'บิ๊กโจ๊ก' ขาลง! ทนายเเอมไซยาไนด์ ร้องผิด พรบ.อุ้มหายฯ

26 เม.ย.2567 - ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ ทนายความของ นางสาวสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ เดินทางมายื่นหนังสือ ต่อ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เเละนายปรัชญา ทัพทอง อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 ให้ตรวจสอบดำเนินคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.พร้อมชุมจับกุม นางสาวสรารัตน์ ในกรณีได้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เมื่อครั้งเข้าดำเนินการจับกุมนางสาวสรารัตน์ หรือไม่

นางสาวธันย์นิชา กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาร้องเรียน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เเละชุดจับกุมให้คณะกรรมการป้องกันการอุ้มทรมานฯได้พิจารณา โดยทำมา 7 ประเด็น ซึ่งอาจจะมีคนเข้าข่ายกระทำผิดเป็นร้อยคนแต่มุ่งให้ตรวจสอบชุดจับกุมก่อน เนื่องจากกฎหมายเขียนไว้ว่าเวลามาจับกุมต้องจะต้องมีวิธีการบันทึกวีดีโอบันทึกภาพในลักษณะที่ต่อเนื่องจนกว่าจะถึงมือของพนักงานสอบสวน แต่วันดังกล่าวจะเห็นได้ว่ามีการพาตัวผู้ต้องหาไปที่สโมสรตำรวจ ไม่ได้พาไปที่กองบังคับการกองปราบปรามเลย

นางสาวธันย์นิชา กล่าวว่าที่น่าสังเกตคือจับกุมตัวกี่โมงและกว่าจะนำไปถึงกี่โมงและกว่าจะได้ส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวนเวลาใดกี่ มีช่วงเวลาที่หายตัวไปแล้ว พาไปไหนพาไปสโมสรตำรวจ พาไปสนามฟุตบอลอยาก ถามว่าพาไปทำอะไร เพราะตามหลักการควรที่จะพาตัวผู้ต้องหาไปส่งให้กับทางพนักงานสอบสวนเลยโดยเร็วที่สุด ที่สำคัญควรจะต้องมีการบันทึกวีดีโอเอาไว้อย่างต่อเนื่อง

โดยวันเกิดเหตุที่ถูกจับกุมคือ จับกุมคือ 26 เม.ย.นี้ก็ครบ 1 ปีต้องเรียนว่าพนักงานสอบสวนจะประจำอยู่ที่กองปราบฯ แต่ตอนจับกลับพาไปที่สโมสรตำรวจ จึงอยากถามว่ามันใช่ที่ทำการของพนักงานสอบสวนหรือไม่ เเละพอนำตัวไปที่สโมสรตำรวจ ก็ไม่ได้มีการสอบสวนอะไรเพิ่มเติมใดๆด้วยเพราะว่าทนายก็ได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเเละภาพข่าวย้อนหลัง ว่ามีการสอบปากคำหรือไม่ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรเลยไปนั่งเฉยๆเหมือนมีการพาไปแห่นางแมว พาไปเจอนักข่าว พาไปนั่งกับตำรวจในทางปฎิบัติก็ควรจะส่งตรงไปที่กองปราบเลย

นางสาวธันย์นิชา กล่าวต่อว่าเเละยังมีกรณีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กับพวกประกอบด้วย พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจน์พงษ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัยมีการเข้าไปในเรือนจำไปลักษณะบังคับให้นางสาวสรารัตน์ รับสารภาพใช่หรือไม่ โดยเข้าไปหลายครั้งไปวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปวันหยุดพิเศษ จนกระทั่งไปนอกเวลาทำการ ทั้งที่นางสาวสรารัตน์ กำลังตั้งครรภ์อยู่จนภายหลังเเท้งลูก ที่ตนพึ่งมาร้องความจริงเเล้วตนร่างคำร้องเอาไว้นานเเล้วจนมาเจอฟ้องคดีด้วย เมื่อได้อ่านฟ้องก็ทราบว่าทำไมถึงโดนฟ้อง ก็เพราะไปรู้ความลับคดีไม่ใช่มาฟ้องเพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขาลง เเต่เพราะเราได้รวบรวมพยานหลักฐานเเละครบกำหนด 1 ปีที่โดนคุมตัวไม่ได้เป็นการดิสเครดิตถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไป

ด้านนายวัชรินทร์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า ทางเราซึ่งถือว่าเป็นศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและสูญหายเรื่องนี้เท่าที่ทราบคือเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯทางเราก็จะรับเรื่องเพื่อที่จะตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงต่อไปว่าพยานหลักฐานจะเข้าข้อกฎหมายใดโดยมอบให้นายปรัชญา อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 เป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ เพราะเราต้องไปพิจารณาดูในสิ่งที่ทนายความนำเอกสารหลักฐานมายื่นให้มันก็จะมีการเข้า พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ

มาตรา 5 ,6,7 ที่จะเป็นความผิดตามกฎหมายนี้ได้ส่วน ม.42 ที่นางสาวธันย์นิชา กล่าวเมื่อสักครู่เป็นเรื่องผู้บังคับบัญชาซึ่งเราก็ต้องดูว่ามีการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับหลักกฎหมายดังกล่าวหรือไม่อย่างไรก็ขึ้นกับนางสาวธันย์นิชาว่าวันนี้พร้อมที่จะให้การหรือไม่ถ้าพร้อมเราก็จะเชิญเข้าไปในห้องเพื่อบันทึกปากคำได้เลย เพราะศูนย์นี้จะทำแบบรวดเร็ว ฝากไปถึงชาวบ้านใครมาร้องเรียนในเรื่องที่ญาติตัวเองถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำการข่มขู่หรือซ้อมให้รับสารภาพในการจับกุม หรือแม้กระทั้งการควบคุมตัวโดยไม่รู้ว่าญาติพี่น้องตัวเองไปไหนอย่างไร

รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวว่าศูนย์นี้เปิดรับตลอดถ้าเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ มีที่นี่ที่เดียว ถ้าถูกจับกุมควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นหน่วยไหนก็ตาม ถ้าในกทม.ก็ต้องแจ้งมาที่ศูนย์นี้เลย หลังจากสอบพยานหลักฐานก็อาจจะสอบทางทนายความก่อนซึ่งเมื่อถามว่า นางสาวธันย์นิชา ทนายความถามว่ามีสิทธิยื่นเรื่องหรือไม่คือกฎหมายฉบับนี้ขยายความไปมาก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยื่นได้หมดรวมกระทั่งนักข่าว ประชาชนคนทั่วไป ถ้าทราบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ฉบับนี้สามารถยื่นได้หมด และการยื่นดังกล่าวหากเป็นการยื่นโดยสุจริตเชื่อว่ามีการกระทำจริง แต่มาตรวจพบว่าไม่มีการกระทำคนที่ยื่นก็ไม่มีความผิด

ส่วนจะต้องเรียกพล.ต.อ.สุรเชษฐ์มาหรือไม่ ขั้นตอนนั้นจะต้องตั้งเป็นคดีก่อน เบื้องต้นเราจะประเมินว่าข้อมูลพยานหลักฐานพอหรือไม่ก่อนจะนำเสนออธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ถ้าอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนพิจารณาเเล้ว เห็นว่ามีมูลจริงมีการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้จริงเราก็จะตั้งคณะทำงานขึ้นมา ซึ่งช่องทางในการสอบสวนตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้มีมี 4 ช่องทางคือ

1.มาร้องอัยการโดยตรง 2ร้องทางตำรวจ3.ร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษเเละช่องทาง 4 .กรมการปกครอง เเต่ถ้าไปร้องหน่วยอื่นที่ไม่ใช่อัยการ กฎหมายฉบับนี้บอกขัดเจนว่าต้องเชิญอัยการเข้าไปตรวจสอบกำกับการสอบสวน เเต่ถ้ามาร้องอัยการโดยตรงอัยการก็จะเข้าไปสอบสวนเองเพราะอัยการมีอำนาจสอบสวน

ส่วนที่ถามกรณีตามมาตรา 42 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ที่เข้าไปในเรือนจำอาจจะโดนในฐานะผู้บังคับบัญชาที่ต้องโทษกึ่งนึงหรือไม่นั้น ตนไม่ขอยกตัวอย่างเคสนี้เพราะไม่ได้ดูในเนื้อหา เเต่ตนยกเรื่องทั่วไปถ้า เป็นผู้บังคับบัญชา แล้วร่วมกันทำการกับลูกน้องโดยร่วมกันทรมานหรือขู่บังคับก็จะผิดตามมาตรา 5,6,7 ซึ่งมาตรา 7 ก็บัญญัติไว้ว่าจับเเล้วไม่ส่งพนักงานสอบสวนนำไปเซฟเฮาส์ ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดตามมาตรา 5,6,7 ด้วย จะต่างกับมาตรา 42 ที่ผู้บังคับบัญชาไม่ได้ไปทำเเต่รู้ว่าลูกน้องทำอยู่เเล้วไม่ห้ามปรามหรือสอบสวนอันนี้ถึงจะโดนตามมาตรา42 ที่มีโทษเเค่กึ่งหนึ่ง

นายวัชรินทร์ เปิดเผยถึงโทษว่ามาตรา 5 มีโทษจำคุกตั้งเเต่5-15ปี มาตรา 6 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี มาตรา 7 ที่ไม่พาไปพบพนักงานสอบสวนจำคุก 5-15ปี ซึ่งเคสนี้ไม่ใช่เคสเเรกที่ดังๆที่ผ่านมาก็มีคดีเป้รักผู้การเเละคดีลุงเปี๊ยก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลนัดฟังคำสั่ง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' 6 ส.ค. ปัดมีคนเรียก 10 ล้าน แลกแฉ

ศาลนัดฟังคำสั่ง 'โจ๊ก' ฟ้องหมิ่น ‘อัจฉริยะ’ 6 ส.ค. 'บิ๊ก ตร.' ย้อนถามกลุ่มนายพลชลบุรีโดนคดีกลับไม่ถูกปลดออก ปัดมีคนเรียกเงิน 10 ล้าน แลกแฉนายพล

วิจารณ์แซ่ด! อัยการปราบทุจริตฯ สั่ง สอท. ส่งสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตร. ให้ ป.ป.ช.

'อัยการปราบทุจริตฯ' ร่อนหนังสือด่วนที่สุดให้ 'สอท.' รับสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตำรวจ ไปส่ง ป.ป.ช. ทั้งที่ อสส. ยังไม่ได้มีคำสั่งชี้ขาดข้อหารือ วิจารณ์เเซ่ดบรรทัดฐานใหม่

ไต่สวนมูลฟ้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' เผยดีลกันแล้วบิ๊กโจ๊กจะยอมถอนฟ้องทุกคดี

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุงศาล นัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เป็นโจทก์ฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตน

'รังสิมันต์' ซัดนายกฯตั้ง ผบ.ตร. ไม่โปร่งใส สังคมได้แต่จินตนาการความสามารถ 'บิ๊กต่อ'

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน

'บิ๊กต่อ' บอกปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ปม 'โจ๊ก' ฟ้องนายกฯผิด ม.157

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ไปยื่นต่อ ป.ป.ช.เอาผิดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็น ผบ.ตร. โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยิ้มพร้อมป

'เศรษฐา' ไร้กังวล 'โจ๊ก' ยื่น ปปช.เอาผิดแต่งตั้ง ผบ.ตร. บอกตอนนี้โฟกัสปัญหาประชาชน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร. ) ยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)