ชุดสอบคดี 'บิ๊กต่อ' ยันไม่ล่าช้า มีหลักฐานพอสมควรแต่เปิดเผยไม่ได้

26 เม.ย.2567 - ที่สน.เตาปูน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น. 2) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเคและในส่วนที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนร้องทุกข์กล่าวโทษ ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ สุขวิมล (ผบ.ตร.) และครอบครัวมีส่วนเกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะพนักงานสอบสวนครั้งที่ 4 เป็นการติดตามความคืบหน้าจากที่ประชุมสั่งการไว้ครั้งก่อน โดยมีประเด็นสำคัญเพิ่มเติมทั้งจากที่เชิญทนายตั้มมาให้ข้อมูลและจากที่พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบรวบรวม โดยมีการยืนยันว่าข้อมูลตรงกันหรือไม่ รวมทั้งสอบปากคำทนายตั้มเพิ่มในบางประเด็น

เรื่องของประเด็นเส้นทางการเงิน พนักงานสอบสวนได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยละเอียด เนื่องจากบัญชีที่จะใช้เป็นหลักฐาน ต้องมีข้อมูลการผ่านเข้าออกของเงินลำดับเวลา การโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปอีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ชุดทำคดีได้ข้อมูลมาแล้วบางส่วนแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ กรณีบัญชีทางการเงิน 10 กว่าบัญชีที่ก่อนหน้านี้ระบุว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากข้อมูลบางส่วนยังต้องขยายผลอีก ไม่ได้ใช้แค่เฉพาะข้อมูลของทนายตั้มที่ยื่นมา

กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดคดีของสน.เตาปูน ที่ดำเนินการกับ ผบ.ตร. ถึงล่าช้ากว่าคดีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวว่า ข้อมูลในส่วนของรองผบ.ตร. ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการเตรียมแผนมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน แต่ของผบ.ตร. พึ่งมีการยื่นให้ดำเนินการเมื่อ 5 เมษายน

อย่างไรก็ตามการเรียกใช้พยานหลักฐานของทนายตั้มทางพนักงานสอบสวนได้สอบถามที่มาของข้อมูลนี้ว่าทนายตั้มได้มาจากที่ใด ทางทนายตั้มเองไม่ได้ให้ที่มาข้อมูล พนักงานสอบสวนจึงต้องทำการขอข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดไม่ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเป็นชุดเดียวกับเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเค พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มีหนังสือคำสั่งให้อำนาจการสอบสวนพนักงานสอบสวนทำเฉพาะคดีที่เกิดก่อนไม่ใช่คดีที่เกิดขึ้นขณะนี้ ยืนยันว่าการสอบสวน ของพนักงานสอบสวนทุกคณะไม่ได้หยุดนิ่งและทำต่อเนื่องฉะนั้นการที่จะมีอำนาจสอบสวนหรือไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาคดีเชื่อว่า หลังจากนี้ผู้คับบัญชาน่าจะมีการแต่งตั้งชุดสืบสวน ขึ้นมาอีกเพิ่มเติม

ในส่วนคดีของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถือว่าได้พยานหลักฐานพอสมควรแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดเพิ่มได้ ส่วนจะมีการเชิญตัวมาให้ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นตัวของผบ.ตร.หรือครอบครัว จะต้องรอพยานหลักฐานชัดเจนก่อน เชื่อว่าขั้นตอนปฏิบัติ ถือว่าไม่ช้า หากประเมินว่ากี่เปอร์เซ็นต์ต้องอยู่ที่ข้อมูลทางการเงินซึ่งขณะนี้ยังได้ไม่ครบถ้วน

เมื่อถามถึงความเชื่อมโยงของ 32 เส้นทางการเงิน ยืนยันว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้แต่การทำงานของพนักงานสอบสวน ไม่มี 2 มาตรฐาน ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'

ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม

ตร. เรียก 'เจ๊อ้อย' ให้ข้อมูลเพิ่ม 2 คดี 'ทนายตั้ม' วางแผนเป็นผู้จัดการมรดก-เงิน 39 ล้าน

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง

สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'

ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง