13 ก.พ.2567-ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตร. ) พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นช่วงเทศกาลแห่งความรัก ที่คนวัยหนุ่มสาว รวมถึงเด็กและเยาวชน นิยมออกมาท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งสถานบริการ สถานบันเทิง และแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) ตระหนักถึงความสำคัญและมีความห่วงใย เด็กและเยาวชน ที่จะออกมาท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ จึงสั่งกำชับตำรวจทั่วประเทศให้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้วยมาตรการเชิงรุก เน้นการดูแลความปลอดภัยในช่วงวันวาเลนไทน์
รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า ผบ.ตร.กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เฝ้าระวัง และป้องกันการเกิดอาชญากรรมต่อเด็ก และเยาวชนที่เป็นการคุกคามทางเพศ การก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยมุ่งเน้นในพื้นที่ล่อแหลม หรือสุ่มเสี่ยง เช่น สถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรมม่านรูด สวนสาธารณะ และแหล่งมั่วสุมหรือที่ชุมนุมของเด็กและเยาวชน
“ผบ.ตร. สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดเพื่อระวังภัยแก่เด็ก เยาวชน ดังนี้
- ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ วัยรุ่นกลุ่มเสี่ยง อาวุธ และสิ่งผิดกฎหมาย โดยมุ่งเน้นถนนสายหลัก หรือเป็นที่ตั้งของสถานบริการ
- เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราบุคคลกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กและเยาวชน ที่มีพฤติกรรมหรือแนวโน้มที่อาจก่อให้เกิดอาชญากรรม หรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม เช่น การแสดงความรักในที่สาธารณะ การแข่งรถในทางสาธารณะ การใช้บริการในสถานบริการ สถานบันเทิง ร้านอินเทอร์เน็ต หรือโรงแรมม่านรูด
- เพิ่มความเข้มงวด กวดขัน ในการตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง ให้มีการปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด เช่น การเปิด-ปิดตามเวลา การห้ามพกพาอาวุธเข้าไปในสถานบริการ การตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่มาใช้บริการ ห้ามมีการแสดงลามก อนาจาร หรือการแสดงที่ไม่เหมาะสมขัดต่อศีลธรรมอันดี ตลอดจนห้ามมีการมั่วสุมเสพยาเสพติด และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยห้ามจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้กับเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ทั้งนี้หากพบการกระทำความผิด หรือพบว่าสถานบริการใดมีการปล่อยปละละเลย ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด” พ.ต.อ.หญิง ฉันฉายฯ กล่าว
รอง โฆษก ตร. กล่าวด้วยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครอง โปรดอบรมตักเตือนบุตรหลานให้ระมัดระวังภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากการออกไปเที่ยวฉลองวันวาเลนไทน์ โดยให้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง รวมทั้งตักเตือนเด็กและเยาวชนให้ระมัดระวังป้องกันตนเอง ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารการแจ้งเตือน เพื่อรู้ทันกลลวงของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่มักจะมาในรูปแบบต่าง ๆ
พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย กล่าวย้ำว่า ขอความร่วมมือโรงแรมทุกแห่งโดยเฉพาะโรงแรมม่านรูดในการช่วยตรวจสอบหรือสังเกตผู้มาใช้บริการ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการให้บริการกับเด็ก และเยาวชน หากตรวจพบว่าสถานบริการใดที่มีการปล่อยปละละเลย จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนทั่วไปให้ช่วยสอดส่องดูแล หากพบพฤติกรรมการผิดกฎหมายของสถานบริการ พฤติกรรมไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชน หรืออาชญากรรมต่าง ๆ สามารถแจ้งเบาะแสมายังสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ผบ.ตร.’ สั่งตำรวจเข้มงวดดูแลชีวิตและทรัพย์สินประชาชนช่วงปีใหม่
"ผบ.ตร."กำชับมาตรการเข้ม ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลคริสต์มาส -ปีใหม่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุฟัน 10 ข้อหาหลัก
'สันธนะ' หอบหลักฐานเด็ดให้ 'บิ๊กต่าย' มัดคนฆ่า สจ.โต้ง ไม่ใช่ 'โกทร'
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมทีมงาน ประสานเข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
'บิ๊กต่าย' ยันไม่ได้ลอยตัว ปม ป.ป.ช. รับไต่สวนจนท.รัฐ เอื้อทักษิณนอนชั้น 14 พร้อมทำตามกฎหมาย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติให้ตั้งองค์คณะไต่สวนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวม12 ราย
ผบ.ตร. เซ็นโอนคดี 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบแล้ว ผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาจิ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เซ็นโอนคดี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร อายุ 86 ปี นายก อบจ.ปราจีนบุรี
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท