ชุดสอบ 'โจ๊ก' กับพวกผิดวินัยร้ายแรง-ออกจากราชการไว้ก่อน ยืนยันไม่มีใครชี้นำได้

รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมคณะกรรมการสอบ “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมพวก 5 คน ผิดวินัยร้ายแรง ยืนยันยึดหลักกฎหมายและให้ความเป็นธรรม ไม่มีใครชี้นำได้ ไม่มั่นใจว่าจะเสร็จทันก่อนเกษียณหรือไม่

29 พ.ย.2567 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมพวกรวม 5 คน ทำผิดวินัยร้ายแรงจนถูกออกจากราชการไว้ก่อน โดยการประชุมในวันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้

พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมนัดแรก เพื่อวางกรอบและแนวทางในการสอบสวน โดยได้มอบหลักการและแนวทางปฎิบัติ โดยยึด 2 ข้อหลัก คือระเบียบและกฎหมาย รวมถึงให้ความเป็นธรรมผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดภายใน 15 วัน และจะมีการทำหนังสือแจ้งผู้ถูกกล่าวหา ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามที่เคยถูกแจ้งข้อกล่าวหากับคณะกรรมการฯ ภายในวันที่ 7 พ.ค.นี้ จากนั้นคณะกรรมการฯ จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดภายใน 60 วัน หลังจากแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งกรอบระยะเวลาทั้งหมด รวมการขอขยายเวลาอยู่ที่ 270 วัน หรือประมาณ 8 เดือน

ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการการสอบสวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมพวก กรณีผิดวินัยร้ายแรง จะแล้วเสร็จทันก่อนเดือน ก.ย.ปีนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง โดยเราพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบทั้งหมด และจะทำหนังสือถึงคณะกรรมการชุดต่างๆที่สอบเรื่องนี้ เช่น เอกสารทางคดีอาญา และผลการสอบสวนจากชุดคณะกรรมการต่างๆมาประกอบสอบสวน และจะดำเนินการสอบสวนกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เมื่อถามถึงหนังสือของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ส่งถึงคณะกรรมการฯชุดนี้นั้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องของการตรวจสอบคณะกรรมการไม่ได้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการชุดนี้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ที่สั่งแต่งตั้ง หรือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ โดยการคัดค้านจะต้องไปดูกฎของ ก.ตร. ว่าด้วยเรื่องคุณสมบัติ ว่าเข้าองค์ประกอบที่จะเปลี่ยนตัวหรือไม่

ถามว่าวันนี้ได้มีการพูดคุยกับหนึ่งในคณะกรรมการฯที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทำหนังสือคัดค้านถึงความไม่เป็นกลางหรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า ได้มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดคุยกันอยู่ ซึ่งเรื่องนี้สามารถคัดค้านได้ แต่จะต้องไปดูว่าอยู่ในกรอบของการคัดค้านหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็สามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่ดุลยพินิจของ รรท.ผบ.ตร. หากมองว่าไม่กระทบ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พูดถึงคณะกรรมการฯ ชุดนี้ไม่เคยเรียกสอบเลยนั้น พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า คดีนี้มีทั้งโทษวินัยและอาญา ซึ่งตนมีหน้าที่ในการสอบสวนทางวินัย ถือว่าคณะของตนเองต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ หรือเริ่มทำการสอบสวนใหม่ทั้งหมด ที่จะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาแบบ 100% จึงจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด ก่อนจะนำไปวินิจฉัยว่าถูกหรือผิด

รอง ผบ.ตร. กล่าวยืนยันว่าตนเองและคณะกรรมการฯ ไม่มีความหนักใจในการสอบสวนเรื่องนี้ เพราะเราทำภายใต้กรอบระเบียบของกฎหมาย ส่วนจะแล้วเสร็จเร็วหรือช้า ไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

ผูัสื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่าจะไม่แล้วเสร็จก่อนท่านเกษียณหรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ ตอบว่า “ใช่”

ซักว่าในวันพรุ่งนี้ที่มีการประชุม ก.ตร. โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมนั้น พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า คาดว่าจะไม่มีการหยิบประเด็นนี้ไปพูดคุยในที่ประชุม ซึ่งจะต้องไปดูในกฎระเบียบของ ก.ตร. ว่าวิธีการปฏิบัติการรายงานเป็นอย่างไร ส่วนการสอบสวนของคณะกรรมการชุดนี้ไม่แล้วเสร็จทันก่อนที่ตนเองจะเกษียณ ก็เป็นหน้าที่ของประธานคณะกรรมการฯ คนต่อไป ซึ่งใครที่มารับช่วงต่อ ก็เชื่อว่าจะสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ

เมื่อถามอีกว่าหากการสอบยังไม่แล้วเสร็จ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะยังเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ได้อยู่หรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะตอนนี้เจ้าตัวโดนออกจากราชการไว้ก่อน และการสอบวินัยยังไม่แล้วเสร็จ ตราบใดที่คำสั่งและผลการสอบสวนยังไม่ถึงที่สิ้นสุด ก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

ถามต่อว่าตอนนี้จะยังเป็น รอง ผบ.ตร.ที่ยังเป็นแคนดิเดตอยู่ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า การออกราชการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังไม่ 100% แต่หากผลออกสมบูรณ์เมื่อไหร่ ก็เท่ากับว่าไม่มีสิทธิ์เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.

เมื่อถามย้ำว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ออกมาบอกว่ามั่นใจกับการทำงานของชุดสอบสวนของท่านนั้น พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า เราเป็นพี่เป็นน้องกัน เรียนตามกันมา เพราะตนรุ่น 40 ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รุ่นที่ 47 และเคยร่วมทำงานกันมา ก็รู้นิสัยใจคอกันดี ว่าจิตใจเป็นอย่างไร และรับราชการมาอย่างไร ตนเองเติบโตมาจากงานสันติบาล เพราะฉะนั้นเขาคงเชื่อมั่นในตัวของตน และสามารถตรวจสอบประวัติการทำงานของตนได้ถึงความเป็นธรรม พร้อมย้ำว่าไม่หนักใจ ใครจะคิดว่าโยนเผือกร้อนให้ แต่ตนรู้สึกเฉยๆ

เมื่อถามถึงประเด็นที่จะถูกมองว่าเป็นสงครามตัวแทนและถูกพุ่งเป้ามาที่ท่านนั้น พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า ไม่กลัว ตนมีหน้าที่แค่หาข้อเท็จจริงมาประกอบการพิจารณาว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกหรือผิด ซึ่งยืนยันว่าการสอบสวนคดีนี้ ไม่มีใครสามารถมาชี้นำคณะของตนเองได้ ซึ่งการที่ รรท.ผบ.ตร.เลือกให้ตนมาเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ มองว่าท่านคงเห็นว่าตนเป็นคนกลาง มีนิสัยและอุดมการณ์ จึงเลือกตน ซึ่งยอมรับว่าตอนแรกตกใจที่ทราบเรื่อง เพราะตนเองใกล้จะเกษียณแล้ว แต่เมื่อมาคิดดูอีกที ก็เชื่อว่าอาจจะมีความจำเป็นจริงๆ

“ผมยืนยันและประกาศว่า ไม่มีใครมาชี้นำผมได้” พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' ยืนยันไม่กดดันพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ทำคดีเว็บพนัน

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แจ้งความดำเนินคดีว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ในพื้นที่ สน.เตาปูน ว่า เรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามกร

ศาลนัดฟังคำสั่ง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' 6 ส.ค. ปัดมีคนเรียก 10 ล้าน แลกแฉ

ศาลนัดฟังคำสั่ง 'โจ๊ก' ฟ้องหมิ่น ‘อัจฉริยะ’ 6 ส.ค. 'บิ๊ก ตร.' ย้อนถามกลุ่มนายพลชลบุรีโดนคดีกลับไม่ถูกปลดออก ปัดมีคนเรียกเงิน 10 ล้าน แลกแฉนายพล

วิจารณ์แซ่ด! อัยการปราบทุจริตฯ สั่ง สอท. ส่งสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตร. ให้ ป.ป.ช.

'อัยการปราบทุจริตฯ' ร่อนหนังสือด่วนที่สุดให้ 'สอท.' รับสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตำรวจ ไปส่ง ป.ป.ช. ทั้งที่ อสส. ยังไม่ได้มีคำสั่งชี้ขาดข้อหารือ วิจารณ์เเซ่ดบรรทัดฐานใหม่

ล้อมคอกโจรไซเบอร์ เดินหน้า 'ปอง.2'

อสส. เปิด ปอง. 2  เดินหน้าพัฒนาศักยภาพบุคลากร รับมือรับมืออาชญากรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น  ชี้เป็นหลักสูตรติดอาวุธทางปัญญาที่สำคัญในการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศ

ไต่สวนมูลฟ้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' เผยดีลกันแล้วบิ๊กโจ๊กจะยอมถอนฟ้องทุกคดี

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุงศาล นัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เป็นโจทก์ฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตน

'รังสิมันต์' ซัดนายกฯตั้ง ผบ.ตร. ไม่โปร่งใส สังคมได้แต่จินตนาการความสามารถ 'บิ๊กต่อ'

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน