เปิดปฏิบัติการ '999 Ep. 2' จับแก๊งค้ายารายใหญ่ ยึดทรัพย์ได้ 150 ล้าน

ตำรวจ ปส. ปูพรมเปิดปฏิบัติการ ‘999 Episode 2’ ยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่าย ‘โน้ต ศดายุ’ พร้อมกัน 23 จุด ทั่วประเทศ พร้อมจับทีมนักบินยึดยาบ้า 16 ล้านเม็ด

16 ก.พ. 2567 – พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. ร่วมแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ของ บช.ปส.

ช่วงเช้าวันนี้ กองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด (บก.ขส.) ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1, 3, 4 และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการ “999 Episode 2” ขยายผลปิดล้อมตรวจค้นเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่าย “นายศดายุ หรือโน้ต” ใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ คือ กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, นนทบุรี, อยุธยา, สุพรรณบุรี, นครปฐม และ เชียงราย รวม 23 เป้าหมาย

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 59 บก.ขส. ได้สืบสวนเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑล จนนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการ “999” ปิดล้อมตรวจค้นใน 27 จุดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 33 คน ตรวจยึดยาบ้า 172,000 เม็ด,ไอซ์ 6 กก., ยาอี 1,450 เม็ด, คีตามีน ชนิดน้ำ 520 ขวด, คีตามีน ชนิดผง 6.4 กก., กัญชา 1 กก., ยาปลุกเซ็กซ์ 50,000 กล่อง ตรวจยึดรถยนต์ 10 คัน, มอเตอร์ไซค์ 2 คัน, บัญชีเงินฝาก 22 เล่ม, ปืน 7 กระบอก, กระสุนปืน 2,000 นัด, โฉนดที่ดิน, พระเครื่อง, ทองรูปพรรณ, พันธบัตรไทย มูลค่า 124 ล้านบาท, พันธบัตรลาว มูลค่า 56 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมด 400 ล้านบาท

จากการขยายผลพบว่า นายศดายุ หรือโน้ต เป็นหัวหน้าเครือข่ายค้ายาเสพติดระดับสั่งการ โดยติดต่อสั่งยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ลักลอบลำเลียงเข้ามาเก็บซุกซ่อนในพื้นที่ต่างๆ อาทิ นนทบุรี, โคราช, สมุทรปราการ, นครปฐม, ชลบุรี, หนองคาย, ชุมพร และกรุงเทพมหานคร จะมีเครือข่ายแบ่งการทำงานชัดเจน จนนำมาสู่การออกหมายจับ นายศดายุ พร้อมพวก รวม 9 ราย

กระทั่งวันที่ 13 ก.ย. 59 ตำรวจ บก.ขส. สืบทราบว่า นายศดายุได้จัดกิจกรรมเลี้ยงขอบคุณเอเย่นต์ ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอเขาใหญ่ จึงร่วมปิดล้อมตรวจค้นจับกุมได้ 4 ราย ส่วนนายศดายุ และพวกรวม 5 คน ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้ขับรถไล่ติดตามพร้อมสกัดจับ แต่เกิดการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถูกวิสามัญเสียชีวิตภายในรถ 1 ราย ส่วนนายศดายุกับพวกที่เหลือหลบหนีไปได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 ตำรวจ ภ.1, ภ.6 และ บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว นายศดายุ เหลืองประดับใจ ได้บริเวณลานจอดรถ รีสอร์ท ณ บ้านทุ่ง อัมพวา ต.สวนหลวง อ.อัมพวา จว.สมุทรสงคราม ตามหมายจับของศาลาอาญา ที่ 262/2559 ในข้อหา“สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว” ตำรวจ บก.ขส. จึงขยายผลพบว่าระหว่างหลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งกลับเข้ามาในประเทศไทย นายศดายุ ยังคงค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่องจนถูกจับกุมได้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้มาพบ นายศดายุ จะนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สิน เช่น ที่ดินเปล่า เพื่อนำมาสร้างโกดังเก็บยาเสพติด, ซุกซ่อนทรัพย์สิน และ เก็บสะสมรถแต่ง

สำหรับการเปิดปฏิบัติการ “999 Episode 2” 23 เป้าหมาย สามารถตรวจพบเป้าหมาย 9 ราย ไม่พบ 10 ราย, อายัดเงินในบัญชีธนาคารจำนวน 2,800,000 บาท อายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ 51 รายการ อาทิ บ้านพร้อมที่ดิน, โกดัง, รถยนต์ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่อายัดทั้งหมด 150,000,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมเครือข่ายรายสำคัญได้อีก 5 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้รวม 9 ราย ยึดยาบ้า 16 ล้านเม็ด ไอซ์ 4 กก. อายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท

คดีที่ 1 สืบเนื่องจากตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 ทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด “เครือข่าย ดำเมืองกาญ” ในพื้นที่ จว.กาญจนบุรี จะขึ้นไปรับยาเสพติดทางภาคเหนือมาจำหน่ายในเขต กรุงเทพฯและปริมณฑล กระทั่งวันที่ 30 ม.ค.67 พบความเคลื่อนไหวของรถเป้าหมาย หมายเลขทะเบียน กต 88xx นนทบุรี ขับขี่เข้าไปในพื้นที่ ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จว.เชียงราย และขับลงมาช่วงเที่ยงของวันที่ 31 ม.ค.67 บริเวณถนนพหลโยธิน ตำบลวังมัน อำเภอสามเงา จว.ตาก ก่อนจะสกัดจับไว้ได้ บริเวณสะพานบ้านยางโองน้ำร่วมใจพัฒนา อำเภอบ้านตาก จว.ตาก ตรวจสอบพบ นายนที หรือเจต ยุวะเวส เป็นคนขับ ตรวจสอบรถพบยาบ้ากว่า 8 แสนเม็ด ซุกซ่อนบริเวณท้ายรถ

คดีที่ 2 กลางดึกของวันที่ 28 ม.ค.67 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ตรวจยึดยาบ้า 1,140,000 เม็ด ได้บริเวณถนนทางดินริมทุ่งนา บ้านโล๊ะ ม.1 ต.สันต้นหมื้อ อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ หลังทำการสืบสวนเครือข่ายยาเสพติดชาวเขาเผ่าลาหู่ เครือข่ายของ นายจะนะ แอโหลซึ่งมีพฤติการณ์ใช้รถยนต์กระบะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน ด้าน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ นำไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายเพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ระหว่างเฝ้าติดตามพบรถต้องสงสัย ขับออกมาจากพื้นที่แนวชายแดน บ้านห้วยน้ำเย็น ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ ใช้เส้นทางถนนชนบทสลับกับถนนทางดินริมทุ่งนา มุ่งหน้าไปทาง ต.แม่อาย – ต.มะลิกา – ต.แม่นาวาง – ต.สันต้นหมื้อ ลักษณะขับเร็วสลับช้าและจอดเป็นระยะๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัวนำรถเข้าสกัดจับกุม รถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผล 16xx เชียงใหม่ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาคือ นายจะนะ ได้อาศัยความมืดทิ้งรถก่อนเปิดประตูวิ่งลงจากรถหลบหนีไปได้ ตรวจค้นรถกระบะพบยาบ้า 1,140,000 เม็ด

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 บก.ปส.4 จับกุม นายสูดี รือมัน ขณะขับรถเข้าด่านตรวจยาเสพติด อ.จะนะ จว.สงขลา เจ้หน้าที่พบวัตถุที่มีลักษณะน่าสงสัย จึงเชิญคนขับนำรถเข้าเครื่อง X-ray เพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียด พบยาบ้า 1,620,000 เม็ด บรรทุกอยู่หลังรถในลักษณะตีคอก สอบถามผู้ต้องหา ระบุรับยาบ้ามาจากต้นทาง จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำมาส่งในพื้นที่ปลายทาง จว.นราธิวาส

คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 27 ม.ค.67 ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ปส.1 และ บก.ขส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีเครือข่ายยาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ ไปส่งลูกค้าในพื้นที่ จว.สระบุรี กระทั่งวันที่ 27 ม.ค.67 สามารถจับกุม นายจายตาล, นายวิน และ นายแลง ลุงเมือง ได้ที่ริมถนนพหลโยธิน หมายเลข 1 ต.ดาวเรือง อ.เมือง จว.สระบุรี พร้อมรถยนต์ TOYOTA รุ่น: HIACE สีขาว 1 คัน ตรวจค้นยาบ้า 12,200,000 เม็ด และ ไอซ์ 5 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ หลังจากนั้นสามารถขยายผลจับกุม นายไซ ทูน ที่หลบหนีได้บริเวณ หอพักทิพย์แมนชั่น ห้องหมายเลข 412 ซ.หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม ซึ่งทั้ง 4 ผู้ต้องหาเป็นสัญชาติเมียนมา นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินอาทิ รถยนต์ และเงินสด

คดีที่ 5 เมื่อวันที่ ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. รับแจ้งจากสายลับว่า เครือข่ายรายสำคัญจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคกลาง นำไปส่งมอบให้กับลูกค้าทางพื้นที่ภาคใต้ กระทั่งวันที่ 29 ม.ค.67 สามารถจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ นายทรงวุฒิ, นายสุริยา และ นายกิตติพร ได้บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท. อ.เขาย้อย จว.เพชรบุรี ตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในรถ 264,000 เม็ด รวมคดีที่ 4 และ 5 สามารถอายัดทรัพย์สินได้มูล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

'อดีตผช.ผญบ.' ยิงกำนันสาวเจ็บสาหัส ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด

'อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน' ใช้อาวุดปืน .38 จ่อยิงกำนันสาว ต.แก่งโสภา จนบาดเจ็บสาหัส กลางงานเลี้ยง ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตหนีความผิด

นายกฯ สั่ง ปปง.เร่งยึดทรัพย์แก๊งค้ายา

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ สั่ง ปปง.มีอำนาจพิเศษสูงต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่งยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาฯ อย่ามัวแต่ช้า หวั่นโอนเงินหนี กำชับอย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา