16 เม.ย.2567 - ที่ชั้น 20 ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการจราจรและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลประจำปี 2567 ร่วมกับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 11 -15 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุ สะสม 5 วัน พบเกิดอุบัติเหตุ 1,564 ครั้ง พบผู้เสียชีวิต 206 คน และผู้บาดเจ็บ 1,593 คน ซึ่งสำนักงานตำรวจแหงชาติได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ที่เป็นตัวแปรสำคัญที่นำไปดูสู่การเกิดอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนภาพรวมเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่าลดลงทุกหัวข้อ และขณะนี้ผ่านจุดพีคการของการเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว โดยในช่วงวันที่ 16-17 เม.ย. ตำรวจก็จะอำนวยการจราจรเพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับเข้ามา
สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุวิเคราะห์จากปัจจัยต่างๆ พบสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุอันดับ 1 คือการขับขี่ด้วยความเร็ว อันดับ 2 ดื่มแล้วขับ และอันดับ 3 คือขับรถปาดหน้ากระชันชิด โดยอุบัติส่วนใหญ่เกิดขึ้นมากสุดตามถนนสายรองท้องถิ่น ร้อยละ 60 % ส่วนตามทางหลวง (ทล.) เกิดขึ้นร้อยละ 38
ในส่วนของภาพรวมการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยง มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนจำนวน 209,000 ราย ตักเตือนผู้ที่กระทำผิดครั้งแรกกว่า 176,000 ราย รวมมีการบังคับใช้กฎหมายกว่า 385,000 ราย
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ตร.รายงานข้อมูลและสถิติตัวเลขตามข้อเท็จจริงและทำอย่างตรงไปตรงมาบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการในการป้องกันในอนาคต หากมีการหลบตัวเลขก็จะสวนทางกับข้อเท็จจริงและไม่เกิดการป้องกันหรือแก้ไขปัญหา ยอมรับว่าจากที่ได้รับฟังรายงานสถิติ ตนเองพอใจเรื่องการลดอบัติเหตุและการจราจร ขอบคุณประชาชนที่เดินทางมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมในเรื่องของการปฎิบัติและเคารพกฎหมาย ซึ่งสถิติไม่แตกต่างมากจากปีที่แล้วและแนวโน้มอยู่ในการควบคุมดูแลได้ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่ปฎิบัติหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการเตรียมการมาตรการรองรับทั้งมาตราการหลักและมาตรการเสริมในแต่ละห้วงเวลาที่ทำได้ดีมาก ส่วนเรื่องการเมาแล้วขับที่ขึ้นเป็นอันดับ 1 มองว่าเป็นเรื่องความรับผิดชอบต่อตนเองเป็นเรื่องจิตสำนึกของตัวเองล้วนๆ เพราะหากเมาไม่ขับก็จบ สาเหตุไม่ได้เกิดจากตำรวจ ตำรวจได้ดำเนินการตั้งด่านตรวจเพื่อป้องป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง
“มาตรการรองรับการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯหลังเทศกาลก็คล้ายกับช่วงขาออก โดยพบว่าประชาชนเริ่มเดินทางกลับตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) มีปริมาณรถ 5 แสนกว่าคัน โดยเริ่มหนาแน่นช่วงบ่ายและปกติตอน 21.00 น. ส่วนวันนี้คาดการณ์ว่าจะมีการเดินทางกลับเข้ามาสูงสุดกว่า 6 แสนคัน โดยปริมาณรถเริ่มหนาแน่นแล้วทั้งสายเหนือและอีสาน มีการเตรียมเปิดเส้นทางพิเศษในเส้นทางหลักเส้นทางเลี่ยง บนถนนมิตรภาพและพหลโยธิน เชื่อว่ารถจะหนาแน่นต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าพรุ่งนี้“ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ กล่าว
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ในส่วนภาพรวมการจัดงานสงกรานต์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเหตุเล็กน้อยเกิดขึ้นประปรายเช่น ทะเลาะวิวาทกัน หรืออาจจะมีเหตุอุกฉกรรจ์เกิดขึ้น แต่ตำรวจก็มีการสืบสวนจับกุมและออกหมายจับ ซึ่งในมิติของตำรวจก็ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาล พร้อมยอมรับว่าบางพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์อยู่ต้องมีผลกระทบอยู่แล้ว ในส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจคือการเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ เช่น รถติด ก็ลงไปจัดการจราจร แต่เราไม่ได้มีหน้าที่ทำให้เกิดผลกระทบ เพียงแต่เข้าไปคลี่คลายด้วยมาตราการต่างๆเท่านั้น ส่วนการดูแลชาวต่างชาตินั้น ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือคนไทยก็เป็นนักท่องเที่ยวตำรวจดูแลเท่ากัน ส่วนอาชญากรแอบแฝงเข้ามา ยังไม่มี ยังไม่ได้รับรายงานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ผู้การจ๋อ’ ส่งทนายยื่นหนังสือ ‘ผบ.ตร.’ ยัน ป.ป.ช.ไม่ชี้มูล คดี ‘อัจฉริยะ’ ร้องเรียน
ทนายความของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำมติ ป.ป.ช.ที่ไม่ชี้มูลความผิด กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษ
สาวโดดน้ำเจ้าพระยา! แฟนหนุ่มตามลงไปช่วยแล้วขึ้นไม่ได้
เมื่อเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีคนกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณริมเขื่อนภายในลานจอดรถตลาดหัวเกาะ
'รองผบช.ก.' แย้มพยานหลักฐานเพียบ คดีโกง 71 ล้าน จ่อหมายเรียก 'ทนายตั้ม'
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบปากคำ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย
ชุลมุน! บุกชกหน้า 'ทนายธรรมราช' กลางวงแถลงข่าว บช.ก.
ชายนิรนามบุก บช.ก. ชกหน้า 'ทนายธรรมราช' กลางวงแถลงข่าว หลังแจ้งเอาผิด 'อ.เบียร์ คนตื่นธรรม' อ้างเหยียดศาสนา
บุกจับ 2 หนุ่ม ซุกเฮโรอีนในพรมเช็ดเท้า 4 กิโล มูลค่า 12 ล้าน
พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด
หนุ่มปากน้ำโดนยิงสาหัส ซิ่งจยย.หนีตาย 10 กม. ขอความช่วยเหลือชาวบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ รับเหตุยิงกันบริเวณอู่รถเมล์เก่า ริมถนนสุขุมวิท ทิศทางมุ่งหน้าปากน้ำ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ