'อัจฉริยะ' ร้อง อสส. ชี้ขาดฟ้อง 'สส. พปชร.' ฟอกเงินเว็บพนัน

‘อัจฉริยะ’ ร้อง อสส. ชี้ขาดฟ้อง ‘สส.พปชร.’ ฟอกเงินเว็บพนัน หลังตำรวจภาค 9 เเย้งความเห็นอัยการ พร้อมตั้ง คกก.สอบวินัยอัยการสงขลา

8 ม.ค. 2567 – ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายื่นหนังสือขอให้อัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งฟ้อง นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ อดีตประธานสโมสรนครศรียูไนเต็ด ในข้อหาร่วมกันสมคบกันฟอกเงินในคดีเว็บพนันออนไลน์ imiwin และตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงพนักงานอัยการจังหวัดสงขลา ในการสั่งไม่ฟ้องคดีของนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว

และคดีที่ 2 คดีที่ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว กับ นายณัฐวุฒิ จันทร ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมผู้อื่นเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นหรือเข้าพนันในการพนันในการเล่น (ผ่านทางเว็บไซต์การพนันออนไลน์) โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) ชุด พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ จับกุม เจ้าของเว็บพนันออนไลน์ imiwin ทั้ง 2 คดี ต่อมาได้มีการแถลงข่าว และชุดตำรวจ PCT ชุด พล.ต.ต.ไตรรงค์ ได้ส่งมอบของกลาง และผู้ต้องหาทั้งหมดให้สภ.เมืองสงขลาจำนวน 7 คดี ซึ่งต่อมาชุดคณะพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลาได้มีการขยายผลจนได้หลักฐานเพิ่มเติมว่ามี นายชนนพัฒฐ์ กับพวก รวม 2 คน จึงได้แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การพนันออนไลน์ และ พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และสั่งฟ้องทั้ง 2 คน ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดสงขลามีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายชนนพัฒฐ์ แต่สั่งฟ้องเฉพาะผู้ต้องหาที่ร่วมกับนายชนนพัฒฐ์ เพียงคนเดียว และพนักงานอัยการจังหวัดสงขลาได้ส่งสำนวนมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่มีรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กับพวก รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ กับมีความเห็นไม่แย้งคดีนี้ จึงทำให้นายชนนพัฒฐ์พ้นผิด โดยไม่ถูกลงโทษแต่อย่างใด

จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา จึงได้ดำเนินคดี นายชนนพัฒฐ์นาคสั้ว กับพวกรวม 2 คน ในคดีนี้ฐานความผิดร่วมสมคบกันฟอกเงิน และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา มีความเห็นสั่งฟ้อง ซึ่งพนักงานอัยการภาค 9 ก็สั่งไม่ฟ้องนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว แต่สั่งฟ้องผู้ร่วมขบวนการกับนายชนนพัฒฐ์เพียงคนเดียว ต่อมากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีความเห็นแย้งให้ฟ้อง นายชนนพัฒฐ์ ในข้อหาฟอกเงินดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด

“ผมทราบว่ามีบุคคลไปแอบอ้างชื่อว่า สามารถรับวิ่งเต้นคดีนี้เพื่อสั่งไม่ฟ้องนายชนนพัฒฐ์ได้ เเละอาจทำให้อัยการสูงสุดซึ่งเหมือนเปาบุ้นจิ้นเมืองไทยได้รับความเสียหายได้ ซึ่งจากเส้นทางการเงินที่ได้มาจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าคณะพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีเจตนาไม่สุจริต โดยไม่แย้งในคดีเว็บพนันออนไลน์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และไม่ยอมขยายผลในคดีฟอกเงินอันเป็นการช่วยเหลือเจตนาให้ผู้ร่วมขบวนการทั้งบัญชีม้า และผู้ได้รับผลประโยชน์จากบัญชีม้าอันเป็นคดีมูลฐานความผิด จึงขอให้อัยการสูงสุดช่วยตรวจสอบสำนวนคดีนี้ด้วยความละเอียดรอบคอบ เพราะกระทบกับประชาชนจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อเว็บพนันออนไลน์

ส่วนคดีที่มีการขยายผลจากตำรวจ PCT ชุด พล.ต.ต.ไตรรงค์ โดยได้นำคำให้การของ สภ.เมืองสงขลามารวมกับพยานหลักฐานของ สภ.หาดใหญ่ จึงได้หลักฐานเชื่อได้ว่า นายชนนพัฒฐ์ เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ imiwin ชุดตำรวจ PCT จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายชนนพัฒฐ์ กับพวกรวม 2 คน ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จนกระทั่งปัจจุบันพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และไม่มีการขยายผลในคดีสมทบกันฟอกเงิน โดยมีการดึงเอกสารเส้นทางการเงิน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้ร่วมกันทุจริต และให้การช่วยเหลือให้พ้นผิด โดยที่คณะพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งเป็นชุดเดียวกันกับ สภ.เมืองสงขลา กลับไม่กำกับดูแล และตรวจสอบในคดีนี้ และได้ส่งสำนวนมาให้อัยการจังหวัดสงขลา ภาค 9 แล้ว

ดังนั้นจึงร้องขอให้ อสส. มีคำสั่งฟ้องนายชนนพัฒฐ์ ในข้อหาร่วมกันสมคบกันฟอกเงินในคดีเว็บพนันออนไลน์ imiwin และตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงพนักงานอัยการจังหวัดสงขลา ในการสั่งไม่ฟ้องทุกคดีของนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว และคดีที่นายชนนพัฒฐ์ กับ นายณัฐวุฒิ จันทร ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมผู้อื่นเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นหรือเข้าพนันในการพนันในการเล่น (ผ่านทางเว็บไซต์การพนันออนไลน์) โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

“ถ้าผมเป็นชนนพัฒฐ์ ผมก็ต้องมีศักดิ์ศรี เมื่อผมถูกกล่าวหา ผมก็ต้องลาออกจากการดำรงตำแหน่งกรรมาธิการการตำรวจ ส่วน สส.ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งถ้าหากโดนดำเนินคดี ผมจะไปยื่นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ทำเรื่องคดีฟอกเงิน ว่ามันเชื่อมโยงกับของบอสตาล ตรงนี้มันชัดเจนมีเส้นเงินชัดเจน ยืนยันคดีไม่ซ้ำ เพราะดีเอสไอเคยรับเป็นคดีที่มีการดำเนินคดีไปแล้ว มีเส้นเงินโอนมาทั้งหมด 90 ล้านบาท เราขอให้เขาขยายผล กรมสอบสวนคดีพิเศษก็รับปากแล้วว่าจะดำเนินการให้ เรื่องนี้ไม่ใช่การดิสเครดิตทางการเมือง เลยเพราะว่าผมเองก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง” นายอัจฉริยะ ระบุ

ทางด้านนายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับหนังสือ เเล้วก็จะให้หน่วยงานที่ตรวจสอบให้อธิบายขั้นตอนของสำนวนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสำนวนไปถึงไหนแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทวี' สั่ง 'DSI' ตรวจสอบข้อเท็จจริง รื้อคดี 'แตงโม' ก่อนยื่นอัยการสูงสุดหรือไม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ขอให้กระทรวงยุติธรรม ทำหนังสือถึงอัยการ

ตร.ไซเบอร์ จับบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเอาเงิน 'ชาล็อต' สูญ 4 ล้าน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท. ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว

'ดีเอสไอ' ประชุมใหญ่ สรุปสำนวนดิไอคอน ก่อนส่งอัยการ 23 ธ.ค.นี้

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ

'สันธนะ' หอบหลักฐานเด็ดให้ 'บิ๊กต่าย' มัดคนฆ่า สจ.โต้ง ไม่ใช่ 'โกทร'

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมทีมงาน ประสานเข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)