“รรท.ผบ.ตร.” ยันผลงานตำรวจไซเบอร์มีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้าย ย้ำต้องขยายผลลงลึกถึงการเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหาย ไม่ได้กำหนดเวลาแต่ต้องจริงจัง ห้ามตำรวจเอี่ยวผลประโยชน์
1 พ.ค.2567 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่พอใจผลการปฏิบัติงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ตามกำหนด 30 วันเท่าที่ควร ในขณะที่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ระบุว่าค่อนข้างพอใจกับผลงานของตำรวจไซเบอร์นั้น ว่า ตำรวจไซเบอร์ได้ขับเคลื่อนและสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับเรื่องการหลอกลวงการพนันออนไลน์เป็นจำนวนมาก แต่ว่านายกรัฐมนตรีอยากให้เร่งรัดปราบปรามมากขึ้นอีก
ตนเชื่อว่าผลงานของตำรวจไซเบอร์เป็นที่ประจักษ์และเพิ่มมากขึ้นแล้ว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ตนอยู่ในฐานะรักษาราชการแทน ก็ได้กำชับตำรวจไซเบอร์และทุกกองบัญชาการว่าสิ่งที่ปรากฏผลงานเป็นที่ประจักษ์อยู่ทุกวันนี้ถือเป็นการทำงานตามหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ต้องขับเคลื่อนให้มากขึ้น ในสายตาตนเองยังคิดว่าต้องทำให้มากกว่านี้เช่นกัน ตนก็ต้องไปกำกับ กำชับ และให้ รอง ผบ.ตร.ช่วยลงไปดู ซึ่งยังพบเห็นอยู่ว่ายังมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผู้ลักลอบหรือเปิดการพนันออนไลน์อยู่บ้าง แต่ก็ต้องทำงานกันมากกว่านี้ ไม่ได้หมายความว่าผลงานดี หรือจับได้เยอะแล้วแบบนี้ไม่ได้ ถ้าตอบโดยรวมคือยังต้องทำงานให้หนักและมากขึ้นกว่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมต้องกำชับอยู่ตลอดเวลา รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ก็เพราะตำรวจไซเบอร์มีหน้าที่อยู่แล้ว แต่ในเมื่อมีข่าวสารและมีข้อมูลในกรณีที่มีการกล่าวหาตำรวจไปร่วมกระทำผิดในเรื่องการพนันออนไลน์ ก็ย่อมที่จะต้องกวดขัน เร่งรัดในการทำงาน เพื่อให้สังคมได้รับทราบอย่างชัดเจน ว่านับจากนี้ไปจะต้องไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ถ้ามีก็ต้องดำเนินการตามมาตรการขั้นเด็ดขาดกับตำรวจที่นอกลู่นอกทาง โดยที่ไม่อยากไปกำหนดกฎเกณฑ์ แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้ว่า 30 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมผลงานของตำรวจไซเบอร์ ว่าเป็นไปตามนโยบายและได้ขับเคลื่อนไปจริงจังมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการจับกลุ่มแต่ละครั้งต้องขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการ ลูกค้า บัญชีม้า รวมทั้งการเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหาย ถ้าทำได้แบบนี้ทุกรายถึงจะพอใจ แต่ตอนนี้ต้องขยายผลและขอรอดูเรื่องการขยายผลของตำรวจไซเบอร์ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานของตำรวจไซเบอร์และหน่วยอื่น จะมีผลต่อการพิจารณาโยกย้ายในช่วงเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน และจะลึกลงไปในเรื่องของรายละเอียด ไม่ใช่เพียงสถิติตัวเลข และเชื่อว่าไม่ได้เป็นไฟไหม้ฟาง มั่นใจว่าจะต้องเดินหน้าและขับเคลื่อนไปได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กต่าย’ ยิ้มรับฉายา ‘กัปตันเรือกู้’ ยืนยันจะทำงานให้ดีที่สุด
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่
ตร.ไซเบอร์ จับบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเอาเงิน 'ชาล็อต' สูญ 4 ล้าน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท. ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว
'สันธนะ' หอบหลักฐานเด็ดให้ 'บิ๊กต่าย' มัดคนฆ่า สจ.โต้ง ไม่ใช่ 'โกทร'
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมทีมงาน ประสานเข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 41 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
จับ 'หนุ่มออสเตรีย' ขับเจ็ตสกี ชนนักท่องเที่ยวรัสเซียดับ
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา สภ.กะรน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. สถานีตำรวจภูธรกะรน
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'พล.ต.อ.-พล.ต.ท.' จำนวน 19 ราย
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานยศตำรวจชั้นนายพล