'วิรุตม์' สอนมวยกฤษฎีกา ชี้ 'โจ๊ก' ถูกให้ออกจากราชการ ตาม ม.131 ไม่เกี่ยว ม.120

29 พ.ค.2567- ภายหลังมีการเผยแพร่ บันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งลงนามโดยนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หลังจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีหนังสือขอหารือว่า นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง และมาตรา 179 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบกับข้อ 11 แห่งกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนฯ โดยนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้ข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ และจะต้องดำเนินการเมื่อใด

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม(สป.ยธ.) กล่าวว่า กรณีการตอบและตั้งข้อสังเกตตามหนังสือหารือของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า ถ้า ผบ.ตร.สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อนโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยที่ตั้งขึ้น ย่อมจะทำให้การสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมนั้น เป็นข้อสังเกตที่ไม่ได้ถาม ไม่ถูกต้อง ไม่อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและสร้างปัญหาในการปฏิบัติราชการ

เนื่องจากการที่ รรท.ผบ.ตร. (พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ) สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ กับพวกตำรวจรวม 5 คน ออกจากราชการไว้ก่อนดังกล่าว ก็ด้วยเหตุว่าตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาร้ายแรง จึงเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชาคือ ผบ.ตร. สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 131 และควรทำกับตำรวจทุกคนทุกระดับที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาอยู่ระหว่างต่อสู้คดีหรือรอผลคดีถึงที่สุด ซึ่งทั้งการสอบสวน การสั่งคดีของอัยการและการพิจารณาของศาลทั้งสามศาลต้องใช้เวลานานรวมไม่ต่ำกว่าห้าปี

ทั้งนี้ ก็เพื่อมิให้บุคคลดังกล่าวมีสถานะเป็นตำรวจต่อไปหลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาร้ายแรง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือเชื่อมั่นของประชาชน รวมทั้งอาจนำตำแหน่งหน้าที่ไปใช้สร้างความเสียหายต่อทางราชการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ จึงไม่จำเป็นต้องผลการสอบสวนทางวินัยอีกตามมาตรา 120 แต่อย่างใด เพราะนั่นเป็นกรณีที่ตำรวจทำผิดวินัยร้ายแรงโดยไม่เป็นความผิดอาญา เช่น ท้าตีท้าต่อยผู้บังคับบัญชา หรือประมาททำให้ทรัพย์สินราชการเสียหายร้ายแรง ฯลฯ

พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ผู้บังคับบัญชามีอำนาจสั่งให้ออกจากราชการหรือพักราชการได้ไม่ต้องรอผลการสอบสวนทางวินัย ก็เพราะเมื่อตำรวจกระทำความผิดอาญาจนตกเป็นผู้ต้องหาไม่ว่าจะเป็นการการจับการกระทำผิดซึ่งหน้า ถูกออกหมายเรียกไปแจ้งข้อหา หรือศาลออกหมายจับ ย่อมถือว่ามีพยานหลักฐานจากการสอบสวนน่าเชื่อว่ากระทำความผิดระดับหนึ่งแล้ว มีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่าการสอบสวนทางวินัยด้วยซ้ำ

"การตั้งข้อสังเกตว่าควรรอฟังความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนก่อนตามมาตรา 120 นั้น เป็นเรื่องในหมวด 7 “การดำเนินการทางวินัย” คือถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยร้ายแรงอย่างเดียว โดยยังไม่มีหลักฐานจากทางใดว่ากระทำผิดจริงหรือไม่ จึงจำเป็นต้องรอฟังความเห็นคณะกรรมการสอบสวนก่อน ต่างจากการตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาที่ผ่านการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาพอสมควรแล้วจนกระทั่งถูกแจ้งข้อหาหรือศาลออกหมายจับ" พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลปกครองสูงสุด ออกแถลงการณ์ยกคำร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ปิดฉากคัมแบ็กตำรวจ

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ระหว่าง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ฟ้องคดี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ 1 คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ที่ 2

๙๑ ปี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “พัฒนากฎหมายที่ดี เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน”

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา “พระราชบัญญัติเคาน์ซิลออฟสเตด คือ ที่ปฤกษาราชการแผ่นดิน” ขึ้น เพื่อเป็นองค์กรถวายคำปรึกษาแก่พระองค์ในการบริหารราชการแผ่นดิน

'วิรุตม์' ชี้ '7ตำรวจตีนโหด' ถ้า ผบช.น.-ผบ.ตร.ไม่สั่งแจ้งข้อหา 'กฎหมายอุ้มหาย' ผิดอาญาด้วย

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า กรณี 7 ตำรวจนครบาล รุมกระทืบประชาชนผู้ถูกจับและควบคุมตัวปางตาย ไม่ใช่แค่ผิดวินัยหรืออาญาข้อหาทำร้ายตามกฎหมายอาญา

“สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา Better Regulation for Better Life : โอกาสและความท้าทายในยุคเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)”

การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

ให้ออกจากราชการ! ฟัน 9 ตำรวจนอกรีต อุ้มรีดเงินชาวจีน 300 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 538/ 2567เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อนด้วยข้าราชการตำรวจดังต่อไป