เปิดไทม์ไลน์อุ้มฆ่า 'หนุ่มไต้หวัน' พบอยู่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

26 ก.พ. 2567 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการรายงานความคืบหน้ากรณีพบศพชายชาวไต้หวันถูกจ่อยิงสองนัดอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะนำศพมาหมกไว้ในร้านค้าร้างริมถนนสุวรรณภูมิสาย 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ในช่วงสายวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา

ต่อมา เวลา 21.03 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรูย่านลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร หลังตำรวจชุดสืบสวน จังหวัดสมุทรปราการ นำกำลังเข้าตรวจค้นจุดที่คาดว่า คนร้ายใช้เป็นสถานที่สังหารชาวไต้หวัน อายุ 43 ปี ก่อนนำร่างไปทิ้งในพื้นที่หวงห้าม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อช่วงเวลา 03.12 น มีรถแท็กซี่มาส่งกลุ่มผู้ก่อเหตุที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่ เวลา 03.14 น แท็กซี่คันดังกล่าวจะออกไปจากหมู่บ้าน โดยเวลา 04.51 น รถเก๋งคันสีแดงได้ขับออกไปจากหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะนำร่างของผู้เสียชีวิตมาทิ้งภายในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ

จากการสอบสวน พบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นบินเข้ามาประเทศไทยในช่วงตี 2 ครึ่ง จำนวน 3 คน ส่วนอีกคนนั้นเข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว เป็นชายชาวไต้หวัน โดยมีรถเก๋งสีขาวเดินทางไปรับมาที่บ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งมีผู้ตายอยู่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งชายทั้ง 3 คน มาถึงบ้านหลังดังกล่าวแล้ว ก็มีการลากกระเป๋าเข้าบ้านตามปกติ จนในช่วงตี 3 ได้ยินเสียงปืน 1 นัด ก่อนห่างกันครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงปืนอีกนัด จากนั้นรถเก๋งสีแดงก็ขับออกไปจากหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งคาดว่านำศพไปทิ้งบริเวณสนามบินก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งมีหญิงไทย ซึ่งเป็นอดีตภรรยาเจ้าของรถคันสีแดงไปด้วย ก่อนไปปรากฏตัวที่ด่านตรวจ ตม.คลองลึก จังหวัดสระแก้ว เพื่อข้ามไปประเทศกัมพูชา เวลา 13.00 น ซึ่งหลังจากทิ้งศพแล้วมีชายชาวจีน 2 คน ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ เพื่อมาล้างทำลายหลักฐาน

จากนั้นเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี ตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด ตามรถเก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีแดง จนมาพบว่ารถคันดังกล่าวหายเข้าไปในซอยผุส-จรูญ สาธารณะประโยชน์ ถนน รพช. ซึ่งจุดดังกล่าวเข้าไปจากถนนเลียบมอเตอร์เวย์ไปประมาณ 3 กิโลเมตรช่วงท้ายซอย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ

ตรวจสอบภายในรถ พบขวดน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ น้ำยาดับกลิ่นต่างๆ อยู่บริเวณที่วางเท้าด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร ส่วนที่ด้านเบาะหลังพบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ และ ผ้าเปื้อนเลือด ที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการห่อศพเพื่อนำมาทิ้ง นอกจากนี้ยังพบกล่องบรรจุปืนแต่ไม่พบตัวปืน ถูกวางอยู่ที่เบาะหลัง และรองเท้าชนิดเดียวกันที่พบในถังขยะใกล้บ้านที่เกิดเหตุตกอยู่หนึ่งข้าง ส่วนกล้องวงจรปิดหน้ารถนั้นพบว่ามีการถอดการ์ดออกจากตัวกล้องไป

ขณะที่ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบรถคันดังกล่าว พร้อมกับสั่งการให้เร่งตรวจลายนิ้วมือแฝงเพื่อเร่งออกหมายจับแดง ติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ส่วนไทม์ไลน์การลงมือสังหารในครั้งนี้ พบว่ามีการวางแผนทำเป็นขบวนการข้ามชาติ โดยเฉพาะการส่งทีมสังหารบินข้ามประเทศเพื่อมาลงมือก่อเหตุ ในครั้งนี้ จากข้อมูลที่ทีมข่าวเราได้มา พบว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้ตายได้ก่อเหตุลักรถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า ยารีส สีขาว มาจากย่านพัทยา โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.พัทยา หลังจากนั้นฝ่ายสืบสวนพอทราบข้อมูลว่าผู้ตายได้ขโมยรถเก๋งสีขาวมาจึงแกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนพบว่าวันที่ 24 ก.พ. ใช้รถเก๋งคันดังกล่าวขับวนเที่ยวอยู่ที่พัทยา ก่อนจะนำรถมาจอดไว้ที่ถนนรัชดาภิเษกกรุงเทพมหานคร ในเวลา 00.10 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์

ต่อมาในช่วงเวลาตีสองกว่าของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์เข้ามาบ้านของฝ่ายหญิงที่ย่านลาดปลาเค้า ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุผู้ตายถูกยิง หลังจากนั้นไม่นาน 03.12 น มีรถแท็กซี่มาส่งกลุ่มผู้ก่อเหตุที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่ เวลา 03.14 น. แท็กซี่คันดังกล่าวจะออกไปจากหมู่บ้าน โดยที่ เวลา 04.51 น. รถเก๋งคันสีแดงได้ขับออกไปจากหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะนำร่างของผู้เสียชีวิตมาทิ้งภายในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากที่ทิ้งศพแล้ว กลุ่มผู้ต้องหาแวะจอดที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อน้ำยากำจัดคราบ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน จากนั้นจึงขับรถคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ท้ายซอยผุส-จรูญ สาธารณะประโยชน์ ถนน รพช.ในเขตลาดกระบัง ซึ่งเข้าจากถนนเลียบมอเตอร์เวย์ประมาณ 3 กิโลเมตร

ก่อนจะมีรถตู้ปริศนามารับเดินทางหลบหนีออกทางด่านตรวจคลองลึกในจังหวัดสระแก้ว เมื่อช่วงบ่ายโมงเศษของวันเดียวกัน โดยมีผู้ต้องสงสัย 5 คน ประกอบด้วยชายชาวใต้หวัน 4 คน และหญิงไทย 1 คน ซึ่งก่อนเกิดเหตุ พบว่าชายชาวไต้หวัน 3 คน เดินทางมาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิช่วงเวลา 01.50 น. หลังจากนั้นทีมสังหารทั้งสามคนได้เรียกใช้บริการให้แท็กซี่ไปส่งยังบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนจะลงมือฆ่าแล้วนำศพไปทิ้ง ส่วนประเด็นยังไม่ไห้ให้น้ำหนักอะไร

ทั้งนี้มีข้อมูลจากอดีตภรรยาของผู้ตายที่เป็นชาวไทยออกมาให้ข้อมูลว่า ผู้ตายอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่ต่างประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับ รองผบ.ตร.-ผบช. วาระประจำปี 2567

การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2567 ได้มีมติเห็นชอบบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

'บิ๊กต่าย' สั่งสอบ 'พ.ต.ต.' อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ กระทำอนาจาร

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีเพจดังเผยแพร่ข้อมูลระบุว่า มีนักเรียนนายร้อยตำรวจ ถูกอาจารย์ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสารวัตร (สอบสวน) สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล

เคาะแล้ว! ก.ตร. แต่งตั้ง รองผบ.ตร.-ผบช. 'สยาม บุญสม' ม้ามืดผงาดนครบาล

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 โดยวาระสำคัญ คือวาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) เป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เป็นครั้งแรก

รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

ตร. แถลงจับจีนเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่าเบอร์โทร 02 นับหมื่นเลขหมาย โทรหลอกกว่า 700 ล้านครั้ง

พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงผลการปฏิบัติการ “มาตรการระเบิดสะพานโจร” 2 ปฏิบัติการ จับแก๊งจีนเทาเช่าเบอร์โทร 02-xxxxxxx กว่าหมื่นเลขหมาย โทรหลอกประชาชนมากกว่า 700 ล้านครั้ง และใช้เครื่องส่ง SMS ปลอม (False Base Station) ส่งข้อความถึงประชาชนภายใน 3 วัน เกือบล้านครั้ง

นายกฯ ถึงไทย ‘บิ๊กต่าย’ เข้ารายงานปมร้อน จัดโผแต่งตั้ง รองผบ.ตร- ผบช. 20 พ.ย.นี้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เข้ารายงานนายกฯถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่10/2567 ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เวลา 14.30 น.