เด้ง 'ร.ต.อ.' ออกจากราชการ คดีตร.ล่วงละเมิด ม.5 แลกค่าปรับใบขับขี่

30 ม.ค.2567 - พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร มีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ที่ 52/2567 ลงวันที่ 30 ม.ค. เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการตำรวจไว้ก่อน ใจความว่า ด้วย ร.ต.อ.กัมปนาท พิมพ์ภู รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรป่าติ้ว ออกจากราชการไว้ก่อน กรณี เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2567 เวลาประมาณ 10.00 น. นางสาววิภารัตน์ กลิ่นเมือง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า PCX สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 5 กช 2091 กรุงเทพมหานคร ออกจากบ้านมากับน้องสาวได้ขับขี่มาจอดที่ข้างที่ว่าการอำเภอป่าติ้ว แล้วเดินไปซื้อขนมจีบที่หน้าโรงพยาบาลป่าติ้ว เมื่อเดินกลับมาที่จอดรถไว้พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.กัมปนาท พิมพ์ภู อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 399 หมู่ 4 ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร (ทราบชื่อภายหลัง) ยืนอยู่ที่บริเวณหน้าทางเข้าศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (ก.ศ.น.) อำเภอป่าติ้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบถาม นางสาววิภารัตน์ ถึงใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ และการไม่ได้สวมหมวกนิรภัย ซึ่งนางสาววิภารัตน์ ไม่มีใบอนุญาตมาแสดง และไม่ได้สวมหมวกนิรภัย อีกทั้งจะเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 2,000 บาท หลังจากนั้นจึงได้นำตัวนางสาววิภารัตน์ ไปที่ห้อง หลังห้องเรียนของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนฯ แล้วได้กระทำชำเราผู้เสียหายแล้วกลับออกมาจากห้อง และนางสาววิภารัตน์ ได้กลับบ้านไปพบนางอรุณี ซึ่งเป็นยายของนางสาววิภารัตน์ จึงได้แจ้งเหตุที่เกิดขึ้นให้ทราบ แล้วผู้เสียหายกับนางอรุณี จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนได้รับเป็นคดีอาญาที่ 36/2567 ลงวันที่ 29 ม.ค.2567 ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี อันเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรงเป็นความผิดฐาน กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จึงให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน และมีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2557 ข้อ 3(1) คือ ผู้นั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาหรือถูกฟ้องคดีอาญาในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ และผู้ที่ถูกฟ้องนั้นพนักงานอัยการมิได้รับเป็นทนายแก้ต่างให้ และผู้มีอำนาจดังกล่าวพิจารณาเห็นว่า ถ้าให้ผู้นั้นคงอยู่ในราชการอาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 131 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบกับกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงให้ ร.ต.อ.กัมปนาท พิมพ์ภู ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้
ตั้งแต่ วันที่ 30 ม.ค.2567 เป็นต้นไป

อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้ มีสิทธิ์อุทรณ์ ต่อ ก.ตร. ได้ตามราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 141 ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันทราบประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

'อดีตผช.ผญบ.' ยิงกำนันสาวเจ็บสาหัส ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด

'อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน' ใช้อาวุดปืน .38 จ่อยิงกำนันสาว ต.แก่งโสภา จนบาดเจ็บสาหัส กลางงานเลี้ยง ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตหนีความผิด

ทั่นโรมเตือนสติตำรวจอย่างรีบปิดคดี 6 ศพชาวเวียดนาม

'โรม' หวัง ผลสอบ 'พบศพชาวต่างชาติ' โปร่งใส เตือน 'ตำรวจ' พึงสังวรณ์หากรีบปิดคดีให้เรื่องเงียบ จะสูญเสียศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม-ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างป่นปี้