ศาลออกหมายจับ ไอ้ต้น มือยิงเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์กับเพื่อน เสียชีวิต 2 ศพ หลังคุมตัวมาสอบสวน แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้อง ขณะที่ตำรวจใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มัดตัว
18 ม.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่คนร้ายบุกยิงนายอนันตพงษ์ อายุ 41 ปี หรือ ช่างเบียร์ เจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ ที่ตำบลบ่อแดง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา กับนายสิทธิพงศ์ อายุ 35 ปี หรือ อ๊อด เสียชีวิตคาที่ทั้ง 2 คนในอู่ซ่อมรถ เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.สทิงพระ เบิกตัวผู้ต้องสงสัย ออกจากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา สภ.สทิงพระ ไปสอบสวนอีกครั้ง หลังจากควบคุมตัวมาได้เมื่อวานนี้ แต่ผู้ต้องสงสัยยังคงปฏิเสธ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.สทิงพระ ได้ตรวจปัสสาวะของผู้ต้องสงสัย พบผลเป็นบวก มีสีม่วง จึงทำประวัติ และแจ้งข้อกล่าวเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พร้อมกับเตรียมนำตัวส่งศาลจังหวัดสงขลา เปรียบเทียบปรับในคดีดังกล่าว
ส่วนคดียิงนายอนันตพงษ์และนายสิทธิพงศ์ ที่ผู้ต้องสงสัยยังคงปฏิเสธ แต่จากการสืบสวนของตำรวจพบพยานบุคคลที่ให้การว่า ผู้ต้องสงสัยมีปัญหากับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นคนในตำบลบ่อแดงเหมือนกัน โดยเฉพาะกับนายสิทธิพงศ์ที่มีการทะเลาะวิวาทและมีความขัดแย้งกับผู้ต้องสงสัย ในเรื่องสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งคืนวันก่อนเกิดเหตุ ก็ยังทะเลาะวิวาทกัน ก่อนที่จะมีการไปเคลียร์ปัญหา แต่ไม่จบ สุดท้ายก็เกิดเหตุยิงดังกล่าว
พยานปากสำคัญยืนยันว่า เห็นผู้ต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปก่อเหตุยิงนายอนันตพงษ์และ นายสิทธิพงศ์ก่อนจะหลบหนีไป ทำให้ขณะนี้ตำรวจต้องรอพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะผลตรวจดีเอ็นเอลายนิ้วแฝงจากปลอกกระสุนปืน และหัวกระสุนปืนที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งจะทำให้เป็นพยานหลักฐานที่สำคัญในคดีนี้
ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ขณะนี้ยังค้นหาไม่พบ รวมทั้งรอผลตรวจสอบประวัติอาวุธปืนขนาด 11 มิลลิเมตร ในพื้นที่ว่ามีใครครอบครองอาวุธปืนประเภทนี้ หรือมีกลุ่มไหนที่ใช้อาวุธปืนชนิดก่อเหตุในพื้นที่และใกล้เคียง
ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับนายธานี ขุนกลับ หรือ ต้น ผู้ก่อเหตุยิงนายอนันตพงษ์ และนายสิทธิพงศ์แล้ว หลังพนักงานสอบสวน สภ.สทิงพระ รวบรวมพยานหลักฐานผลตรวจพบมีคราบเขม่าดินปืนในตัว และภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งมีน้ำหนักเพียงพอ โดยแจ้ง 4 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่ บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและโดยไม่มีเหตุจําเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่ บ้านหรือที่ชุมนุมชน
ส่วนนายธานีคงให้การปฏิเสธ และไม่ให้การใดๆเกี่ยวกับคดีนี้เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'รองผบช.ก.' แย้มพยานหลักฐานเพียบ คดีโกง 71 ล้าน จ่อหมายเรียก 'ทนายตั้ม'
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบปากคำ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย
ซวยแล้ว! จ่อหมายจับล็อต 2 คดีดิไอคอน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมติดตามความคืบ
'ทวี' สวมบท สส. รับ 'คดีตากใบ' ไม่เป็นธรรม ไร้เงาผู้ต้องหา
'ทวี' ชี้ 'ตากใบ-ไฟใต้' ทุกภาคส่วนต้องร่วมหาทางออก ย้ำสังคมขาดความยุติธรรมมีความแตกแยก ผู้มีอำนาจอาจอยู่ไม่ได้ เร่งเยียวยาจิตใจคนชายแดนใต้
ไม่รอด! หนีคดี 19 ปี 5 เดือน ตำรวจจับคา รพ.
พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.หาดใหญ่ นำหมายจับเข้าจับกุม นายสุระภัย เพชรพันธ์ อายุ 49 ปี
'บิ๊กต่าย' แจงยังเดินหน้าติดตามผู้ต้องหาคดีตากใบ เหลืออีก 14 วันก่อนหมดอายุความ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการติดตามตัวผู้ต้องหาคดีตากใบที่กำลังหมดอายุความวันที่ 25 ต.ค.นี้ ที่มีรายงานว่าผู้ต้องหา 2 หลบหนีออกนอกประเทศว่า เมื่อมีหมายจับ ตำรวจมีหน้าที่ 2 อย่าง
ข้องใจฝ่ายค้านอภิปราย ’พิศาล’ เอาเป็นเอาตาย ทีผู้นำจิตวิญญาณหนีคุกเงียบกริบ
นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า พลเอกพิศาล ส.ส.เพื่อไทยหนีหมายจับ