20 เม.ย.2567 - พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนเร่งล่าตัวคนร้ายที่ไปตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน สร้างความเสียหายและความเดือนร้อนให้กับผู้เสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.บางแก้ว นำโดย พ.ต.ท. ชาญวุฒิ เทียมมงคล รองผกก.สส.สภ.บางแก้ว พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร่วมมือกับ กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 4 ไปติดตามจับกุมตัว นายอัฐพล(หรือตี๋) สุระอามาตย์ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดมหาสารคาม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 296/2567 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2567 ในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยการทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยผ่านสิ่งเช่นนั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นใดเพื่อไม่ให้จำหน้าได้และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้คาบ้านพักหลังหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นห้องเช่าที่ นายตี๋ หนีไปกบดานหลังจากรตะเวนก่อเหตุแล้วอาศัยช่วงวันหยุดสงกรานต์ เดินทางกลับ ซึ่งจับกุมได้ช่วงเย็นของวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพจำนนต่อหลักฐานที่ปรากฏและตามหมายจับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ตำรวจจึงควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.บาวเเก้ว
พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายรายหนึ่งเดินทางมาแจ้งความว่าถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนและไม่ทราบตัว งัดหน้าต่างและประตูห้องพักของบ้านพักช่วงกลางวันแสกๆขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้าน ได้ทรัพย์ทรัพย์สินไปหลายรายการ ทั้งนาฬิการหรู แหวนเพชรแต่งงาน สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ แหวนทอง เงินสด เล่มทะเบียนรถยนต์ และยังถอดกล้องวงจรปิดภายในบ้านและรอบบ้านของผู้เสียหายไปทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 150,000 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว ได้ดำเนินตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชายลักษณะสวมหมวกแก๊ปสีดำ สวมแมสสีดำปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีกรมท่า สะพายกระเป๋าเป้สีเทา สวมกางขายาวสีดำ และสวมรองเท้าผ้าใบ Vans สีขาวดำขณะอยู่ในที่เกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ทำการสืบสวนติดตามคนร้ายโดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนและหลังเกิดเหตุ พบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้เดินทางมาจากซอยลาดพร้าว 128/2 โดยเดินทางด้วยรถเมล์สาธารณะสาย 27 มาลงที่บริเวณหน้าเดอะมอลล์บางกะปิ จากนั้นได้เดินทางต่อด้วยรถตู้ ขสมก.สายบางกะปิ -ปากน้ำ มายังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีนครินทร์ จากนั้นได้เดินทางต่อด้วยรถสองแถวสาธารณะโดยสับเปลี่ยน รถสองแถวจำนวน 3 คัน แล้วจึงเดินไปยังที่เกิดเหตุ โดยหลังจากก่อเหตุคนร้ายได้เดินเท้าระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นได้โดยสารด้วยรถจักรยานยนต์รับจ้างมาลงบริเวณปากซอยหมู่บ้านบางพลีนิเวศน์ แล้วโดยสารด้วยรถแท็กซี่มาลงบริเวณสะพานลอยปากซอยโรงเรียนราชวินิจบางแก้วจากนั้นได้โดยสารรถแท็กซี่อีกคันไปลงบริเวณวัดศรีเอี่ยม แล้วขึ้นโดยสารรถเมล์โดยสารสาย 145 ไปลงบริเวณหน้าเดอะมอลล์บางกะปิและจากนั้นได้โดยสารรถแท็กซี่ไปยังที่พัก บีไลฟ์อพาร์ทเมนท์ ภายในซอยลาดพร้าว 128/2 โดยระหว่างเดินทางคนร้ายได้สวมหมวกและแมสปกปิดใบหน้าตลอดเวลา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ รายนี้ คือ นายอัฐพล(หรือตี๋) สุระอามาตย์ และต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั้งวันที่ 18 มีนาคม 2567 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายอัฐพล(หรือตี๋) พักอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.ภ.4 ทำการจับกุม นายอัฐพล(หรือตี๋)
จากการสอบถามนายอัฐพล(หรือตี๋) ให้การรับว่าตนได้เข้าไปทำการก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านดังกล่าวจริง โดยทรัพย์สินที่ได้มาตนนำไปขายแล้วนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ ส่วนสาเหตุที่ใช้รถสาธารณะและสับเปลี่ยนรถหลายคันก่อนและหลังก่อเหตุเนื่องจากต้องการให้เป็นการยากในการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้เลียนแบบมาจากหนังฮอลลีวูดแนวโจรกรรม
โดยนายอัฐพล(หรือตี๋) ได้ ให้การเพิ่มเติมว่าตนได้เคยเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.บางแก้ว ได้ลักทรัพย์ บ้านเลขที่ 38/79 หมู่บ้านซิตี้เซนท์ ม.13 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ได้ทรัพย์สินไป 1.แหวนเพชร จำนวน 3 วง ราคารวมประมาณ 65,000 บาท / 2.สร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง 1 เส้น ราคาประมาณ 15,000 บาท / 3.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ แอปเปิ้ลวอส 1 เรือน ราคาประมาณ 20,000 บาท / 4.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ TAG 2 เรือน ราคา 5,000 และ 20,000 บาท / 5.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ บดูเบอร์รี่ 1 เรือน ราคาประมาณ 4,000 บาท
ซึ่งเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้วได้สืบสวนติดตามมาโดยตลอด และให้การรับว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ได้เข้าไปทำการลักทรัพย์ในพื้นที่ มีนบุรีได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 10 บาทและก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกหลายพื้นที่ โดยตนจำสถานที่ก่อเหตุและวันเวลาไม่ได้
จากตรวจสอบประวัติอาชญากรรมนายอัฐพล(หรือตี๋) พบมีประวัติเคยกระทำผิด ดังนี้ 1.ข้อหา "ทำอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต"เมื่อปี 2551 ที่ สภ.โกสุมพิสัย ภ.จว.มหาสารคาม ภ.4 / 2.ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ” เมื่อปี 2557 ที่ สน.นิมิตรใหม่ สถานะ รอออกหมายจับ / 3.ข้อหา “ตัวการในข้อหาลักทรัพย์”เมื่อปี 2561 ที่ สน.ฉลองกรุง สถานะหมายจับมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุงเพื่ออายัดตัวต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจตรังจับมือร้านขายของเก่า ช่วยบรรเทาทุกข์ปชช.
ตำรวจตรังแก้ปัญหาโจรลักขโมยทรัพย์สินทางราชการ และทรัพย์สินประชาชน นำไปขายร้านรับซื้อของเก่า ระดมเจ้าของร้านทั่วเมืองช่วยสกัดมิจฉาชีพขอหลักฐานก่อนรับซื้อ
รวบแล้ว 'เสือไม้ โอรส' ตระเวนงัดกุฏิ ลักทรัพย์พระในวัด ประวัติยาวเป็นหางว่าว
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ
'นายกฯอิ๊งค์' กลับถึงไทย 'บิ๊กต่าย' รุดรายงาน จับคนร้ายได้แล้ว
นายกฯ เดินทางถึงไทยหลังกลับจากกาตาร์ 'บิ๊กต่าย' รุดรายงานทันที จับคนร้ายบุกบ้านประชาชนย่านอินทามาระ 29 ได้แล้ว
'อัยการ' เตือนแก๊งแมวน้ำ ขโมยของผู้ประสบอุทกภัย โทษหนักติดคุกถึง 10 ปี
'โกศลวัฒน์’ อธ.อัยการ เตือนเเก๊งเเมวน้ำลักทรัพย์ตอนเกิดน้ำท่วม ซ้ำเติมชาวบ้านอัตราโทษหนักกว่าเดิมมาก เผย สคช. เตรียมเเผนช่วยชาวบ้านหลังน้ำลด
แก๊งโจรใจบาป ตระเวนขโมยระฆังทองเหลือง โดนไปแล้ว 5 วัด
โจรบาปหนาอาละวาดหนัก ตระเวนขโมยระฆังทองเหลืองตามวัดหลายอำเภอ จ.บุรีรัมย์ ทั้งกลางวันกลางคืนแบบไม่กลัวบาปกรรมโดนไปแล้ว 5 วัด
รวบคาสนามบิน หนุ่มฟิลิปปินส์ฉกเพชรห้างดังกลางกรุง ย่ามใจบินกลับมาก่อเหตุซ้ำ
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. ,พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น