'บิ๊กโจ๊ก' ไม่หวั่นข่าวลือโดนคดีฟอกเงินเว็บพนัน เชื่อเป็นกระบวนการตัดขาขึ้นเป็น ผบ.ตร.

"บิ๊กโจ๊ก" ไม่กังวลข่าวลือจะถูกดำเนินคดีฟอกเงินเว็บพนันมินนี่ เป็นเพียงเรื่องเก่าตัดขาเก้าอี้ ผบ.ตร. ยืนยัน "ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยาชูกำลัง"

16 ก.พ.2567 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคณะพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์ "มินนี่" เตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับนายตำรวจใหญ่คนดังระดับบิ๊ก ในฐานะผู้บงการ ข้อหาฟอกเงิน โดยมีการเชื่อมโยงว่านายตำรวจระดับบิ๊กคนดังกล่าวอาจหมายถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับกุมในคดีนี้ ว่า ได้เห็นกระแสข่าวดังกล่าวแล้ว แต่ก็ไม่กังวลใดๆ เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ที่ตนเองถูกตำรวจเข้าค้นบ้าน แล้วถูกนำมาเล่าใหม่ และคดีนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการไปหมดแล้ว ตนเองเชื่อว่าความจริงก็คือความจริงเป็นไปตามกฎหมาย ใครจะมากลั่นแกล้งกันไม่ได้ ตนเองทำคดีมาเยอะ ก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเยอะเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีการดำเนินคดี ก็ต้องสู้คดีตามกระบวนการ และตนเองก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะพิพากษาถึงที่สุด เพราะกฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับตนเอง

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจที่ถูกดำเนินคดีเว็บพนันออนไลน์ทั้ง 8 นาย และจนถึงขณะนี้ตนเองก็ไม่ได้ทอดทิ้งลูกน้อง อันไหนผิดคือผิด อันไหนถูกคือถูก แต่ตนเองก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ไม่ได้รับเงินเว็บพนัน เงินทั้งหมดทุกอย่างของตนเองชี้แจงได้หมด และตนเองพร้อมพิสูจน์ความจริง ตนเองไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีมา 2 ปี ผ่านการตรวจสอบมาอย่างละเอียด ก็ไม่ได้ถูกดำเนินคดีหรือลงโทษอะไร หากตนเองมีความผิด ก็คงถูกดำเนินคดีไปนานแล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองเชื่อว่าเป็นกระบวนการตัดขา ขัดขวางตนเองไม่ให้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมีการรื้อฟื้นเรื่องดังกล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้หนึ่งในลูกน้องที่ตกเป็นผู้ต้องหานั้น ขณะนี้ก็ได้มีการฟ้องกลับคณะพนักงานสอบสวนที่มีการลงลายมือชื่อในรายงานการจับกุมและตรวจค้นกว่า 200 คน ตั้งแต่ยศ "พล.ต.อ." ถึงชั้นประทวนด้วย ดังนั้นตนเองถือว่า "กรรมใครก็กรรมมัน" อย่าไปทำตามใจ ขณะมีอำนาจ ย้ายใครก็โยกกลับมาได้ แต่หากโดนคดีอาญาติดคุก ใครก็ตามที่ทำไม่ตรงไปตรงมา สุดท้ายก็มีวิบากกรรมหมด มันอาจจะได้ช่วงเดียว แต่ความจริงมีหนึ่งเดียว การเอากฎหมายไปแกล้งใครก็ตาม มันจะได้รับผลกระทบไปหมด ทั้งที่คนที่ทำจริงๆมีไม่กี่คน

“ยืนยันว่าไม่ได้เสียกำลังใจในการทำงาน เพราะตนเองก็ยังรับราชการอยู่ ‘ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยาชูกำลัง’ แต่ถ้าตนเองไม่สู้ ก็คงต้องลาออกไปเลย ถ้าตนเองจะตายก็คงตายตั้งแต่อยู่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ตนเองคงไม่ตายน้ำตื้นด้วยการใช้ออนไลน์ " รอง ผบ.ตร. กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ

ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น

ลุ้นองค์คณะฯอ่านคำพิพากษา ดับฝัน 'โจ๊ก-แมว9ชีวิต' กลับตร.

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทางปกครองในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว

พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ

ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล

นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย

ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม