‘อำนวย’ แนะปัดฝุ่นโครงการส่งเด็กกลับบ้าน แก้ปัญหาเด็ก ซ้ำรอยคดีป้าบัวผัน

29 ม.ค.2567-พล.ต.ท.อำนวย  นิ่มมะโน  อดีต ผบช.ภ.1 โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “โครงการส่งเด็กกลับบ้าน” ระบุว่า  คดีป้าบัวผัน พัวพันมาถึงลุงเปี๊ยก สามีต้องตกเป็นผู้ต้องหา ลามไปถึงกระบวนการยุติธรรมชั้นสอบสวน มีความเบี่ยงเบนเอนเอียง มีกูรูออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย จะผิดจะถูกกระผมไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์… แต่ใคร่จะขอฝากไว้สักนิดเถอะครับ ถ้าไม่รู้จริงอย่าชี้นำสังคมให้เข้าใจไขว้เขวมันจะเกิดความเสียหายต่อส่วนรวม

เรื่องที่กระผมจะเขียน เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นในการแก้ปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน แต่ขอให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จริงจัง ขออย่าได้เป็นไฟไหม้ฟางก็แล้วกัน…

ทันทีที่ ผบ.ตร. พูดเรื่องเคอร์ฟิวเด็ก มีตำรวจน้อยใหญ่ออกมาเด้งรับซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อ ผบ.ตร. หยุดพูด ขออย่าได้เด้งกลับก็แล้วกัน!!! กระผมว่าจะโทรไปถาม “ทำไมเมื่อก่อนไม่คิดจะทำ?”  ปัญหาเด็กเยาวชนออกจากที่พักอาศัยโดยไม่มีเหตุอันควรในยามวิกาล แล้วมาก่อเหตุต่างๆ นานา มั่วสุมกันในร้านเกมส์ นั่งจับกลุ่มกันตามราวสะพาน ขี่มอเตอร์ไซค์ซิ่ง จิปาถะ… ถามว่าตำรวจท้องที่รู้หรือไม่ว่าเด็กหรือเยาวชนออกมามั่วสุมกันในยามวิกาลอยู่ในพื้นที่ตัวเองที่ใดบ้าง?? คำตอบคือ ถ้าไม่รู้ก็ไม่ควรอยู่พื้นที่!! แต่ถ้ารู้แล้วทำไมยังปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้มันหมักหมมจมดินมาเป็นเวลาช้านาน…

เมื่อครั้งกระผมดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เป็นพื้นที่ในปกครองด้วย โครงการ “ส่งเด็กกลับบ้าน” เป็นโครงการหนึ่ง ซึ่งถือเป็นนโยบายให้ทุกท้องที่ถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจริงจัง หลังสี่ทุ่มตำรวจท้องที่จะต้องออกไปตรวจตามจุดต่างๆ ที่มีเด็กมั่วสุมกันอยู่ และหากพบว่า เด็กเหล่านั้นออกจากบ้านมาโดยไม่มีเหตุอันควร เช่น ไม่ใช่ไปเรียนพิเศษ ไม่ใช่ไปซ้อมกีฬา ซ้อมดนตรี ไม่ใช่ไปเยี่ยมคนป่วย ไปทำงานพิเศษ อะไรต่อมิอะไรที่เป็นเหตุอันควร ก็ให้นำเด็กเหล่านั้นไปที่สถานีตำรวจแล้วเชิญผู้ปกครองมาพบ ว่ากล่าวตักเตือนผู้ปกครองไว้ครั้งหนึ่งก่อนแล้วลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และให้รับตัวเด็กกลับบ้านไป… หากครั้งต่อไปยังพบซ้ำรายเดิมอีกก็จะดำเนินคดีกับผู้ปกครอง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ฐานปล่อยปละละเลย ไม่ใช้อำนาจปกครองดูแลอบรมสั่งสอนเด็กในปกครอง กับทั้งยังเป็นการปล่อยปละละเลยให้เด็กในปกครองตกอยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ (มาตรา 23) เชื่อว่า หลักฐานโครงการ “ส่งเด็กกลับบ้าน” สถิติผลการปฏิบัติตามโครงการดังกล่าวน่าจะยังเก็บรักษาไว้ที่ตำรวจภูธรภาค 1 หากไม่พบขอได้ที่ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี (อดีต หน.สนง.) ซึ่งเมื่อปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จริงจัง รับรองได้ว่าจะเกิดมรรคเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม บ้านเมืองสงบเรียบร้อย  ส่วนเด็กแทนที่จะออกมาร่อนเร่มั่วสุม จะก่อเหตุร้าย ถูกก่อเหตุร้าย ถูกชักจูงหลอกลวงไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควรก็จะได้อยู่บ้านทำการบ้าน รับคำอบรมสั่งสอนจากผู้ปกครอง  ไม่ใช่ให้มารวมตัวกันขี่มอเตอร์ไซค์ซิ่ง… วิ่งทางโค้ง… โหม่งเสาหลัก… จมปลักเลือด… เดือดฝุดๆ อย่างเช่นที่เป็นอยู่

ขอกระซิบนิดนึง!!!  แถวบางกรวยบ้านผม เมื่อคืนสองคืนที่ผ่านมาก็ยังซิ่งกันอยู่ แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน ผบ.ตร. ย้ายมาอยู่แถวถนนนครอินทร์ก็คงจะเงียบสงบได้.. ฮ่าาาา

หากจะพูดอย่างเป็นธรรมแล้ว การแก้ปัญหาของตำรวจเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ สำหรับปัญหาเด็ก หรือเยาวชน เป็นปัญหาที่หลายภาคส่วนจะต้องบูรณาการในการแก้ปัญหา กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต้องเป็นเจ้าภาพหลัก สร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง สร้างชุมชนให้แข็งแรง ต้องไม่มีบุตรก่อนวัยอันควร ไม่เป็นพ่อเป็นแม่วัยใส เป็นลุงเป็นป้า เป็นปู่เป็นย่า เป็นตาเป็นยาย ทั้งๆ ที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาว ยังไม่มีวุฒิภาวะและความพร้อมที่จะมีบุตร ไม่เช่นนั้นแล้วภาระเหล่านี้ก็จะตกอยู่กับสังคมส่วนรวม ปัญหาเหล่านี้จึงควรเป็นปัญหาที่รัฐบาลจะต้องนำไปประกาศเป็นนโยบายแห่งชาติเสียด้วยซ้ำ ไม่ใช่ทิ้งให้เป็นปัญหากับตำรวจเพียงฝ่ายเดียว เป็นนโยบายที่ไม่ต้องหารือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ต้องตื่นเต้นหวาดเสียวว่าเราถึงคราววิกฤติที่ต้องจะกู้เงินได้หรือไม่? เพียงขับเคลื่อนกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ผู้รับผิดชอบโดยตรง และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง อย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทั้งครอบครัว ชุมชน และสังคมจะได้เข้มแข็ง ประเทศชาติจะได้แข็งแกร่ง… ป้าบัวผันจะได้ไม่ตายฟรี… ขอสดุดีดวงวิญญาณของคุณป้าไว้ ณ ที่นี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระดมกำลังทุกหน่วย ปูพรมตรวจค้น 183 จุด กวาดล้างอิทธิพล ยึดของกลางอื้อ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ระดมกำลังตำรวจสอบสวนกลาง ,กองบัญชาการตำรวจนครบาล ,

'โจ๊ก' เผย 'บิ๊กเต่า' ขอเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหมิ่นประมาท เป็นครั้งที่ 2

ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องของโจทย์เป็นครั้งที่ 2 ในคดีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้องพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

'บิ๊กต่อ-มาดามกุ๊กไก่' ออกงานคู่ครั้งแรก

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร. พร้อมด้วยคุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2567 ณ ห้องแจ้งยอ

'เอก-ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ' เผย 'บิ๊กโจ๊ก' นัดพบหลายครั้ง เล่าถึงคนอื่นนับ 10 คน

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตั้งแต่มีกรณีที่ ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทั้ง

'ทักษิณ' บอกวุ่นวาย ปมบิ๊กตำรวจขัดแย้ง ร้องโอ๊ยทันทีหลังเจอถามร่วมจัดโผทหารหรือไม่

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระหว่างพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้อง 'พล.ต.ต.' กูรูกฎหมาย หมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เดินทางมายื่นฟ้องกูรูด้านกฎหมายซึ่งเป็นอดีตตำรวจ ยศพล.ต.ต.ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีจงใจใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท