4 เม.ย.2567 - พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งรัดปราบปรามจับกุมขบวนการไฮบริดสแกม เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาขนจากการสูญเสียทรัพย์สิน และตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะคดีหลอกให้รักแล้วลงทุน หรือไฮบริดสแกม ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้มาแจ้งความ กรณีมีผู้ใช้บัญชีอินสตาแกรมชาวต่างชาติ อ้างว่าเป็นทหาร ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประเทศเยเมน ทักมาขอคุยเป็นเพื่อน แล้วจึงพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นจึงชวนพูดคุยกันเรื่องการลงทุนในคริปโตฯ หรือการเทรดเหรียญดิจิทัล ผู้เสียหายมีความสนใจ จึงร่วมลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม Trust Wallet ตามคำแนะนำของคนร้าย ช่วงแรกก็ได้ผลตอบแทนตามปกติ แต่เมื่อลงทุนมากขึ้น คนร้ายจะมีข้ออ้างมาให้โอนเงินเป็นค่าดำเนินการต่างๆ รวมมูลค่าความเสียหายกว่าสองร้อยล้านบาท
ต่อมา พ.ต.อ.คมสันต์ กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายลับว่า 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ กำลังเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยทางจุดผ่านแดนถาวร บ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.คมสันต์ จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.จรัญ จาดเปรม สว.กก.3 ปรก.สว.กก.4 บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกันวางแผนจับกุมตัว นายไทยศิลป์ อายุ 22 ปี และ น.ส.นิรชา อายุ 28 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าข้อมุลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จอันมิได้กระทำผิดต่อประชาชนแต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่าทำงานให้กับขบวนการไฮบริดสแกม หลอกให้รักแล้วลงทุน ที่ประเทศเพื่อนบ้าน สร้างโปรไฟล์ปลอมเป็นชาวต่างชาติหน้าตาดี ตามแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ มาหลอกคนไทยด้วยกันเอง โดยการสุ่มทักแชทเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม หรือในแอปพลิเคชันหาคู่ สร้างความสนิทสนม พัฒนาความสัมพันธ์ แล้วชักชวนให้ลงทุนทางดิจิทัล เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขยายผลเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับขบวนการนี้และ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ
จับแล้ว 'แม่ใบหนาด' ตุ๋นขายทอง เหยื่อ 500 ราย เสียหาย 180 ล้าน
พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.สอท. รรท.ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ได้ร่วมแถลงข่าวกรณี ตำรวจไซเบอร์บุกรวบ
บุกจับ 3 นายหน้าจัดหาซิมผีบัญชีม้า ขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผู้กำกับกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (ผกก.2 บก.สอท.4) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 จับกุมนายธนกร
จับมิจฉาชีพ ส่งข้อความมือถือ อ้างการไฟฟ้าคืนเงิน ลวงเหยื่อกดรหัสดูดเงินเกลี้ยงบัญชี
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญช ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.3 บก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.3 จับกุมนางสาว จิตติมา อายุ 35 ปี
ตำรวจจับเจ้าพ่อเงินกู้ ดอกเบี้ยสุดโหด ร้อยละ 730 ต่อปี
พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก. 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (บก.สอท.4) ได้นำกำลังตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ศรีชัยชนะ ผกก.ตชด.34
ผงะ! สูญวันละ 80 ล้าน สถิติเหยื่ออาชญากรรมไซเบอร์ ‘ผู้หญิงวัยทำงาน’ เยอะสุด
จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในห้วงวันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2567 พบว่ามีการแจ้งความผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด 575,507 เรื่อง