ทนายเผยศาลไม่ออกหมายเรียก 'บิ๊กโจ๊ก' คดีอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว พนง.สอบสวนไม่มีอำนาจ

12 มี.ค.2567 - ที่โรงแรมฮิลตันบางกอก แกรนด์อโศก นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมด้วย นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือบิ๊กโจ๊ก แถลงข่าวกรณีศาลอาญาออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือบิ๊กโจ๊ก และออกหมายจับตำรวจ 3 คน และพลเรือน 1 คน รวม 4 หมาย ในคดีเว็บพนันออนไลน์

โดยนายณัฐวิชช์ ทนายความ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายและแต่งตั้งจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้มาชี้แจงข้อเท็จจริง ในกรอบคดีเฉพาะของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เท่านั้น ไม่เกี่ยวผู้ถูกกล่าวหาท่านอื่น ตามที่มีคณะพนักงานสอบสวน ได้ไปยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลอาญา โดย 1 ในนั้นมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่พนักงานสอบสวนไปขอหมายจับต่อศาลด้วย แต่ศาลไม่ออกหมายจับให้ โดยศาลมีดุลพินิจว่า ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอต่อการออกหมายจับ ศาลจึงยกคำร้อง รวมถึงที่มีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนด้วยว่า ศาลออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น ทางทีมทนายความได้มีการตรวจสอบแล้ว ปรากฎว่าศาลไม่ได้มีการออกหมายเรียกแต่อย่างใด

นายณัฐวิชช์ กล่าวต่อว่า เมื่อศาลยกคำร้องแล้ว หากพนักงานสอบสวนยังจะดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ทางทีมทนายมองว่าเป็นการทำไม่ถูก และไม่ชอบด้วยข้อกฎหมายอย่างยิ่ง เหตุผลคือการที่กล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยเรื่องถูกส่งไป ป.ป.ช.แล้ว และทาง ป.ป.ช.รับเรื่องไว้เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2567 ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางทีมทนายความได้ตรวจสอบแล้ว ว่าอำนาจในการไต่สวนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะมีความผิดหรือไม่อยู่ที่ ป.ป.ช. ตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 30 ประกอบ มาตรา 28

นายณัฐวิชช์ ระบุว่า ขอยืนยันว่าอำนาจในการสอบสวนเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวนแล้ว หากพนักงานสอบสวนจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งหากทางพนักงานสอบสวนยังดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ทางทีมทนายมองว่า พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจแล้ว ซึ่งอาจจะเข้าข่ายในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157 หรือไม่ ซึ่งตรงนี้ทางพนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบกันเอง

ทั้งนี้ทาง พล.ต.อ.เอกสุรเชษฐ์ ให้ตนมาชี้แจง พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีเส้นทางการเงินใดมาเกี่ยวข้อง และเงินที่มีการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ยืนยันว่าเป็นเงินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของเว็บพนัน ซึ่งเรื่องดังกล่าว มีการส่งเรื่องให้ป.ป.ช.พิจารณาเพื่อไต่สวนแล้ว พร้อมยืนยันว่า ศาลไม่ได้มีการออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์แต่อย่างใด

นายณัฐวิชช์ กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังให้ข้อมูลกับทีมทนายว่า ทำไมเรื่องดังกล่าวถึงมักเกิดขึ้นช่วงแบบนี้ ซึ่งทางทีมทนาย ก็มองว่า เป็นการดิสเครดิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะว่า เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสลำดับที่ 1 เป็นแคนดิเดตที่อาจได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง การออกหมายจับในช่วงนี้ทำให้ ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงและมีผลกับการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ในห้วงเวลาที่จะเกิดเร็วๆ นี้ ด้วย

ด้าน นายวราชันย์ กล่าวว่า จากการพิจารณาแล้ว จะต้องมาดูว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจในการดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ เพราะการที่ ป.ป.ช. รับคดีเว็บพนันมินนี่ไว้พิจารณาแล้ว เท่ากับว่าอำนาจหน้าที่ทั้งหมดจะอยู่ที่ ป.ป.ช.ไม่ว่าจะเป็นคดีเตาปูนหรือเว็บพนันมินนี่ รวมถึงเรื่องเส้นเงินนั้นที่ข้อเท็จจริงเดียวกัน ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.

ทั้งนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มอบหมายให้ทีมทนายความเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดที่ถูกเผยแพร่และนำนำเสนอมาใช้สิทธิ์มาใช้ในการป้องกันสิทธิ์ของตนเอง โดยย้ำว่าในเรื่องนี้ยังไม่มีใครเข้าข่ายความผิด พรบ. คอมพิวเตอร์ หลังจากนี้จะมีการสู้กลับ เพื่อปกป้องสิทธิของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อย่างแน่นอน พร้อมขอให้จับตาดูข้อเท็จจริงที่จะปรากฎให้สังคมได้เห็น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช.เปิดเซฟ 6 รมต.ค่ายน้ำเงินล็อตแรก ‘ศุภมาศ’ อู้ฟู่พันล้าน

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำ

เปิดขุมทรัพย์ แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย  ‘จุลพันธ์’ 86 ล้าน ‘สุริยะ’ รวยจริง 1.6 พันล. ซื้อเครื่องบิน 30 ล้าน

-สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำ

'ไชยชนก' แย้ม 'DSI' มีข้อมูลโยง 2 นักการเมือง ปม MOU บ.สแกนม่านตา

'ไชยชนก' ชี้หน้าที่ 'ดีเอสไอ' สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง 1-2 คน เอี่ยว MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา โยงฟอกเงินดิจิทัล

คดีค้างอื้อ! เบรกสว.สีน้ำเงินลงมติห็นชอบ ชี้ขัดกันแห่งผลประโยชน์

สว.อิสระค้าน พุธนี้สภาสูงลงมติเห็นชอบป.ป.ช.-ตั้งกมธ.สอบประวัติว่าที่กกต. ยกเหตุเพื่อป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ หลังสว.เกินครึ่งมีเรื่องค้างที่ตึกป.ป.ช.-กกต.