใจ คนร้ายจะให้โอนเงินมัดจำควายตัวละ 2,000 – 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับราคาควายตัวที่ตกลงกัน หากเหยื่อต้องการรถขนส่งควาย คนร้ายก็จะติดต่อหาผู้ขายตัวจริงให้จัดหารถขนส่งอีกด้วย ทำให้ผู้เสียหายมีทั้งผู้ซื้อ ผู้ขนส่ง และผู้ขาย

กลุ่มมิจฉาชีพได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มเกษตรกรโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานเป็นจำนวนมาก โดย พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัยผบก.สอท.3 ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้หลายราย และนำไปสู่การจับกุม นายวัลลภ หรือ นัด อายุ 32 ปี ชาวสมุทรปราการ เป็นเจ้าของเพจดังกล่าวและเป็นผู้รับผลประโยชน์จากการหลอกลวง โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ขณะกำลังนั่งเสพยาบ้าอยู่ในที่พัก พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 120 เม็ด เบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับในหลายท้องที่รวมทั้งสิ้น จำนวน 7 หมายจับ , นายวทัญญู อายุ 34 ปี ชาวอุดรธานี เป็นผู้เปิดหมายเลขโทรศัพท์ให้นายนัดใช้ในการกระทำผิด (ซิมผี) น.ส.รุ่งฟ้า อายุ 31 ปี ชาวอุดรธานี เจ้าของบัญชีม้าใกล้ชิดนายนัด

จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า นายนัด เคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงมาแล้วหลายครั้ง และพบว่าผู้ต้องหามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มยาเสพติดในจังหวัดอุดรธานี และยังพบข้อมูลอีกว่า นายนัดได้นำเงินที่ได้จากการหลอกลวง ไปซื้อยาเสพติดแล้วนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้เปิดบัญชีม้าเสพ เพื่อสามารถควบคุมบัญชีม้าให้กดเงินที่ได้จากการหลอกลวงมาให้ตน ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นวิธีการจัดหาบัญชีม้าอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถควบคุมบัญชีม้าได้อย่างเบ็ดเสร็จ ในส่วนผู้ต้องหาร่วมขบวนการรายอื่น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนจับกุมต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วิสามัญ 3 ศพ! กองกำลังผาเมือง ปะทะเดือดแก๊งขนยาบ้าชายแดนเชียงใหม่

กองกำลังผาเมือง โดยกองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 แจ้งว่า คืนที่ผ่านมาหน่วยได้จัดกำลังพลออกไปลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่รับผิดชอบ หลังได้รับรายงานว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศ

ตชด.ภาค 2 สกัดยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 3 ล้านเม็ด มูลค่า 100 ล้านบาท

ตชด.ภาค 2 สกัดยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 3 ล้านเม็ด รวบ 2 ผู้ต้องหาขณะลำเลียงจากบึงกาฬ มุ่งหน้าสระบุรี มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท พบเป็นยาบ้า 999 ที่ส่วนใหญ่ระบาดเฉพาะภาคเหนือ

จำคุกอ่วม 3 บัญชีม้า พัวพันคดีเว็บพนันมินนี่ แฟนเก่า-พวกรอด

ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 3 จำเลยบัญชีม้า พัวพันเครือข่ายเว็บพนัน “มินนี่” และอดีตนายตำรวจคนสนิทอดีตบิ๊ก ตร. คนละ 2 ปี 3 เดือน 20 วัน ขณะที่แฟนเก่ามินนี่กับพวกอีก 4 ราย ศาลยกฟ้อง เหตุพยานหลักฐานไม่พอ ให้ประโยชน์แห่งความสงสัยถ้

ปปง.ล้มยักษ์สแกมเมอร์ ยึดทรัพย์ ’เฉิน จื้อ-ก๊ก อาน-เบน สมิธ‘ หมื่นล้าน

คณะกรรมการธุรกรรมมีมติยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่า 10,165 ล้านบาท จาก 4 คดีใหญ่ของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ พบเส้นทางเงินโยงกัมพูชา ใช้บัญชีม้า-คริปโตฟอกเงิน ซ่อนทรัพย์ผ่านบริษัทและบุคคลใกล้ชิดเป็นทอด ๆ

ศาลฟันหนัก! ขัง 11 คน เปิดบัญชีม้า ปั่นเหยื่อโอน 21 ล้าน โดนยาว 14-18 ปี

ศาลลงดาบจำเลยทั้ง 11 ราย คดีบัญชีม้าให้แก๊งหลอกโทรปั่นเหยื่ออ้างเป็นดีเอสไอ มองเป็นขบวนการทำร้ายสังคม-เศรษฐกิจ ย้ำต้องลงโทษแรงเพราะพฤติการณ์ร้ายแรง ไม่สนคำรับสารภาพ สั่งจำคุกตั้งแต่ 14 ถึง 18 ปี พร้อมให้คืนเงินผู้เสียหายกว่า 21 ล้านบาท