'โฆษกอัยการ' เปิดกฎหมาย 3 ฉบับ คดี 'เด็ก 14' ต้องรอรักษาจนหาย

‘โฆษกอัยการ’ เผยครบผัดฟ้อง ‘เด็ก 14’ กราดยิงพารากอน ต้องปล่อยตัวจากสถานพินิจฯ เเต่เเพทย์ยังมีอำนาจคุมตัวต่อตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต ชี้การดำเนินคดีต้องรอแพทย์รักษาจนหายเท่านั้น

1 ม.ค. 2567 – จากกรณีที่นางศจีมาศ บัวรอด อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีและคณะทำงานอัยการได้ตรวจสำนวนคดีเด็กชาย 14 ปี กราดยิงในห้างดังแล้วปรากฏรายงานการประเมินผลวินิจฉัยและตรวจรักษาในสำนวนการสอบสวนของคณะแพทย์ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจรักษาเด็กชาย พ. ยังมีอาการป่วยและยังเป็นคนไข้ในของสถาบันกัลยาราชนครินทร์ ซึ่งต่อมาพนักงานอัยการได้ส่งคืนสำนวนกลับไปให้พนักงานสอบสวน เพราะการสอบสวนในขณะที่เด็กชาย พ. ขณะยังป่วยอยู่ จึงเป็นการสอบสวนที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อาญา) มาตรา 14 ถือเป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบ

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อพนักงานอัยการคืนสำนวนกลับไปยังพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนจะต้องงดการสอบสวน ไม่สามารถสอบสวนหรือรวบรวมพยานหลักฐานได้จนกว่าผู้ต้องหาที่เป็นเด็กหายป่วยและต่อสู้คดีได้ เพราะต้องทำตามกฎหมาย ป.วิ.อาญา มาตรา 14 ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่าพนักงานสอบสวนจะต้องงดการสอบสวนไว้ก่อน จนกว่าที่ผู้ต้องหาจะหายจากอาการป่วย และต่อสู้คดีได้ โดยจะต้องรอการประเมินการตรวจรักษาของแพทย์เท่านั้น ดังนั้นในวันที่ 31 ธ.ค.เมื่อครบกำหนดผัดฟ้องครั้งที่4 ครั้งสุดท้าย ก็ต้องปล่อยตัวเด็กจากการควบคุมของสถานพินิจฯ

ซึ่งขณะนี้ตัวเด็กเเม้พ้นจากอำนาจคุมตัวเนื่องจากครบกำหนดผัดฟ้อง เเต่ตัวเด็กจะยังไม่ได้ปล่อยตัว เพราะเเพทย์จะสามารถใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สุขภาพจิตปี 51 คณะแพทย์และกลุ่มสหวิชาชีพจากสถาบันกัลยาราชนครินทร์สามารถประสานผู้ปกครองเด็กเพื่อรับตัวไปบำบัดรักษา หรือเเพทย์อาจบังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ. 2551 มาตรา 22 และ 36 ได้ โดยสามารถรับผู้ต้องหาไปรักษาตัวต่อได้

ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการรักษาเด็กและป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับเด็กและสังคม จากนั้นทางแพทย์จะมีการส่งผลประเมินให้กับพนักงานสอบสวน ทราบทุก 180 วัน ถ้ายังไม่หายสามารถขยายได้อีก 180 วัน ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายสู่สภาวะปกติแต่ถ้าเด็กหายป่วยก่อนกำหนด 180 วัน ก็สามารถรายงานให้พนักงานสอบสวนทราบได้ทันทีเพื่อจะหยิบยกคดีขึ้นทำการสอบสวนต่อไป โดยคดีนี้มีอายุความ 20 ปี ซึงจะขาดอายุความในวันที่ 3 ต.ค. 2586

นายประยุทธ กล่าวว่า มีปัญหาว่าสุดท้ายจะต้องปล่อยตัวเด็กอายุ 14 ไป หรือไม่ เรื่องนี้มีกฏหมายที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณา 3 ฉบับ คือ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 14 ที่กำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องงดการสอบสวนไว้เมื่อได้ความว่าผู้ต้องหาที่เป็นเด็กป่วยและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ทั้งนี้จนกว่าจะมีผลประเมินการบำบัดรักษาจากคณะแพทย์และสหวิชาชีพว่า ผู้ต้องหาที่เป็นเด็กหายป่วยและต่อสู้คดีได้แล้วเท่านั้น

ส่วนกฎหมายฉบับที่สองคือ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชน พ.ศ. 2553 มาตรา 78 ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาผัดฟ้องครั้งที่สี่ในวันที่ 31 ธ.ค. นี้ ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานอัยการไม่สามารถที่จะพิจารณาสำนวนหรือสั่งฟ้องได้ทันภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดดังกล่าว เนื่องจากมีการตีกลับสำนวนเพราะการสอบสวนไม่ชอบ จึงส่งผลให้อำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาเด็กของสถานพินิจสิ้นสุดลงด้วย

และ 3.ตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต ปี 2551 มาตรา 22 และ 36 ที่ให้อำนาจคณะแพทย์และสหวิชาชีพด้านจิตเวชของสถาบันกัลยาราชนครินทร์ที่บำบัดรักษาผู้ต้องหาที่เป็นเด็กมาแต่แรก สามารถควบคุมเด็กไว้เพื่อบำบัดรักษาต่อได้จนกว่าผู้ต้องหาที่เป็นเด็กจะหายป่วย แต่ทั้งนี้คณะแพทย์และสหวิชาชีพจะต้องรายงานผลการบำบัดรักษาให้พนักงานสอบสวนทราบทุก 180 วัน ซึ่งการรับตัวไว้ตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิตพ.ศ. 2551 เพราะคณะแพทย์และสหวิชาชืพเห็นว่าผู้ต้องหาที่เป็นเด็กยังป่วยและต่อสู้คดียังไม่ได้และจะต้องได้รับการบำบัดรักษาเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวน้องเองและบุคคลอื่นนั่นเอง

“ทราบเเนวทางการบำบัดรักษาในครั้งนี้จากหนึ่งในทีมที่บำบัดรักษา ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ กระบวนการทำงานของกลุ่มแพทย์และสหวิชาชีพที่บำบัดรักษาน้อง ไม่เพียงแต่จะบำบัดรักษาให้น้องหายป่วยเท่านั้น แต่ยังต้องวิเคราะห์หาสาเหตุการก่อเหตุตามหลักนิติจิตเวช เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขการก่อเหตุซ้ำอีกด้วย โดยวันนี้จะมีการพูดคุยระหว่างทีมคณะแพทย์และสหวิชาชีพที่บำบัดรักษาน้องผู้ป่วยกับผู้ปกครองและทางสถานพินิจที่สถาบันกัลยาราชณนครินทร์ ผลคืบหน้างานโฆษกจะแถลงให้ทราบต่อไป” โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่รอด! ศาลสั่งจำคุก-ริบรถยนต์ เจ้าของเทสล่าหัวร้อนขับป่วนบนทางด่วน

ที่ศาลแขวงดุสิต ซอยสีคาม ถนนนครไชยศรี พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง ได้ยื่นฟ้อง นายปิติพัฒน์ กาญจนภาณุรัช ในข้อหา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย

ตร. เร่งล่าตัวมือโพสต์ขู่กราดยิงห้างดัง ยังคุมเข้มต่อตลอดสัปดาห์

ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า บรรยากาศบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น (เซ็นทรัลพลาซ่า)

'หมอสมอง' เตือน! 'บิด เอียง สะบัดหมุน ดัดคอ' เสี่ยงอัมพฤกษ์

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและสมอง และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า บิด เอียง สะบัดหมุน ดัดคอ…แล้วก็เสี่ยงอัมพฤกษ์

เปิดฉากมวยไทยเยาวชนโลก หนุนซอฟต์พาวเวอร์รัฐบาล คาดสะพัด 500 ล้าน

เปิดฉากศึกมวยไทยเยาวชนสมัครเล่นชิงแชมเปี้ยนโลก ประจำปี 2567 "อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024" นักชกกว่า 100 ชาติประชันฝีมือ พร้อมร่วมส่งเสริมนโยบาย "มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์" ของรัฐบาล หนุนการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท

อัยการอุตรดิตถ์ โดนชกล้มหัวฟาดพื้นสมองบวม คนก่อเหตุเป็นน้องตำรวจ

เเหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า รองอัยการจังหวัดอุตรดิตถ์ ถูกทำร้าย หน้าห้องน้ำในผับเเห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงประมาณตี 3 ของวันเสาร์ ที่ 17 ส.ค.โดยถูกชกล้มฟาดพื้นสลบ