สืบนครบาลบุกทลายแก๊ง 'ทางเสือเดิน' ซุ้มโจรอันดับหนึ่งย่านหนองนอก

8 เม.ย.2567 - พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมแก๊ง “ทางเสือเดิน” ประกอบไปด้วย นายณัฐวุฒิ หรือไอ้เสือ อายุ 20 ปี ,นายนว หรือเสือเก๋า อายุ 19 ปี ,นายอารักษ์ หรือเสือกี้ อายุ 21 ปี มีหมายจับติดตัวคนละหลายคดี ทั้งปล้น,ฆ่า,ฉ้อโกง,อาวุธปืน ,นายบูรพา หรือภู อายุ 20 ปี ,น.ส.ปริษา หรือสา อายุ 19 ปี และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง ปืนเถื่อนจำนวน 9 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน โดยจับกุมและตรวจค้นที่ บ้านเลขที่ 5/871 ซ.เลียบวารี 11 ถ.เลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก จ.กรุงเทพฯ

พฤติการณ์กล่าวคือแก๊ง “ทางเดินเสือ” เป็นซุ้มโจรอันดับ 1 ย่านหนองจอก ตระเวนก่อเหตุ ปล้น-ฆ่า-ค้ายา-ค้าอาวุธ จนเป็นที่หมายหัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ แต่สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แล้วยังมีการฝากจดหมายน้อยมาเยอะเย้ยตำรวจ “จับผมไม่ได้หลอก” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เร่งสืบสวนจับกุม กระทั่งเวลา 03.30 น.พบว่ากลุ่มคนร้ายกำลังจะลงมือก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่แสดงตัวเข้าจับกุมไวได้ 2 คน ก่อนนำตัวไปค้นเซฟเฮ้าส์ลับที่ “ไอ้เสือ” หัวหน้าแก๊งกบดานอยู่ เมื่อเจ้าหน้าทีไปถึงนายรัฐวุฒิ หัวหน้แก๊งไหวตัวทัน กระโดดปีนกำแพงหลังบ้านหนีชุดสืบสวนเข้าไปในป่ากบแต่ไม่รอด

จากการตรวจค้นในเซฟเฮ้าส์พบปืนเถื่อน 9 กระบอก สืบสวนขยายผลพบว่าแก๊งนี้ เป็นพ่อค้าอาวุธปืนรายใหญ่ในย่านหนองจอก พบประวัติการขายอาวุธปืนเถื่อนแล้วกว่า 2,000 กระบอก ด้วยการทำร้ายร่างกายและยึดปืนจากเด็กวัยรุ่นในย่านดังกล่าว เอามาสะสมรวมกันในคลังแสง ก่อนจะประกาศขายทางช่องทางออนไลน์ โดยจะขายในราคากระบอกละตั้งแต่ 10,000 – 20,000 บาท ซ้ำวางแผนนัดลูกค้าให้มารับของด้วยตนเอง เมื่อลูกค้ามาถึงรุมทำร้ายร่างกายจี้เอาเงินไปด้วยมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 20 ราย

ในชั้นจับกุม นายนว และนายอารักษ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเสือ หัวหน้าแก๊ง ได้รู้จักและเป็นเพื่อนกับนายเก๋า หัวโจกและนายกี้ มาตั้งแต่สมัยวัยเด็กชั้นประถม ก่อนจะได้แยกย้ายกันไปและกลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อทุกคนอายุได้ประมาณ 17 ปี ซึ่งในขณะนั้นพวกของตนได้เริ่มเกเรและมักจะมีเรื่องกับกลุ่มคู่อริต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เริ่มสนใจการเก็บสะสมอาวุธปืนในลักษณะที่เป็นปืนไทยประดิษฐ์ และได้เริ่มสะสมอาวุธปืนมากขึ้น โดยจะสั่งซื้อจากทางออนไลน์ในราคากระบอกละ 500 – 2,000 บาท และบางครั้งก็จะใช้วิธีการ “ตบ” หรือยึดปืนเอาจากคนอื่นมาเป็นของตน จากนั้นจึงได้เริ่มขายอาวุธปืนทางออนไลน์ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก และ ไลน์ โดยจะขายในราคาประมาณกระบอกละ 5,000 – 20,000 บาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงคุณปู่วัย 81 โอนเงินพร้อมจำนองบ้านหมดตัว 22 ล้าน

พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม นางอัจฉรา อายุ 54 ปี ชาวหนองคาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามหมายจับ “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

ตำรวจไซเบอร์บุกทลาย 2 เว็บพนันแทงบอลยูโรรายใหญ่ชาวจีน ยึดทรัพย์เกือบ 300 ล้าน

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์

ตร.บุรีรัมย์ ลุยจับแก๊งค้ายา พบยาบ้า-ปืน-กระสุน เพียบ

ที่หอประชุมชัยจินดา ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ , พล.ต.สันทัด

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัยพี่น้องชาวมุสลิม มิจฉาชีพสร้างเพจปลอมหลอกลงทุนหุ้นอิสลาม

สืบเนื่องจากเพจปลอมหลอกลงทุนออนไลน์กำลังระบาด ซึ่งมิจฉาชีพใช้วิธียิงแอดบูสต์โฆษณาเพื่อให้ผู้คนเห็นโพสต์ได้มากขึ้น โดยตำรวจไซ